ชัชชาติลุยหาเสียงฝั่งธน เผยคะแนนยังอ่อน แต่ทำเต็มที่ เผยมีเฟกนิวส์เยอะ วอนรับมา อย่าส่งต่อ ตนพร้อมชี้แจง และจะทำงานให้ดีที่สุดด้วย
วันที่ 16 เม.ย.2565 นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่หาเสียงเขตทุ่งครุ ซึ่งเดินสำรวจตลาดเช้าตลาดใหม่ทุ่งครุตลาดพลาซ่า ที่เป็นพื้นที่การค้าชาวไทยพุทธและชาวไทยมุสลิมที่สามารถประกอบอาชีพร่วมกันสะท้อนความหลากหลายทางพหุวัฒนธรรม โดยเผยว่าเขตนี้ตนพบว่าคะแนนเราไม่ค่อยดี จึงต้องปรับกลยุทธ์ เข้าถึงชุมชน พยายามเจาะให้มากขึ้น ส่วนเรื่องข่าวปลอม ขอให้ฟังตนเป็นหลัก จะชี้แจงเอง ได้มาอย่าส่งต่อ
ตนมองว่าจุดอ่อนของตนคือฝั่งธนบุรี เราพยายามทำให้ดีที่สุด เหลืออีก 35 วัน คงได้แค่ไหนแค่นั้น แต่ลุยเต็มที่ คิดว่ามาถูกทางแล้ว การเดินแบบเน้นนโยบาย ลงตรงชุมชนแก้ปัญหาให้ประชาชน ซึ่งก็ได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดี แต่ทุ่งครุนั้นเป็นเรื่องปัญหาน้ำท่วม เพราะเป็นเขตต้นๆ ของแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งแต่ละพื้นที่มีปัญหาที่แตกต่างกันไป
เมื่อถามว่าคู่แข่งมีความพร้อมทางการเมือง นายชัชชาติ กล่าวว่า คงมีเรื่องที่ประกาศชื่อรองผู้ว่าฯ เรื่องนี้ตนขอปฏิเสธ ตนว่าเรื่องนี้เป็นเฟกนิวส์ การที่กระจายต่อนั้นไม่น่าทำ ยืนยันว่าเราไม่มีการประกาศชื่อรองผู้ว่ากทม.ทั้งสิ้น ซึ่งชื่อที่ออกมาก็ไม่เกี่ยวข้อง จะมีก็เพียงชื่อของน.ส.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ ทีมเศรษฐกิจของเรา แต่ก็ยังไม่ได้ว่าจะระบุเป็นรองฯผู้ว่า
ส่วนอีก 3 คนเป็นของพรรคเพื่อไทย ยืนยันร้อยเปอร์เซ็นต์ว่าไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกันเลย คนที่ออกข่าวมาเป็นผู้ไม่หวังดีจริงๆ ฉะนั้นแล้วได้รับมาก็ขอให้อ่านเฉยๆ อย่าส่งต่อ เพราะว่าจริงๆ แล้วการให้คุณให้โทษกับผู้ลงสมัครก็มีความผิด
ส่วนเรื่องออกประกาศการบินนั้น ต้องบอกว่าช่วง 15 ปีที่ผ่านมา ธุรกิจการบินของไทยบูมมาก ช่วงที่ตนทำงานที่คมนาคมระหว่างปี 2554-2555 จะเห็นว่าปี 2551- 2562 นั้น ผู้โดยสารเพิ่มจาก 58 ล้านคน เป็น 120 ล้านคน ซึ่งเป็นธุรกิจการบินบูมทัวโลก
ทั้งนี้ในการออกประกาศการบินของไทย มี 2 ใบ คือ AOL เป็นใบขึ้นทะเบียนว่าคนนั้นมีคุณสมบัติตามระเบียบ ซึ่งกฎหมายจะกำหนดชัดเจนเลยว่า ถ้าบินแบบประจำต้องมีทุนจดทะเบียนเท่าไหร่ มีเส้นทางการบินอย่างไร คนถือหุ้นเป็นอย่างไร โดยมีคณะกรรมการการจเป็นผู้พิจารณา ซึ่งกรรมการนี้จะประกอบไปด้วย อธิบดีกรมการบินพลเรือน,รองอธิบดีฝ่ายเศรษฐกิจ,ผอ.สำนักงานที่เกี่ยวข้อง และผู้เชี่ยวชาญเป็นบุคคลภายนอก 2 คน
เมื่อคณะกรรมการพิจารณาเสร็จถูกต้องตามกฎหมายก็ส่งให้รัฐมนตรีกระทรวงคมนาคมอนุมติ ซึ่งเรื่องนี้เราอนุมัติตามกฎหมาย หากถามว่าทำไมช่วงนั้นมีการอนุมัติเยอะก็ต้องบอกว่าไม่ได้เยอะเลย แต่เป็นไปตามความต้องการของตลาด เพราะผู้โดยสารเพิ่มขึ้นนั่นเอง
ดังนั้นที่เราอนุมัติไปนั้น ตนมองว่าเป็นไปตามหลักการ ถูกกฎหมาย มีกรรมการกลั่นกรอง ถ้าเราไม่ทำเรามีความผิดด้วยซ้ำไป ส่วนอีกใบเป็น AOC เกี่ยวกับมาตรฐานความปลอดภัย อันนี้จะไม่เกี่ยวกับเรากระทรวงเราแล้ว และที่ไอเคโอติงใบดังกล่าวในปี 2558 เป็นช่วงที่เราออกมาแล้ว
ดังนั้นเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องทุจริต ถ้ามีทุจริตตนคงไม่ได้อยู่ตรงนี้คงไปนานแล้ว เชื่อว่าปัญหาการบินไม่ได้อยู่ที่การประกาศออกใบอนุญาต
เมื่อถามว่า ใกล้เลือกตั้งแล้วมีความกังวลอะไร นายชัชชาติ กล่าวว่า ไม่มี เราเดินหน้าเต็มที่ เราสนุกมีความสุข ความหวัง อาจจะมีเรื่องข่าวที่ไม่ถูกต้อง เราก็แก้ข้อกล่าวหากันไป เรายืนตรงและเดินมาถูกทางแล้ว ตอนนี้มั่นใจ สิ่งที่ทำมา 2 ปีครึ่ง ไปถูกทางแล้ว
ขอให้ประชาชนใจมั่นๆ ข้อมูลที่ไม่แน่ใจอย่าไปส่งต่อ ถ้ามีอะไรให้ฟังตนเป็นหลัก ก็จะชี้แจงเอง จะเอารองผู้ว่าฯคนไหน ตนจะชี้แจงเองไม่ต้องมีคนอื่นมาช่วยคิด เพราะเลือกชัชชาติ ชัชชาติจะเลือกรองผู้ว่าฯ ที่ทำงานได้ดีที่สุด
เมื่อถามว่ากรณีนักการเมืองคุกคามทางเพศ นายชัชชาติกล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องซุกใต้พรมมานานแล้ว ตนว่าถึงเวลาที่ต้องเอาจริงเอาจังกับมันแล้ว ก็เป็นกำลังใจให้คนที่เป็นผู้เสียหาย และตอนนี้เข้าสู่กระบวนการทางกฎหมายแล้ว
“ขอให้ข้อเท็จจริงออกมารวดเร็วไม่ล่าช้า เพื่อสร้างความเป็นธรรมให้ทุกฝ่าย และไม่ขอวิจารณ์ในเรื่องนี้ เชื่อเป็นเรื่องส่วนบุคคล”