ชัชชาติไปบางบัว ส่งสัญญาณ ผอ.เขต ส.ก. ข้าราชการ ต้องลงพื้นที่ ยึดประชาชนเป็นที่ตั้ง ร่วมมือทำงาน เป็นกำลังส่งเสริมซึ่งกันและกัน

วันที่ 27 พ.ค.2565 นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ว่าที่ผู้ว่ากรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่เคหะบางบัว เขตหลักสี่ เพื่อตรวจสอบปัญหาขยะ การสร้างท่อระบายน้ำสัญจรและปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก โดยย้ำว่าการลงพื้นที่วันนี้ กระตุ้นให้ผอ.เขตและสก.ต้องสำรวจ ลงพื้นที่เร่งแก้ปัญหาให้ประชาชน โดยต้องจัดลำดับความสำคัญ เพราะแต่ละเขตก็มีปัญหาหลายอย่าง

โดยการลงพื้นที่วันนี้ ไม่ได้เป็นการลงมาแก้ปัญหาด้วยตัวเอง แต่เป็นการส่งสัญญาณข้าราชการและส.ก.ต้องลงมาดูแลประชาชน เอาคนในพื้นที่เป็นที่ตั้ง ไม่ต้องรอให้ผู้ว่าไปจัดการเอง

ขณะเดียวกัน ทางชุมชนก็ต้องให้ความร่วมมือกับกทม. ด้วย เช่น ในเรื่องการทิ้งขยะ กทม.สามารถเอาถังขยะมาให้ชุมชนได้ แต่ชุมชนต้องคอยช่วยกันสอดส่องดูแลให้มีการทิ้งขยะลงถัง เพราะกทม. ไม่สามารถเข้ามา สอดส่องได้ตลอดเวลา ทั้งชุมชนและกทม. ต้องร่วมมือกัน ต้องสร้างความไว้ใจซึ่งกันและกัน กทม. ต้องไม่มองว่าชุมชนเป็นภาระแต่เป็นกำลังเสริมที่สำคัญในการช่วยพัฒนาเมือง

สำหรับปัญหาเดือดร้อนของชาวชุมชนแฟลต 12 เคหะบางบัว คือการก่อสร้างท่อระบายน้ำ ที่มีการวางวัสดุก่อสร้างขวางทางสัญจร รวมทั้งปัญหาการจัดเก็บขยะมูลฝอย 1 ครั้งต่อสัปดาห์ ไม่เพียงพอกับความต้องการของประชาชน ขณะเดียวกัน พื้นที่ทิ้งขยะ ยังมีถังขยะไม่เพียงพอ ซึ่งปัญหาทั้งหมดที่กล่าวมาได้แจ้งให้ผู้อำนวยการเขตหลักสี่รับทราบ และเร่งแก้ไขปัญหา

วันนี้ไม่ได้เป็นการคาดโทษ ผอ.เขต เชื่อว่าทุกคนอยากที่จะทำงานเพื่อประชาชน และในอนาคตประชาชนจะมีส่วนในการร่วมประเมิน ผอ.เขต ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ ว่าปัญหาที่ร้องเรียนไปได้รับการแก้ไขหรือไม่ จะทำให้สามารถเห็นผลการทำงานของผอ.เขต และสามารถประเมินการทำงานได้ทันที

อย่างไรก็ตามการแก้ไขปัญหาในชุมชนไม่ใช่เรื่องยากและใช้งบประมาณสูง แต่เปลี่ยนวิถีชีวิต ความรู้สึกของคนในชุมชนให้ดีขึ้นได้ นอกจากนี้ความเร็วในการตอบสนองความต้องการของประชาชน เป็นส่วนสำคัญในการสร้างความไว้วางใจกับชุมชน ดังนั้นการแก้ปัญหาต้องรวดเร็ว หากมีความล่าช้าเกิดขึ้นประชาชนจะไม่มีความไว้วางใจ

นายสมบัติ กนกทิพย์วรรณ ผู้อำนวยการเขตหลักสี่ กล่าวว่า ขณะนี้ปัญหาแบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนแรก การก่อสร้างที่ยังเริ่มไม่ได้ตามสัญญา 180 วันนับจากต.ค.2564 เพราะติดปัญหาสาธารณูปโภคใต้ดิน และ 2. ขนาดท่อซีเมนต์ที่เป็นบ่อพักท่อที่วางเป็นแนวอยู่นั้น มีขนาดเล็กเกินไป ซึ่งใช้เส้นผ่าศูนย์กลาง 1 เมตร ทำให้ผู้รับเหมาต้องเปลี่ยนใหม่ทั้งหมด

โดยต้องใช้บ่อพักท่อที่ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 1.20-1.50 เมตร เป็นขนาดที่ใหญ่กว่าเดิม อย่างไรก็ตามต้องเจรจาให้ผู้รับเหมาขนย้ายออกไปภายใน 1 เดือน และหารือเพื่อวางแผนงานการก่อสร้างใหม่แล้ว