ชวน ยอมรับผลโพลทำ ปชป. เสียขวัญ กระตุ้นผู้สมัครอย่าท้อ ทำให้ดีที่สุด ย้ำ ถ้ามีสามัญสำนึก เสียงข้างมากต้องตั้งรัฐบาล โยน กก.บห. เคาะจะจับขั้วใคร

เมื่อวันที่ 8 พ.ค. 2566 นายชวน หลีกภัย อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) และ ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ให้สัมภาษณ์รายการ มุมการเมือง ทางไทยพีบีเอส ถึงปรากฏการณ์ประชาชนตื่นตัว ออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้งล่วงหน้า เมื่อวันที่ 7 พ.ค. กันมาก ว่า เป็นเรื่องดี ส่วนที่มีประชาชนกังวลเรื่องความพร้อมจัดการเลือกตั้งของกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และห่วงเรื่องการทุจริตนั้น เห็นว่า กกต. คงพยายามจะทำให้ดีที่สุด แต่อาจมีปัญหาเรื่องประสิทธิภาพของเจ้าหน้าที่แต่ละพื้นที่ในเรื่องความพร้อมและเรื่องการจับทุจริต

นายชวน กล่าวต่อว่า โดยเฉพาะเรื่องการใช้เงินเป็นเรื่องยาก ซึ่งนักการเมืองบ่นกันอยู่ว่า กกต. อาจไม่รู้ แต่ก็เป็นเรื่องยากที่จะทำให้การเลือกตั้งเป็นไปด้วยความสุจริตยุติธรรม แม้ว่าจะมีกระแสเกิดขึ้นทุกยุคทุกสมัยสำหรับการเลือกตั้ง กกต.ก็น่าจะรู้ แต่ในทางปฏิบัติจริงอาจไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะมีกระบวนการและวิธีการที่นักการเมืองใช้ ไม่ใช่หมาหอนแบบสมัยก่อน แต่อาจเป็นการทำอะไรล่วงหน้า เช่น จดชื่อเอาบัตรประจำตัวประชาชนไปก่อน ซึ่งต่างจากสมัยก่อน วิธีการยากที่จะไล่จับ อยู่ที่ความจริงจังและประสิทธิภาพของแต่ละคน

เมื่อถามถึงการลงพื้นที่หาเสียงสมัยนี้ต่างจากสมัยก่อนอย่างไร เสียงตอบรับกับประชาธิปัตย์เป็นอย่างไร นายชวน กล่าวว่า ดูจากผลสำรวจความเห็นหรือโพลแต่ละสำนัก ประชาธิปัตย์จะได้ที่นั่ง ส.ส.บัญชีรายชื่อ ไม่ถึง 10 คน ซึ่งส่วนตัวก็เสียดายหากบัญชีรายชื่อลำดับ 11 ถึง 15 หลุดไป ตนจึงพยายามรณรงค์ให้บุคคลเหล่านี้มีโอกาสได้รับเลือก

“ยอมรับว่าผลโพลที่ออกมาทำให้หลายคนขวัญเสีย จึงต้องส่งข้อความผ่านแอพพลิเคชั่นไลน์ ว่าให้ทุกคนพยามทำให้ดีที่สุด อย่าเพิ่งท้อแท้กับโพล ต้องทำให้ดีที่สุดจนนาทีสุดท้าย ขณะที่การลงพื้นที่แต่ละจังหวัดก็มีประชาชนมารอให้การต้อนรับ โดยเฉพาะที่แน่นที่สุด คือ สามจังหวัดชายแดนภาคใต้” นายชวน กล่าว

เมื่อถามถึงสิ่งที่ประชาธิปปัตย์จะต้องปรับในช่วงโค้งสุดท้ายให้คะแนนตีตื้น นายชวน กล่าวว่า กรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) กำลังดำเนินการ เช่น ออกรายการชี้แจงข้อมูลหรือนโยบายต่างๆ รวมถึงการชี้ให้เห็นศักยภาพของหัวหน้าพรรค นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ที่คนทั่วไปอาจยังไม่ทราบว่า ในบรรดาผู้นำที่แข่งขันครั้งนี้ นายจุรินทร์มีประสบการณ์ ทั้งด้านการเมืองและการบริหารสูงสุด ไม่ด้อยกว่าใคร และยังมีนโยบายของพรรคประชาธิปัตย์ที่ไม่มีพรรคใดกล้าพูด เช่น เรื่องการประกันรายได้ให้กับเกษตรกร และยังมีบางนโยบายที่ประชาชนชื่นชอบ นำไปปฏิบัติได้จริง

เมื่อถามถึงปัจจัยที่ทำให้เรตติ้งพรรคประชาธิปัตย์เปลี่ยนไปคืออะไร นายชวน กล่าวว่า ต้องให้สื่อประเมิน แต่ช่วงเปลี่ยนหัวหน้า หลังนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ลาออก อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ 3 คน ก็มองตรงกันว่านายจุรินทร์ มีคุณสมบัติที่เหมาะสมเหนือกว่าทุกคนที่จะมาทำหน้าที่หัวหน้าพรรคได้ แต่ทำไมคนไม่นิยม และการถูกตกปลาในบ่อเพื่อน เอาสมาชิกจากพรรคไป เช่น ใกล้ยุบสภา แล้วยังมีรัฐมนตรีลาออกที่เหมือนหลอกกัน ซึ่งน่าเจ็บปวด แม้จะเป็นสิทธิ์ แต่ก็ทำให้อ่อนพลังไปพอสมควร เพราะคนใหม่ที่มาไม่กี่เดือนกับคนเก่าที่อยู่ 4 ปีก็ต่างกันมาก ทำให้มีแนวโน้มผลการเลือกตั้งบางเขตยากขึ้น

นายชวน กล่าวต่อว่า เราจึงพยายามจะเอาบัญชีรายชื่อ แต่ 100 บัญชีรายชื่อ ถ้าดูจากโพล เหลือ 40 คนที่จะมาแบ่งในหลายพรรค เพราะ 2 พรรคเอาไปหมดแล้ว แต่ตนส่งไลน์ให้ ส.ส. ว่าอย่าท้อแท้ เมื่อดูจากผลโพล และเท่าที่สังเกตไม่น่าจะลดต่ำไปถึงขนาดนั้น ซึ่งต้องรอดูกันต่อไป

เมื่อถามถึงขั้วรัฐบาลหลังการเลือกตั้ง สถานการณ์การเมืองจะวุ่นวายตามที่หลายคนกังวลหรือไม่ นายชวน กล่าวว่า ถ้าตัวเลขเป็นไปตามผลโพลออกมา จะชัดเจนว่าเสียงข้างมากจะไปอยู่ที่ไหน ถ้ามองตามสามัญสำนึก ตัวเลขชัดเจนขนาดนี้ไม่น่ามีปัญหาในการจัดตั้งรัฐบาล แต่ถ้าดูเรื่องพฤติกรรมพรรคการเมือง หรือการยอมรับหรือไม่ยอมรับกันก็อาจจะเป็นปัญหาอยู่

เมื่อถามว่า พรรคประชาธิปัตย์จะร่วมตั้งรัฐบาลกับพรรคการเมืองขั้วเดิมหรือต่างขั้ว นายชวน กล่าวว่า ส่วนตัวไม่ได้เป็น กก.บห. ที่คิดแทนได้ โดยได้แต่ให้ข้อคิดว่าพรรคการเมืองที่เป็นสถาบัน ต้องพร้อมเป็นทั้งรัฐบาลและเป็นฝ่ายค้าน และที่ตนเคยใช้คำว่า จะร่วมกับพระก็ได้ กับโจรก็ได้นั้น รู้อยู่พวกไหนโกงบ้านโกงเมืองยังจะไปร่วมกับเขาเป็นเรื่องที่ต้องระวัง กก.บห.ก็คงตัดสินตอนนั้น