ชลน่าน ไม่หวั่นจำนำข้าวภาค 2 ต้นเหตุยุบเพื่อไทย เชื่อ พปชร.-รทสช. ควบรวมแน่

Home » ชลน่าน ไม่หวั่นจำนำข้าวภาค 2 ต้นเหตุยุบเพื่อไทย เชื่อ พปชร.-รทสช. ควบรวมแน่


ชลน่าน ไม่หวั่นจำนำข้าวภาค 2 ต้นเหตุยุบเพื่อไทย เชื่อ พปชร.-รทสช. ควบรวมแน่

ชลน่าน ไม่หวั่นจำนำข้าวภาค 2 นำสู่การยุบเพื่อไทย ชี้เป็นไปได้ พลังประชารัฐ-รวมไทยสร้างชาติ ควบรวมหลังเลือกตั้ง หวังสืบทอดอำนาจ

เมื่อวันที่ 28 พ.ย.2565 ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกระแสข่าวคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เตรียมพิจารณาการจำนำข้าวภาค 2 หลังมีหลักฐานชัดเจนว่าคนทางไกลวีดีโอคอลสั่งการ อาจเข้าข่ายการครอบงำพรรค อาจทำให้เกิดการยุบพรรคเพื่อไทยว่า มองว่าไม่เกี่ยวข้องกับการยุบพรรคเพื่อไทย และไม่น่าจะเป็นประเด็น

เมื่อถามว่าเรื่องดังกล่าวเกี่ยวกับการประชุมวิสามัญ เพื่อเลือกคณะกรรมการบริหารพรรควันที่ 6 ธ.ค.นี้หรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ไม่เกี่ยวข้องกัน การเลือกตั้งกรรมการบริหารพรรคและกรรมการสรรหาในวันที่ 6 ธ.ค. เพื่อทดแทนกรรมการบริหารที่ลาออก เนื่องจากใกล้เลือกตั้ง มีกรรมการบริหารหลายท่านที่เป็นส.ส.เขต ลงไปหาเสียงเลือกตั้งเขต มีความกังวลว่าจะกระทบ อาจถูกกลั่นแกล้ง เป็นเหตุให้กระทบกับพรรค

เมื่อถามถึงกรณีพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ระบุพรรคพลังประชารัฐ กับพรรครวมไทยสร้างชาติเป็นพี่น้องกัน ส.ส.ไหลกันไปมาไม่เป็นอะไร อาจจะมีการควบรวมพรรคในอนาคตหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ข้อเท็จจริงแต่ละพรรคต้องขึ้นทะเบียนพรรคการเมืองกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)

เมื่อถามว่ามีความกังวลจะมีการยุบพรรคใดพรรคหนึ่งเพื่อควบรวมกันในอนาคตหลังเลือกตั้งหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เป็นไปได้ เช่น กรรมการบริหารพรรคมีมติว่า ไม่สามารถดำเนินกิจกรรมต่อไปได้ ก็เป็นเหตุที่ยุบพรรคตัวเอง และสมาชิกที่เป็นส.ส.ก็ย้ายไปสังกัดพรรคอื่นได้ ซึ่งเหตุการณ์นี้เคยเกิดขึ้นมาแล้ว 2 ครั้ง หรือการขับออก ไปอาศัยเงื่อนไขการคุ้มครองสมาชิกที่เป็น ส.ส.ไปสังกัดพรรคใหม่ได้ในเวลา 30 วัน ฐานะสมาชิกความเป็นส.ส.ก็ยังอยู่

เหตุนี้จึงเป็นกลไกวิธีการที่จะเปลี่ยนพรรคหรือย้ายพรรค โดยอาศัยช่องทางของกฎหมาย ก็เป็นไปได้ว่าสองพรรคดังกล่าวที่บอกว่าเป็นพรรคพี่พรรคน้อง อาจจะไปแล้วไม่ไหว หรือเลือกตั้งแล้วไม่ประสบความสำเร็จ ก็จะเกิดการใช้วิธีกลไกต่างๆ ที่มาตามช่องทางกฎหมาย และย้ายไปอยู่ด้วยกันได้ โดยรวมมองว่าไม่แตกต่างกันในแง่ของพรรคจะแยกกันอย่างไร แต่แนวทางอุดมการณ์ เป้าหมาย วัตถุประสงค์ชัดเจนอยู่แล้วว่าต้องการสืบทอดอำนาจ ซึ่งประชาชนรู้อยู่แล้วนอกจากนี้ไม่มีความกังวล มองว่าเรื่องดังกล่าวไม่กระทบกับพรรคเพื่อไทย

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ