ชลน่าน มั่นใจ ศาลรธน.ตีกลับให้รัฐสภาแก้ไขปมหาร 500 ชี้ พรรคเล็กฆ่าตัวเองทางอ้อม โว พร้อมซักฟอก รัฐบาลแล้ว มั่นใจมีรมต.หลุดเก้าอี้กลางสภาฯ
เมื่อวันที่ 11 ก.ค. 2565 ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงสูตรคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หาร 500 อาจทำให้พรรคเพื่อไทยไม่ได้ ส.ส.บัญชีรายชื่อเหมือนการเลือกตั้งในปี 2562 ว่า ไม่น่าเหมือนเดิม แม้ว่าจะคำนวณแบบจัดสรรปันส่วนผสม มีส.ส.พึงมี โดยเอาส.ส.เขตมาลบกับส.ส.พึงมี เพื่อให้ได้ส.ส.บัญชีรายชื่อนั้น
หากเราสู้ในนามพรรคเพื่อไทย และวันนี้ประชาชนคับแค้นมากในการบิดเบือน ทำลายล้างระบอบประชาธิปไตย เป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองของผู้มีอำนาจ ซึ่งประชาชนจะสั่งสอน ดังนั้น พรรคเพื่อไทยจะได้ประโยชน์มากกว่า 15 ล้านเสียง ขึ้นอยู่กับการสื่อสารกับประชาชน โดยเราหวังถึง 18 ล้านเสียง
“ผมยังมั่นใจลึกๆ ว่าศาลรัฐธรรมนูญ ศาลฎีกา จะส่งข้อทักท้วงเป็นความเห็นมาว่า สิ่งที่รัฐสภามีมติแก้ไขตามมาตรา 128 ขัดกับมาตรา 91 ขณะที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ระบุว่าไม่สามารถนำไปสู่การปฏิบัติได้ เพราะไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ ก็เป็นหน้าที่ของรัฐสภาที่จะต้องกลับมาพิจารณาภายใน 30 วัน เพื่อแก้ไขให้สอดคล้องกับข้อทักท้วงนั้นตามสมควร
แต่หากยังจะตะแบงต่อเพื่อเอาใจคนชอบหาร 500 ก็ได้ แต่ต้องคำนวณเป็นสัดส่วนทางตรง ทอนให้เป็น 100 ให้ได้โดยไม่เกี่ยวข้องกับเขต แบบนี้ถึงจะชอบด้วยรัฐธรรมนูญ” นพ.ชลน่าน กล่าว
เมื่อถามถึงยุทธศาสตร์แตกแบงก์พัน นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ตนไม่ได้พูดว่ายุทธศาสตร์ขยายแบงก์พัน เพียงแต่บอกว่าถ้ากลไกกติกาบิดเบี้ยวแบบนี้ ภาคการเมืองย่อมมีวิธีการ ถ้าหากมีการตั้งพรรคมาใหม่เพื่อจะเอาคะแนน ส.ส.บัญชีรายชื่อ ถ้าทำได้จะได้เป็นกอบเป็นกำ เพราะไม่มีส.ส.เขต เอาแค่ 2-3 พรรค หารจำนวนส.ส.พึงมี นั่นคือจำนวนส.ส.บัญชีรายชื่อที่จะได้รับ ดังนั้น สิ่งที่พรรคเล็กลืมคิดถ้าได้คะแนนต่ำกว่า 140,000 คะแนน จะไม่มีพรรคใดที่ได้ ส.ส.บัญชีรายชื่อเลย เป็นการฆ่าตัวเองทางอ้อมโดยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์
นพ.ชลน่าน กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ว่า พรรคเพื่อไทยมีคณะทำงานฝ่ายเตรียมการ ซึ่งอยู่ในขั้นเตรียมความพร้อม ขณะนี้เหลือแค่การจัดลำดับตัวผู้อภิปรายและรัฐมนตรีที่ถูกอภิปราย โดยเราได้มอบให้ประธานวิปฝ่ายค้านและแกนนำพรรคร่วมฝ่ายค้านไปจัดสรรเรื่องเวลา พรรคเพื่อไทยได้เตรียมผู้อภิปรายไว้หมดแล้ว เหลือแค่ซักซ้อมการอภิปรายเพื่อความมั่นใจในสัปดาห์นี้
สำหรับข้อกล่าวหาเราแบ่งไว้เป็นกลุ่มๆ ตามที่เราเขียนไว้ในญัตติ จะมีข้อมูล ข้อเท็จจริง ข้อกฎหมายที่พิสูจน์ให้เห็นเหมือนขึ้นศาล แต่เป็นศาลประชาชน ซึ่งคณะทำงานและผู้อภิปรายของเราเตรียมการไว้อย่างดี มั่นใจว่าจะไม่มีคำว่าผิดหวัง เพราะเป็นการอภิปรายครั้งสุดท้าย ระยะเวลาของรัฐบาลชุดนี้ก็ทำให้ประชาชนได้เห็นแล้วว่า สิ่งที่เราพูดเป็นแค่การตอกย้ำ โดยเฉพาะเรื่องความผิดพลาดล้มเหลว
นพ.ชลน่าน กล่าวต่อว่า หลังอภิปรายไม่ไว้วางใจ เราจะนำข้อมูลในประเด็นข้อกล่าวหาที่เกี่ยวข้องกับการเอื้อประโยชน์ทุจริตเตรียมการจะส่งศาลอยู่แล้ว ประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการฝ่าฝืนบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ หรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรม จะส่งให้กับคณะกรรมการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)
เมื่อถามว่ามีโพลของประชาชนออกมาอยากให้อภิปรายเรื่องเศรษฐกิจ จะมีทีเด็ดอะไรหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เรื่องนี้จะเป็นหัวใจสำคัญ เป็นเรื่องความผิดพลาดล้มเหลว ปล่อยปละละเลย ละเว้นการปฏิบัติก็จะเข้าข่ายมาตรา 157
เมื่อถามถึงความมั่นใจว่าการอภิปรายครั้งนี้จะมีรัฐมนตรีหลุดเก้าอี้ทั้งหมดกี่คน นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ถามว่ากี่คนก็เป็นการเปิดไต๋ เอาไว้ลุ้นในสภาฯ มันส์กว่า หากบอกตอนนี้ก็จะมีรัฐมนตรีที่ก้นร้อน แต่มั่นใจจากข้อมูลที่ผู้อภิปรายเรามี ส่วนจะควบคุมเสียงการโหวตในสภาที่จะไม่ทำให้มีการซื้อขายกล้วยกันได้หรือไม่นั้น คงควบคุมไม่ได้ และเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา
นพ.ชลน่าน กล่าวด้วยว่า ส่วนจะรุนแรงมากขนาดไหนคงตอบไม่ได้ เพราะเงื่อนไขต่างๆ ค่อนข้างที่จะสมบูรณ์แล้ว หากตนเป็นฝ่ายที่ขอกินกล้วย ตนก็ยิ่งขอแพงมากกว่าเดิม การเข้ามาเป็นผู้แทนต้องทำเพื่อประชาชน ถ้ามัวแต่จะไปกินกล้วยคือจบชีวิตของการเป็นผู้แทนได้เลย ดังนั้น ส.ส.เหล่านี้คิดหนักระหว่างกล้วย 1 หวีกับอนาคตประชาชน และชื่อเสียงต่างๆ ที่จะอยู่ในสังคม