ชลน่าน ชี้ถ้าอดีตรองนายกฯ โยงพท.ต้องสั่งสอบ ปัดหลังไมค์ถามทนายตั้ม ในฐานะสมาชิกพรรค มีโทษขับออกหากมีเจตนาทำลายพรรค

เมื่อเวลา 12.15 น. วันที่ 8 ม.ค.65 ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรค พท.กล่าวถึงกรณีอดีตรองนายกฯ มีสัมพันธ์ชู้สาวกับภรรยาคนอื่น โดยมีการโยงมาว่าเป็นรองนายกฯ ในสมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ว่า

ตนเพิ่งทราบเรื่อง เพราะเท่าที่ติดตามข่าว ยังไม่ได้มีการระบุว่าเป็นใคร สมัยไหน แต่หากเกี่ยวข้องกับพรรค คงต้องมาดูรายละเอียดว่าเกิดขึ้นสมัยนั้นจริงหรือไม่ เขาเป็นใคร พฤติกรรมเกี่ยวเนื่องมาถึงปัจจุบันหรือไม่ อย่างไร เพราะเป็นภาพที่สังคมไม่ยอมรับ และพรรคพท.ไม่สนับสนุนส่งเสริม เรื่องนี้เราไม่ยอมรับกันอยู่แล้ว ก็ขอให้ว่ากันไปตามตัวบทกฎหมาย สังคมจะใช้มาตรการทางสังคมอย่างไรก็ต้องว่ากันไป

เมื่อถามว่าหากนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม เปิดเผยชื่อแล้วมีการโยงมาเป็นคนของพรรคพท.จริง ในฐานะหัวหน้าพรรคจะตั้งคณะกรรมการมาสอบหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ต้องดำเนินการว่าเกี่ยวข้องกับพรรคในมุมไหน อย่างไร หากเปิดออกมาแล้วไม่เกี่ยวข้องกับพรรคในปัจจุบัน เป็นเรื่องเมื่อ 10 ปีก่อนก็ต้องไปดูข้อเท็จจริงว่าจะต้องมีการสอบหรือไม่ อำนาจหน้าที่ในการสอบขณะนี้ต้องว่าไปตามข้อบังคับที่เรามี กฎหมายฉบับนี้ กรรมการบริหารชุดนี้ สมาชิกที่มีอยู่ หากมีความเกี่ยวเนื่องในส่วนนั้นก็จะมีอำนาจในการตั้งคณะกรรมการไปสอบได้ แต่หากไม่ได้เป็นสมาชิกในขณะนี้ เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตก็ไม่มีอำนาจจะไปสอบ แต่ก็เป็นเรื่องที่ต้องทำให้ชัดเจน เพื่อชี้แจงให้ประชาชนได้รับรู้ ทั้งนี้ ในส่วนที่นายษิทราแย้มตัวย่อมาเป็น ย. พรรคพท.ในสมัยน.ส.ยิ่งลักษณ์ มีชื่อย่อนี้หรือไม่นั้น ยังไม่ได้ตรวจสอบ ขอไปดูในรายละเอียดก่อน

เมื่อถามว่าการมาเปิดเรื่องนี้ในช่วงนี้ มองว่าเป็นการดิสเครดิตของพรรคการเมือง ตัวบุคคลหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ก็คิดได้ เพราะเท่าที่ดูข้อเท็จจริงที่ปรากฏตามสื่อก็เห็นว่าเรื่องนี้เป็นมาเป็นปีแล้ว และเคยมีการเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม เพื่อให้บุคคลที่เกี่ยวข้องรับผิดชอบแล้ว แต่อ้างว่ามีการข่มขู่คุกคามบุคคลที่เป็นสามี จึงนำเรื่องมาเปิด ซึ่งดูเหตุและผลแล้วก็คิดได้ว่าเกี่ยวข้องกับประเด็นทางการเมืองหรือไม่ อย่างไร แต่ถามว่าจะเกี่ยวข้องกับพรรค พท.หรือไม่ ก็อาจจะมองได้เช่นกันว่านายษิทราก็เป็นสมาชิกพรรค พท. เขาอาจจะออกมาในมุมปกป้องพรรคก็ได้

เมื่อถามว่านายษิทราเป็นสมาชิกพรรค พท. ในฐานะหัวหน้าพรรคได้หลังไมค์ไปคุยอะไรหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ไม่ เรื่องนี้ต้องทำให้เป็นที่ประจักษ์ชัดเจน เรามีรูปแบบคณะกรรมการ เขาเปิดมาขนาดนี้ถ้าจะหลังไมค์ไปบอกว่าหากเป็นพรรค พท.อย่าเปิดนะ ทั้ง พท.และนายษิทราตายด้วยกันหมด ไม่เป็นที่ยอมรับของสังคมแน่นอน เราไม่ได้ห่วง หากเปิดเพื่อการปกป้องพรรค เราก็ต้องขอบคุณนายษิทราด้วย หากอดีตสมาชิกพรรคเราไปมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม หากเรามองในมุมบวกก็เป็นการเอาสิ่งที่ไม่ชอบออกไป แต่ถ้าทำแล้วเป็นการไปลบล้างสิ่งดีๆ ที่พรรคกำลังทำอยู่ ก็สามารคตีความได้ว่าเป็นการทำลาย ต้องสืบดูว่านายษิทราในฐานะสมาชิกพรรคต้องการทำลายพรรคหรือไม่ หากมีเจตนาจะทำร้ายพรรคก็ต้องมีการตรวจสอบเช่นกัน โทษคือขับออกจากสมาชิกพรรค