ชลน่าน ขู่สภา หากไม่รับร่างรธน.ฉบับประชาชน วิกฤตการเมืองเกิดแน่!

Home » ชลน่าน ขู่สภา หากไม่รับร่างรธน.ฉบับประชาชน วิกฤตการเมืองเกิดแน่!


ชลน่าน ขู่สภา หากไม่รับร่างรธน.ฉบับประชาชน วิกฤตการเมืองเกิดแน่!

หมอชลน่าน ยันฝ่ายค้านโหวตผ่านร่างรธน.ฉบับประชาชนวาระ 1 แน่ เชื่อผ่อนคลายวิกฤตการเมือง ขู่ ถ้าสภาไม่รับร่างก็ต้องไปสู้กันบนถนน

วันที่ 16 พ.ย.2564 ที่รัฐสภา มีการประชุมร่วมรัฐสภา ที่มีนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ทำหน้าที่ประธานการประชุม เพื่อพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่…) พ.ศ. เสนอโดยนายพริษฐ์ วัชรสินธุ กับประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง จำนวน 135,247 คน

เมื่อเวลา 11.05 น. นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน อภิปรายว่า เหตุผลสำคัญที่ต้องรับหลักการร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญในวาระที่ 1 เพราะเป็นโอกาสบนวิกฤตที่เราประสบอยู่ รัฐสภาต้องช่วยกันให้เหตุผลใช้สติปัญญาอย่างรอบคอบ ซึ่งผลพวงจากการบังคับใช้รัฐธรรมนูญปี 2560 สร้างวิกฤตให้ประเทศอย่างใหญ่หลวง โดยเฉพาะวิกฤตทางการเมือง กระทบต่อเนื่องถึงเศรษฐกิจ มิติเชิงสังคม เรื่องปากท้องของประชาชน เป็นบทบัญญัติรัฐธรรมนูญที่เขียนไว้โดยมีวัตถุประสงค์สืบทอดอำนาจ

นพ.ชลน่าน กล่าวว่า หลักการแบ่งแยกอำนาจ หลักของความเป็นสากล ซึ่งไม่ยอมรับความเป็นสากลในระบอบประชาธิปไตยไม่พอ ผู้นำประเทศยังบอกว่าเป็นประชาธิปไตยแบบไทยๆ พูดอย่างนี้ไม่ได้ยกย่องประเทศตัวเอง แต่เป็นการด้อยค่า ไม่มีจิตสำนึกสำเหนียกที่จะต้องรับผิดชอบต่อประเทศชาติ ที่สำคัญมีกลไกที่เขียนไว้ชัดเจนในการสืบทอดอำนาจ ทั้งดัดแปลงระบบเลือกตั้ง ปัดเศษผู้แทน เรื่องเหล่านี้ได้ถูกสร้างเป็นกลไกไว้ในรัฐธรรมนูญ จึงจำเป็นต้องแก้ไข หากแก้ทั้งฉบับไม่ได้ การแก้รายมาตราก็เป็นเรื่องดีที่สุด

นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ถ้าสภาไม่ใช้โอกาสนี้รับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับนี้ เข้าสู่ชั้นกมธ. พิจารณาวาระที่ 2-3 ตลอดจนทำประชามติหากร่างฉบับนี้ผ่าน โอกาสที่จะเกิดวิกฤตทางการเมืองมีสูงมาก ซึ่งน่าเป็นห่วง ในการเคลื่อนไหวเรียกร้องเรื่องสิทธิเสรีภาพ ความเสมอภาค และภราดรภาพ เรื่องการปฏิรูป เรื่องรัฐธรรมนูญ และที่น่าเป็นห่วงที่สุดคือ คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญเมื่อ 10 พ.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งรัฐธรรมนูญบอกว่าคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญผูกพันทุกองค์กร การนำสู่ปฏิบัติจะเป็นเชื้อ เป็นมูลเหตุของความรุนแรง

ตัวอย่างเกิดขึ้นแล้วในการชุมนุมวันที่ 14 พ.ย.ที่ผ่านมา มีผู้ชุมนุมถูกยิง 3 คน ลักษณะเช่นนี้เหมือนกับรัฐธรรมนูญรับรองว่าทำได้ ในการรุกไล่ปราบปรามหรือเจตนาจะเข่นฆ่าคนไทยด้วยกัน ซึ่งจะลุกลามบานปลายเกิดวิกฤตทางการเมืองแน่นอน เพราะหลังจากคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญออกมาแล้ว นักวิชาการ องค์กรนิสิตนักศึกษาประชาชนทั่วไปออกมาต่อต้าน ไม่เห็นด้วย ซึ่งเป็นการริดรอนสิทธิต่อสู้คดี ริดรอนสิทธิเสรีภาพที่จะชุมนุมโดยสงบ สร้างบรรทัดฐานในการทำลายทำร้ายประชาชน

“อย่าให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้น หากรับร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้แล้วไปพิจารณาในวาระ 2 ผมคิดว่าประเทศจะผ่อนคลายลงมาก ขอเรียกร้อง ส.ว. ผู้ทรงเกียรติ 84 เสียงของท่านเพื่อประเทศชาติ หากเราตัดสินใจพลาดวันนี้ รัฐสภาไม่เป็นที่พึ่งที่หวัง เวทีต่อสู้ที่จะเกิดขึ้นคือท้องถนน ซึ่งท้องถนนเป็นเหยื่อของผู้มีอำนาจที่วางกับดักเอาไว้ว่า หากมีเหตุการณ์เช่นนี้จะยึดอำนาจ เข้าวงจรอุบาทว์ เราจะส่งเสริมให้มีวงจรอุบาทว์ในประเทศเป็นครั้งที่ 14 หรือ อย่าตัดสินบนท้องถนนเลย หากสิ่งนั้นไม่เกิดขึ้น”นพ.ชลน่าน กล่าว

นพ.ชลน่าน อภิปรายต่อว่า เรามาช่วยกันปลดวิกฤตนี้ โดยรับหลักการในวาระที่ 1 ซึ่งมีหลายเรื่องที่ต้องแก้ไข เช่น ระบบเลือกตั้ง ซึ่งไม่ใช่สาระสำคัญ เพราะหลักการเขียนไว้กว้างมาก เราก็ใช้เสียงข้างมากไปปรับแก้ให้สมบูรณ์ก็ได้ อาจไม่ใช่สองใบ แต่ใช้ใบเดียวแบบ MMA ก็ได้ หรืออาจคิดระบบเลือกตั้งใหม่ ก็ให้กมธ.ไปคุยกัน ทั้งนี้ พรรคเพื่อไทยยินดี ขณะนี้เราเห็นว่าง่ายที่สุดคือบัตร 2 ใบ แต่เมื่อผ่านกระบวนการคิดค้นที่ดีแล้ว มีระบบเลือกตั้งที่ดีมาทดแทนแล้ว นั่นคืออนาคตที่เราต้องพูดกัน ซึ่งหากร่างนี้ผ่านสามารถแก้ไขได้หมด

นพ.ชลน่าน กล่าวด้วยว่า ทั้งนี้ กมธ.อาจไปเขียนบทเฉพาะกาลรองรับบางเรื่อง ซึ่งตนเห็นใจ ส.ว. บางคนที่มีความรู้ความสามารถระดับ TOP 10 ของประเทศ แต่บังเอิญเข้ามาด้วยรัฐธรรมนูญ 2560 ถ้าเราเขียนบทเฉพาะกาลไม่หักดิบให้ท่านทำหน้าที่ต่อ แต่จำกัดกรอบอำนาจหน้าที่ให้ชัด ให้อยู่จนครบวาระเนื่องจากเป็นช่วงการเปลี่ยนต่อก็จะเป็นประโยชน์

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ