ชลน่าน กางไทม์ไลน์เปิดเวทีซักฟอก คาดช้าสุด ต้นเดือนก.ค. เผยฝ่ายค้านนัดเคาะอภิปรายทั้งคณะหรือตัวบุคคล พร้อมดีล 30 ส.ส.ซีกรัฐบาล ช่วยโหวตล้ม ประยุทธ์
เมื่อวันที่ 25 เม.ย.2565 ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงความคืบหน้าการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 151 ว่า ในวันที่ 26 เม.ย. หัวหน้าพรรคร่วมฝ่ายค้านจะประชุมผ่านระบบซูม เพื่อกำหนดประเด็นอภิปราย เชื่อว่าจะได้ข้อสรุปเรื่องเนื้อหาและจะอภิปรายรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล หรืออภิปรายทั้งคณะ
คาดว่าพรรคร่วมฝ่ายค้านจะยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ หลังจาก ร่างพ.ร.ป.เกี่ยวกับการเลือกตั้งทั้ง 2 ฉบับ เข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภาในวาระ 2 และ 3 ประมาณกลางเดือน มิ.ย. หรืออย่างช้าในสัปดาห์ที่ 3 ของเดือน มิ.ย. ดังนั้น การอภิปรายไม่ไว้วางใจน่าจะเกิดขึ้น ช่วงปลายเดือน มิ.ย. หรือต้นเดือนก.ค.
นพ.ชลน่าน กล่าวต่อว่า อีกปัจจัยที่ต้องพิจารณาประกอบการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ คือ การพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 คาดว่าจะเข้าที่ประชุมเพื่อพิจารณาในวันที่ 1-2 มิ.ย.นี้ หากกฎหมายงบประมาณ ไม่ผ่าน รัฐบาลก็ต้องไป โดยไม่ต้องยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ
นอกจากนี้ยังมีอีกหนึ่งปัจจัยที่จะส่งกระทบต่อเสถียรภาพของรัฐบาล คือ อายุการดำรงตำแหน่งนายกฯ ของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่จะครบ 8 ปี ในวันที่ 24 ส.ค. ส่วนเหตุผลที่เรานำกฎหมายลูกมาเป็นปัจจัยสำคัญกำหนดช่วงเวลายื่นอภิปราย เพราะเราต้องการให้กฎหมายทั้ง 2 ฉบับประกาศใช้ ก่อนอภิปรายและลงมติไม่ไว้วางใจ ไม่เช่นนั้นหากเกิดอุบัติเหตุทางการเมือง ประเทศจะถึงทางตัน ไปต่อไม่ได้
เมื่อถามว่าคาดการณ์ว่ารัฐบาลจะชิงยุบสภาก่อนหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ไม่ทราบ เพราะเป็นอำนาจของรัฐบาล หากรัฐบาลคิดไม่ดี ต้องการให้เกิดเดดล็อกทางการเมือง ถ้าถึงจุดนั้นประเทศจะวุ่นวายมาก ยุบสภาแล้วเลือกตั้งไม่ได้ แต่เท่าที่ฟังและรับรายงานจากวงในรัฐบาลก็ไม่อยากให้เกิดเรื่องแบบนี้ เกรงว่าจะมีปัญหาและเกิดทางตัน และเมื่อถึง 24 มี.ค. 2566 อายุสภาครบ 4 ปี ก็ยังเลือกตั้งไม่ได้ คำถามคือ รัฐบาลจะต้องรักษาการณ์ไปอีกนานแค่ไหน กลายเป็นรัฐบาลที่ไม่มีสภา ซึ่งมันไม่ควรเกิดขึ้น ผู้มีอำนาจไม่ควรคิดแบบนี้ และควรเร่งรัดให้กฎหมายแล้วเสร็จก่อน
เมื่อถามว่ามีโอกาสที่ส.ส.จะลงมติไม่รับร่างพ.ร.บ.งบประมาณปี 66 หรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า มีโอกาสเป็นไปได้ แต่นั่นความหมายว่าพรรคร่วมรัฐบาลคิดว่าไปไม่รอดจริงๆ
เมื่อถามถึงการดีลส.ส. 30 เสียงจากฝ่ายรัฐบาลให้มาอยู่ฝ่ายค้าน เพื่อลงมติไม่ไว้วางใจพล.อ.ประยุทธ์ มีความเป็นไปได้หรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ข้อมูลที่ใช้อภิปรายเป็นตัวโน้มน้าว ส.ส. 30 เสียง มาร่วมลงคะแนนไม่ไว้วางใจนายกฯ และรัฐมนตรี ส่วนจะประสานบุคคลหรือพรรคต่างๆ หรือไม่นั้น ยังไม่ได้ดำเนินการ หากจำเป็นต้องพูดคุยกันเพื่อบ้านเมือง ก็เป็นวิธีการที่ไม่เสียหาย
เมื่อถามย้ำว่าแสดงว่ามีโอกาสพูดคุยกับพรรรคเศรษฐกิจไทย ของร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ใช่หรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ในมิติทางการเมืองเราต้องพยายามอยู่แล้ว เราไม่ปฏิเสธ ไม่ว่าส.ส.ฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล แต่หลายพรรคต้องรักษามารยาททางการเมือง เพราะเป็นพรรคร่วมรัฐบาล หากจะออกมาทำอะไรโจ่งแจ้งก็จะกระทบการทำงานได้
เมื่อถามว่ามีโอกาสเกิดแผนล้มพล.อ.ประยุทธ์ อีกหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ตอบไม่ได้ เพราะเราไม่ได้อยู่ฝั่งรัฐบาล แต่สถานการณ์การเมืองค่อนข้างอ่อนไหว เกิดปรากฏการณ์พรรคปล่อยให้ ส.ส.ลาออกหรือย้ายพรรค เลือกตั้งซ่อมก็ไม่ส่ง มันเป็นสัญญาณเสมือนว่ารัฐบาลนี้อยู่ไม่ยาว