UNSEEN New Series เต็มตากับ 25 แหล่งท่องเที่ยวน่าสนใจและสุดแปลก มีสถานที่อันซีนไทยแลนด์แทบทุกภาค แม้จะไกลแค่ไหนก็อยากไปดูสักครั้ง

           สถานที่เที่ยวในประเทศเทศ ส่วนใหญ่มีทั้งที่เกิดจากปรากฏการณ์ทางธรรมชาติและที่มนุษย์สร้างขึ้น ซึ่งแต่ละแห่งก็จะมีจุดเด่นเฉพาะตัวแตกต่างกันไป ทำให้น่าไปสัมผัสและไปเห็นกับตาของตัวเอง วันนี้เราจึงมีอันซีนไทยแลนด์ทุกภาคทั่วไทย จากแคมเปญ 25 UNSEEN New Series ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย มาแนะนำกัน โดยทางเพจ Amazing ไทยแลนด์ ได้เผยภาพแหล่งท่องเที่ยวที่จะพาไปสัมผัสความมหัศจรรย์ของเมืองไทย ในมุมที่คุณอาจไม่เคยเห็น ดังนี้

          บ้านโบอ่อง เป็นหมู่บ้านที่ตั้งอยู่บนเกาะในอ่างเก็บน้ำเขื่อนวชิราลงกรณ อำเภอทองผาภูมิ มีสถานที่สำคัญคือ “เจดีย์พระธาตุโบอ่อง” สร้างอยู่บนยอดเขาหินปูนเล็ก ๆ บนเกาะกลางน้ำ มีลักษณะเป็นเจดีย์ทรงมอญ ความสูง 6 เมตร ฐานกว้างประมาณ 3 x 3 เมตร มีบึงน้ำใหญ่ล้อมรอบ และมีบัวขึ้นอยู่รายล้อม

          วัดถ้ำกระบอกเป็นอีกหนึ่งวัดสวยของจังหวัดสระบุรี มีไฮไลต์อยู่ที่ “พระพุทธรูปหินลาวา” สร้างด้วยหินแร่ต่าง ๆ จากทั่วประเทศ นำมาหลอมด้วยความร้อนสูงจนละลายกลายเป็นลาวา ก่อนนำมาขึ้นรูปเป็นพระพุทธรูปองค์ใหญ่สีดำในอิริยาบถต่าง ๆ ที่ไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน

          วัดป่าสักเป็นที่ตั้งของตะกรุดยักษ์มหารอด ที่หล่อจากทองเหลืองบริสุทธิ์ทั้งองค์ มีเส้นผ่าศูนย์กลาง 79 เซนติเมตร ความยาวตลอดทั้งองค์ 299 เซนติเมตร และมีน้ำหนักมากถึง 4 ตัน นับเป็นวัตถุมงคลขนาดมหึมา คนสามารถขึ้นไปลอดในตัวตะกรุดได้เพื่อความเป็นสิริมงคล

          วนอุทยานเขานางพันธุรัตมีพื้นที่ป่าอุดมสมบูรณ์ และมีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติให้ได้เที่ยวชมอย่าง จุดชมวิวกระจกนางพันธุรัต ลักษณะเป็นช่องเขาขนาดใหญ่ สามารถเดินลอดช่องกระจกและจะพบกับวิวธรรมชาติแบบพาโนรามา

          เขาทะลุมิติ คือ ฉายาของถ้ำเขาทะลุ แลนด์มาร์กแห่งใหม่ของราชบุรี ลักษณะเป็นโพรงถ้ำมองดูคล้ายซุ้มประตู โดยต้องเดินเท้าขึ้นเขาสูงชัน ซึ่งรับรองว่าวิวเขาทะลุมิติจะทำให้หายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง

          สวนพฤกษศาสตร์ระยองเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำระดับชาติ ประกอบด้วย ป่าพรุ หนองบึง และป่าบก รวมถึงเป็นแหล่งอาศัยของนกนานาชนิด มีไฮไลต์อยู่ที่ “ป่าเสม็ดพันปี” ส่วนใหญ่เป็นต้นเสม็ดขาวขึ้นอยู่บนพื้นดินที่มีน้ำท่วมขัง นักท่องเที่ยวนิยมพายคายักหรือล่องเรือชมวิวธรรมชาติ

          หุบเขาไดโนเสาร์ (Dinosaur Valley) สวนนงนุช เป็นสถานที่รวบรวมรูปปั้นไดโนเสาร์ทุกสายพันธุ์มากกว่า 230 ชนิด จำนวนมากถึง 814 ตัว มีความเหมือนจริงในทุกรายละเอียด ไม่ว่าจะเป็นสีผิว ลวดลาย รอยย่นของผิวหนัง ท่ายืน และขนาดเท่ากับฟอสซิลที่มีการบันทึกไว้ กลายเป็น “จูราสสิก เวิลด์” ในโลกแห่งความจริง

          จุดชมวิวเขาบ่อเตยอยู่ในเขตห้ามล่าสัตว์ป่าคุ้งกระเบน มีจุดอันซีนอยู่ที่ “ลานหินสีชมพู” ที่จะเห็นชัดเจนในช่วงที่มีแสงแดดกระทบ และยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงาม

          พระจมน้ำ หรือพระพุทธสิริภูวดลมงคลชัย เป็นพระพุทธรูปสูงกว่า 5 เมตร ที่จมอยู่ในน้ำกลางอ่างเก็บน้ำเขาระกำ โดยในอดีตจุดที่ตั้งของพระพุทธรูปเคยเป็นที่ตั้งของสำนักสงฆ์เขาระกำ ก่อนจะมีการสร้างพื้นที่อ่างเก็บน้ำเพิ่มจนทำให้น้ำท่วมถึง และกลายเป็นจุดที่ชาวบ้านเรียกว่า “พระจมน้ำ” อย่างในปัจจุบัน

          แหล่งท่องเที่ยวและจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นและตกบนยอดดอยบ้านป่าหวาย อำเภอพบพระ ในฤดูฝนจะได้สัมผัสทะเลหมอก และในฤดูหนาวจะได้ชมทุ่งดอกเสี้ยนฝรั่งสีสวยเต็มยอดดอย

          แหล่งท่องเที่ยวสายแอดเวนเจอร์แห่งใหม่ ตั้งอยู่ที่บ้านมุง อำเภอเนินมะปราง ท้าทายให้สายลุยไปพิชิตยอดเขาหินปูน ชมวิวแปลกตาของป่าหินลอยฟ้าแบบ 360 องศา

          ถ้ำขนาดใหญ่มีความท้าทายในระดับยากถึงยากมาก ในแต่ละปีมีนักท่องเที่ยวที่สามารถพิชิตถ้ำนี้ได้เพียง 70-100 คน ทำให้ธรรมชาติภายในถ้ำยังคงความสมบูรณ์ หินงอก หินย้อย ม่านหิน เสาหิน ยังคงเจริญเติบโต (มีชีวิต) และเปล่งประกายระยิบระยับสวยงาม

          วัดเก่าแก่ประจำชุมชนชาวไทใหญ่ในอำเภอเชียงคำ ภายในพระวิหารเป็นที่ประดิษฐานพระประธานปางมารวิชัย พุทธลักษณะแบบศิลปะมัณฑะเลย์ (เมียนมา) หากลองสังเกตดี ๆ ที่รูปแกะสลักด้านหลังพระประธานจะมีรูปแกะสลักคิวปิด (Cupid) กามเทพตัวน้อย ประดับอยู่ 8 องค์ เป็นจุด UNSEEN ที่น่าค้นหา

          วัดเก่าแก่สมัยพุทธกาลที่สร้างจากพลังศรัทธา ตั้งอยู่ท่ามกลางป่าลึก มีบันไดนาคขนาดใหญ่ทอดขึ้นไป พระอุโบสถถูกปกคลุมไปด้วยมอสส์ ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปไม้ปางจงกรมแก้ว แกะสลักมาจากไม้ใหญ่ต้นเดียว มีความวิจิตรสวยงามอย่างยิ่ง

          ชาวมุกดาหารมีความเชื่อและนับถือศรัทธาองค์พญานาค โดยมีพญานาคศักดิ์สิทธิ์ 3 องค์ ตัวแทนจาก 3 พิภพ เป็นที่สักการะขอพร ได้แก่
 

• องค์ที่ 1 “พญาศรีภุชงค์มุกดานาคราช” เป็นพญานาคดิน ตั้งอยู่ที่แก่งกะเบา

• องค์ที่ 2 “พญาอนันตนาคราช” เป็นพญานาคน้ำ ตั้งอยู่บริเวณศาลปู่พญานาค สะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 2

• องค์ที่ 3 “พญาศรีมุกดามหามุนีนีลปาลนาคราช” เป็นพญานาคฟ้า ตั้งอยู่ที่วัดรอยพระพุทธบาทภูมโนรมย์

          สถานที่ศักดิ์สิทธิ์กลางขุนเขา เป็นที่ตั้งของพระพุทธรูปปางสมาธิสีขาว จำนวนกว่า 1,250 องค์ ภายในอุทยานเทิดพระเกียรติบ้านหมากแข้ง อำเภอด่านซ้าย โดยในช่วงฤดูทำนาจะเห็นวิวทุ่งนาขั้นบันไดเป็นฉากหลังสวยงาม

          แลนด์มาร์กใจกลางเมืองร้อยเอ็ด สถาปัตยกรรมที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก “โหวด” ซึ่งเป็นเครื่องดนตรีพื้นบ้านอีสานและเครื่องดนตรีประจำจังหวัดร้อยเอ็ด โดยที่นี่เป็นหอชมเมืองสูง 35 ชั้น ความสูง 101 เมตร ภายในมีทางเดินบนพื้นกระจกบนชั้น 34 ที่สามารถชมทัศนียภาพเมืองร้อยเอ็ดแบบ 360 องศา

          ที่ตั้งของ “เมืองลอยฟ้า” จุดชมวิวทิวทัศน์ของทุ่งกังหันลมจากอ่างพักน้ำตอนบนเขายายเที่ยง รวมถึงเป็นที่ตั้งของ “เมืองใต้พิภพ” ที่อยู่ลึกไปใต้ผิวดินกว่า 350 เมตร เป็นอุโมงค์โรงไฟฟ้าใต้ดิน จุดเช็กอินที่ไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือน

          โครงการโลกของช้าง หรือ Elephant World เป็นโครงการใหญ่บนพื้นที่กว่า 500 ไร่ ติดกับศูนย์คชศึกษา บ้านตากลาง จัดตั้งขึ้นเพื่อเป็นสถานที่จัดแสดงเรื่องราวของช้าง เป็นแหล่งศึกษาข้อมูลทางวิชาการของช้าง และเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์เกี่ยวกับช้างแบบครบวงจร

          เกาะเล็ก ๆ ห่างจากฝั่งบ้านน้ำเค็ม อำเภอตะกั่วป่า ประมาณ 10 กิโลเมตร ทั้งเกาะมีแต่หาดทรายสีขาว มองดูคล้ายผืนพรมกลางทะเลอันดามัน โดยจะเผยให้เห็นยามน้ำทะเลลดต่ำจนสันทรายของเกาะโผล่พ้นน้ำขึ้นมาเท่านั้น

          สถานที่ประดิษฐานพระพุทธรูปสีทองปางมารวิชัยองค์ใหญ่ หันพระพักตร์สู่วิวทะเลหมอกตระการตาในยามเช้ามองดูคล้ายประตูสวรรค์ที่สวยงาม และโดยรอบยังถูกโอบล้อมด้วยผาหินสูงตระหง่านคล้ายกำแพงป้อมปราการสุด UNSEEN

          คลองน้ำจืดสายเล็ก ๆ ชื่อ คลองหนองทะเล ที่มีลักษณะคล้ายป่าพรุที่เต็มไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ ต่อมามีการขยายทางน้ำทำให้กลายเป็นแอ่งน้ำขนาดใหญ่ มีธรรมชาติที่สมบูรณ์ น้ำใสสะอาด กลายเป็นจุดพายเรือคายักชมธรรมชาติที่สวยงาม

          เกาะยือลาปี หรือเกาะเล่าปี่ เป็นเกาะหินเล็ก ๆ ที่ตั้งโดดเดี่ยวอยู่กลางทะเลปัตตานี ที่นี่มีโลกใต้น้ำอุดมสมบูรณ์ไปด้วยปะการัง ดอกไม้ และทุ่งกัลปังหาสีชมพูที่หาชมได้ยาก 

          เกาะเล็ก ๆ ในทะเลสาบสงขลา เชื่อมต่อกับแผ่นดินใหญ่ด้วยสะพานที่ยาวไม่ถึง 100 เมตร บนเกาะเป็นที่ตั้งของชุมชนชาวประมงที่ผูกพันกับธรรมชาติมาเป็นเวลานาน รวมทั้งมีผืนป่าและทะเลที่อุดมสมบูรณ์ ที่นี่จึงเหมาะกับการท่องเที่ยวเชิงนิเวศและธรรมชาติ เพื่อสัมผัสวิถีชีวิตชาวเกาะหมากที่แท้จริง

          กองหินขาวเป็นแท่งหินสีขาว ตั้งอยู่กลางทะเลในเขตอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา ด้านใต้ผืนน้ำอุดมสมบูรณ์ไปด้วยปะการังอ่อนหลากสี กัลปังหากว่า 10 ชนิด และปลาน้อยใหญ่ถึง 80 ชนิด

          ประเทศไทยมีสถานที่ท่องเที่ยวอันซีนอีกมากมายแทบทุกภาค ใครที่รักการท่องเที่ยวหรืออยากหาวันพักผ่อนไปชื่นชมธรรมชาติ หากมีโอกาสไม่ควรพลาดแพ็กกระเป๋าออกเดินทางไปสัมผัสกันสักครั้ง ทั้งนี้ อย่าลืมเช็กข้อมูลก่อนการเดินทาง รวมถึงยกการ์ดสูงไว้เสมอนะ

หมายเหตุ : ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงกรุณาตรวจสอบอีกครั้ง

ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
เฟซบุ๊ก Amazing ไทยแลนด์, pilok.go.th