“ชมพู่ อารยา” ใจฟู คืนบัลลังก์พรมแดงได้อย่างงดงาม จำใจห่างลูกเพื่อความฝัน

คุณแม่ซุปตาร์ ชมพู่ อารยา มาร่วมงาน “Vigor’s night 2” ของโรสโกลด์ ไทยแลนด์ฉลองยอดขาย Sakana Collagen X10 2 ล้านกระปุก ณ โรงแรม Capella Bangkok โดยภายหลังจบงาน ได้ให้สัมภาษณ์ ถึงเรื่องที่ได้กลับไปเฉิดฉายบนพรมแดงงานปารีสอีกครั้ง โดยที่ไปครั้งนี้ก็จำใจยอมห่างลูกเพื่อตามความฝัน พร้อม
อัพเดตว่าตอนนี้เป็นยูทูบเบอร์แล้ว

 

 

 

ได้กลับไปร่วมงานปารีสแฟชั่นวีกอีกครั้ง? “กลับมายืนที่เดิม (หัวเราะ) ก็คิดถึงแหละ ต้องบอกว่าตรงนี้มันเป็นแพสชั่นของเราจริงๆ ชอบที่จะไปอยู่ตรงนั้นจริงๆ (ยิ้ม)”

ประมาณกี่โชว์? “อาจจะประมาณ 7-8 โชว์ ไม่แน่ใจเหมือนกัน (ยิ้ม)”

มีอะไรที่เปลี่ยนไปมั้ยหลังจากปิดโควิดไปนาน? “บางอย่างก็เหมือนเดิม บางอย่างก็ยังไม่กลับมาเหมือนเดิม แน่นอนเรื่องของเทรนด์ เรื่องของแฟชั่นมันเปลี่ยนไปอยู่แล้ว เพราะมันเป็นเรื่องของแฟชั่น เทรนด์มันเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาและฝรั่งเขาก็ไม่ใส่แมสก์กันแล้ว ชิลมากแล้ว แต่บางอย่างก็ยังไม่ได้เหมือนเดิม 100% อย่างเอเชียก็อาจจะยังไม่ได้มาครบทุกประเทศ โดยเฉพาะคนจีนก็ยังไม่ได้มาแบบเต็มทีม”

ส่วนตัวเราแฮปปี้ขนาดไหน? “ก็อย่างที่บอกว่าเป็นอะไรที่เราชอบ มันเป็นเอนเนอร์จี้แบบที่เราชอบ ที่สำคัญคือออกนอกประเทศครั้งแรกตั้งแต่คลอดลูก”

 

คนก็ชมว่าแฟชั่นจัดเต็มเหมือนเดิม? “ก็เป็นเรา เราก็รู้สึกว่า 3 ปีที่เราไม่ได้กลับไป เราเองก็ยังมีการเปลี่ยนแปลง หรือเจออะไรในตัวเรา มันก็ชัดเจนขึ้น ยิ่งแก่ก็รู้ว่าเราชอบอะไร”

ลุกส์ในแต่ละวันวางแพลนยังไง? “แน่นอน เราก็ต้องจัดกระเป๋าไปก่อน เราจะไปดุ่ยๆ เอาข้างหน้ามันก็ไม่ได้ ก็อยากทำให้มันรู้สึกเป็นเราที่สุด”

จะทำแบรนด์ของตัวเองไหม? “ชมคิดว่าคำว่า chomismaterialgirl มันก็อยู่กับเรามานาน ตั้งแต่มีไอจี จริงๆ ก่อนที่จะมีแพลตฟอร์มอะไรพวกนี้ มันก็เป็นชื่อที่เราใช้ลับๆ มาก่อนอยู่แล้ว เป็นนามแฝงเราอยู่แล้ว มันก็เหมือนเป็นแบรนด์เรานั่นแหละ แต่ถามว่าอยากจะทำให้ออกมาเป็นชื่อเราชัดเจนเลยไหม ชมว่าถ้าเราจะทำธุรกิจมันไม่จำเป็นต้องฟิกซ์ว่าต้องเป็นแบบนี้ๆ ถ้าชมจะใช้ชื่อนี้ทำอะไรสักอย่างและฟิกซ์ว่ามันจะต้องเป็นแบบใดแบบหนึ่ง อาจจะยากไป”

“แต่ชมก็มีความสนใจหลายอย่าง ก็หยิบจับอะไรไปเรื่อย ก็รอดูแล้วกัน เป็นแม่ค้าแหละ (ยิ้ม) คือเราก็ไม่ใช่ว่าใส่เสื้อผ้ายี่ห้อเดียว แต่ธุรกิจที่เราทำอยู่ Haus of abbi ก็เป็นการร่วมกับแบรนด์นั้นแบรนด์นี้ ก็มีแบรนด์ที่อยู่ภายใต้บริษัทเราก็มี ก็จะมีแอบขายซึมๆ อยู่ ก็ติดตามได้ เพียงแต่เราไม่ได้มาบอกว่านี่คือแบรนด์ชมนะ (ยิ้ม) ก็ขายเนียนๆไป”

จะสิ้นปีแล้วอยากพาครอบครัวไปเที่ยวไหนไหม? “จริงๆ เรื่องทริปพากันเที่ยวก็มีแหละ เด็กๆ ก็โหยหานะ น้องเกลก็คิดว่าน่าจะไปประเทศง่ายๆ ได้ ประเทศที่เฟรนด์ลี่กับเด็กหน่อย ห้องน้ำสะดวก”

ไหวใช่ไหมลูก 3 แล้ว? “ก็ถูๆ กันไปค่ะ (หัวเราะ) มันก็ขลุกขลักแหละ มันไม่สมูทหรอกค่ะ ลูกตั้ง 3 เนอะ จะเอาที่ไหนมาสมูท แต่มันก็คุ้มที่เราจะถูลู่ถูกังกันไป”

ตอนที่ไปปารีสต้องห่างลูกๆ เป็นยังไงบ้าง? “ก็คิดถึงแหละ แล้วก็ไปส่งที่สนามบินกันหมดเลย ก็ใจหาย แต่ลูกก็ยังเล็กคนโตก็ติดมาก แต่มันก็ต้องไป ก็ต้องบอกว่าตรงนี้มันเป็นความฝันของแม่นะลูก เป็นความชอบของแม่ (หัวเราะ) ก็รีบไปรีบกลับค่ะ ไม่ได้เที่ยวอะไรเลย ใช้เวลาทุกนาทีที่นู่นแบบคุ้มค่ามากๆ ให้มันได้งานให้คุ้มกับเวลาที่เราจากลูกมา”

พี่พา พี่สาย เข้าใจไหม? “เขาก็เข้าใจว่าแม่ไปทำงาน แต่เราก็บอกเขาล่วงหน้าเป็นเดือนเลยนะ โดยเฉพาะพี่สายเพราะเขาติดแม่ ก็บอกว่าเดี๋ยวแม่จะไปนะ ไป 7 วัน เขาก็ถามว่า 7 วันไหนแค่ไหน เพราะว่าเด็กเขาไม่ค่อยเข้าใจเรื่องเวลา ก็บอกว่านานเหมือนกัน พี่สายไปโรงเรียนอาทิตย์นึงแหละ”

พี่สายโหยหาคุณแม่ยังไงบ้าง? “ก็จะวิดีโอคอล คือจะมีเวลาประจำเป็นเวลาที่พี่เลี้ยงไปรับที่โรงเรียน ซึ่งมันจะเป็นเวลาที่เขาไม่ได้นอน แล้วก็เราไม่ได้นอน หรือไม่ก็เวลาเช้า เวลาที่ชมตื่นเช้ามาปั๊มนมก็จะได้คุยกัน“

กลับมาคือกอดแน่นเลยไหม? “กอดนอน นอนเกยกัน (ไม่เจอกันนานคิดถึงแม่มาก?) ใช่“

อย่างตัวพี่สายเองเขาสามารถดูแลน้องน้องได้ไหม? “คือเขาต้องดูแลตัวเองก่อน (หัวเราะ) แต่เขาก็มีสปิริตความเป็นพี่แหละทั้งสองคน“

ส่วนน้องเกลแม่ก็แซวผม? “ผมยาว ผมนางร่วง แต่ว่าคุณยายเขาก็บอกว่าตอนที่ชมเกิดแบบนี้เลย ผมเต็มแล้วก็ชี้ประมาณนี้ ก็ค่อยๆ ร่วง เราก็ลุ้นอยู่ว่าจะร่วงหมดไหม“

แบบนี้จะต้องโกนแล้วให้มันขึ้นใหม่ไหม? “จริงๆ ไม่ต้องโกนมันก็ขึ้นนะ แต่อันนี้มันก็ความเชื่อแต่ละบ้าน แต่ว่าพี่สายพี่พาก็ไม่ได้โกน“

ตอนเห็นลูกผมร่วงเราตกใจไหม? “ไม่ตกใจหรอกค่ะ เพราะรู้ว่าเดี๋ยวมันก็ขึ้น เพราะเราก็จะเห็นว่ามีผมใหม่ขึ้น เราจะเห็นมันมีเลเยอร์ค่อยๆ หนาขึ้นไปเรื่อยๆ“

ผมเปลี่ยนหน้าเขาก็เปลี่ยนไปเรื่อยๆ? “คือจริงๆ อ่ะ เด็กๆ หน้าเขาเปลี่ยนทุกวันตลอดเวลา“

เพิ่งไปร่วมฉลองกับ แพทริเซีย บรรยากาศเป็นยังไงบ้าง? “อันนั้นคือบรรยากาศยังไม่ใช่งานแต่งนะคะอันนั้นก็จะเป็นการสละโสด ก็คนเยอะแยะวัยรุ่นเต็มเลย แล้วชมก็..(หัวเราะ)”

ได้มีอวยพรอะไรกันไปหรือยัง? “จริงๆ อ่ะยังไม่ได้ขนาดนั้น เป็นเรื่องเป็นราว วันนั้นคนเยอะ ก็ยังไม่ได้มีโอกาส“

พ่อน็อตกับแม่ชมก็หวานไปหลายแอ๊กมาก? “ก็เขามีบูธให้ถ่าย ก็เอาซะหน่อย“

ปกติมีโมเมนต์ประมาณนี้มีบ่อยไหม? “ไม่ค่อยหรอก ส่วนมากจะยุ่งๆ แต่วันนั้นก็แต่งตัวก็มากันทั้งผัวทั้งเมียแล้วก็นิดนึง“

แต่ที่ผ่านมาส่วนมากโมเมนต์แบบนี้เราจะเห็นในวันพิเศษแล้วทางพี่น็อตเองเขาก็ทำเซอร์ไพรส์เขียนซึ้งถึงตลอดมาไม่เคยลืมเลย? “นางไม่ลืมเพราะนางเป็นคนที่จดไว้ในปฏิทินไง ก็จะตั้งเตือน นางไม่ลืมอะไรพวกนี้เพราะมันจะเตือน แต่เราอาจจะมีลืม เพราะว่าเราเป็นแบบแมนวลไง“

เห็นคอมเมนต์แซวเยอะมาก? “ใช่ค่ะ เพราะว่าส่วนใหญ่เราไม่ค่อยได้ลงอะไรในชีวิตประจำวัน ก็ทั้งคู่ก็จะทำงานกันไปนานๆ ทีฟีดแบ็กมันก็จะเยอะนิดนึง“

ล่าสุดก็คือถ้าคิดถึงก็เปิดช่อง YouTube ได้? “ใช่ล่าสุดก็เป็นยูทูบเบอร์แล้ว จริงๆ อยากทำมานาน พอมันมีแพลตฟอร์มไหนขึ้นมาเราก็อยากทำไปหมด เพราะว่าตอนนี้มันก็ถือว่าเป็นอีกยุคหนึ่งไปแล้ว คือมันก็ไม่ได้มีเวลาคิดไม่ได้มีเวลาได้ทำ จริงๆ อ่ะ ถามว่า ตอนนี้เราพร้อมที่สุดไหม มันก็ไม่ได้พร้อม แต่ถ้าเกิดมัวแต่คิดเยอะมันก็จะไม่ได้ทำสักที เราก็เสียดายคอนเทนต์ เพราะว่าเรามาอยู่ตรงนี้แล้วทำไมถึงไม่เอามาแชร์บ้าง“

ตั้งคอนเทนต์ไว้เป็นแบบไหน? “ก็เป็นตัวเรา อยากทำอะไรก็ทำ อย่างเมื่อก่อนก็จะคิดอะไรเยอะทบทวนเยอะไม่ทำสักทีกลัวตรงนั้นตรงนี้ไม่ดี เกิดทีเดียวตายทีเดียวอยากทำอะไรก็ทำเถอะ“

วาง concept ประมาณไหนหรือจะเข้าครัวเก็บมะละกอ? “จะบอกว่าเรื่องเก็บมะละกอยายหนิงกำลังจะเป็น YouTuber ถ่ายสต๊อกไว้เยอะแล้วเหมือนกัน คือโปรดักชั่นเค้าอ่ะดีกว่าโปรดักชั่นเราอีกด้วยนะ เขามีทีม คอนเทนต์เขาฝั่งยายก็จะเป็นแบบนั้นเลยอ่ะ แต่ของชมก็คือไม่รู้ขอดูทิศทางก่อน ตอนนี้ก็ยังตอบไม่ได้ ตอนนี้ปล่อยใจฝันไหลๆ ไปอ่ะ“

ต้องฝึกพูด กดไลก์ กดแชร์ กด subscribe หรือต้องไปเรียนกับยายหนิง? “(หัวเราะ) ยายหนิงคล่องมากนี่งงมาก คือยายเป็น YouTuber เลย เขาเป็น concept แบบฟาร์มทูเทเบิล ทำสวน คือเลี้ยงไก่เองอะไรเอง คือขั้นนั้นแล้ว ก็คือของคุณยายน่าติดตามกว่าของชมเยอะ“

ก็จะมีผู้ช่วยไปละสองคน? “ใช่ คือบางเทป“

ลูกค้าเข้ายายหรือยัง? “เออเข้าแล้วชมยังเลย(หัวเราะ)”