ฉายหนังให้ผีดู เชื่อวิญญาณทหารยังอยู่เฝ้าถ้ำสมบัติ เจอเสียงปริศนาขนลุกจนต้องเผ่น

Home » ฉายหนังให้ผีดู เชื่อวิญญาณทหารยังอยู่เฝ้าถ้ำสมบัติ เจอเสียงปริศนาขนลุกจนต้องเผ่น
ฉายหนังให้ผีดู เชื่อวิญญาณทหารยังอยู่เฝ้าถ้ำสมบัติ เจอเสียงปริศนาขนลุกจนต้องเผ่น

จ้างหนังให้ผีดู เชื่อวิญญาณทหารสมัยจอมพล ป. ยังอยู่เฝ้าถ้ำสมบัติ คนฉายหนังเจอเรื่องขนลุกจนต้องเผ่น

(14 ก.ค.66) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า ที่บริเวณหน้าถ้ำฤษีสมบัติ ต.บุ่งน้ำเต้า อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ ได้มีชาวบ้าน ต.บุ่งน้ำเต้า จำนวนหนึ่ง จัดพิธีบวงสรวงดวงวิญญาณของทหาร ที่เสียชีวิตในช่วงระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 รวมทั้งได้จ้างหนังกลางแปลงมาฉายให้ดวงวิญญาณของทหารเหล่านั้นได้ดูด้วย จึงเดินทางไปตรวจสอบ พบว่าที่บริเวณหน้าถ้ำสมบัติ ซึ่งเป็นถ้ำอยู่กลางหุบเขา ห่างจากชุมชนประมาณ 1.5 กิโลเมตร ได้มีชาวบ้านจำนวนหนึ่งประกอบพิธีขอขมาต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ รวมทั้งดวงวิญญาณของทหารที่เสียชีวิตอยู่ในบริเวณดังกล่าว เสร็จแล้วได้มีการฉายหนังกลางแปลง ท่ามกลางบรรยากาศโดยรอบที่มืดและปกคลุมไปด้วยป่าไม้ โดยมีชาวบ้านจำนวนหนึ่งนั่งดูอยู่ตามจุดต่าง ๆ

นายสุเจน พุกอิ่ม อายุ 55 ปี เปิดเผยว่า เมื่อครั้งสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 จอมพล ป.พิบูลสงคราม ซึ่งเป็นนายกรัฐมนตรีในขณะนั้น เตรียมที่จะย้ายเมืองหลวงจากกรุงเทพฯ มาอยู่ที่จังหวัดเพชรบูรณ์ จึงได้ขนทองคำ สิ่งของมีค่าของชาติ รวมทั้งพระแก้วมรกต มาไว้ภายในถ้ำแห่งนี้ แต่ต่อมาสภาไม่อนุมัติจึงได้ขนทรัพย์สินต่างๆ กลับไปจนหมด และในระหว่างนั้นได้มีทหารที่มาเฝ้าสมบัติได้เสียชีวิตจำนวนมาก เนื่องจากเกิดไข้ป่าชุกชุม และเชื่อว่าดวงวิญญาณของทหารเหล่านั้น ยังคงปกปักรักษาถ้ำสมบัติแห่งนี้อยู่

และในทุกๆ วันที่ 14 กรกฎาคม ซึ่งเป็นวันเกิดของ จอมพล ป.พิบูลย์สงคราม ชาวบ้านจึงได้ประกอบพิธีบวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์และดวงวิญญาณของทหารเหล่านั้น พร้อมกับได้ว่าจ้างหนังกลางแปลงมาฉายให้ดวงวิญญาณดูด้วย โดยจะเน้นหนังเก่ารุ่นสงครามโลกครั้งที่ 2 หรือไม่ก็เป็นหนังผีและหนังสงคราม

นายสุเจน พุกอิ่ม เปิดเผยอีกว่า ในปีแรกที่นำหนังกลางแปลงมาฉายนั้น ในตอนดึกชาวบ้านกลับกันหมดแล้ว เหลือเพียงตนกับลูกน้องอีก 2 คน แต่มีความรู้สึกว่ามีคนดูอยู่เป็นจำนวนมาก ทั้ง ๆ ที่ไม่มีใครอยู่ในบริเวณนั้นเลย และตนก็ยังได้ยินเสียงเหมือนคนหัวเราะอยู่ด้านหลัง เมื่อมองไปก็ไม่เห็นใคร จึงเชื่อว่าเป็นดวงวิญญาณของทหารแน่นอน แต่ทั้งนี้ก็อยู่ที่ความเชื่อของแต่ละคน และเมื่อฉายหนังเสร็จแล้วทีแรกตนตั้งใจจะนอนค้าง เพราะไม่อยากเก็บข้าวของกลางดึก แต่ก็ต้องเปลี่ยนใจรีบเก็บอุปกรณ์กลับลงไปในคืนนั้นทันที ส่วนในคืนนี้ตั้งใจที่จะฉายตลอดทั้งคืนจนกว่าจะสว่าง โดยได้พาครอบครัวมาอยู่เป็นเพื่อนด้วย อีกทั้งได้บอกกล่าวขอขมาเจ้าที่เจ้าทาง ดวงวิญญาณต่าง ๆ เรียบร้อยแล้ว  

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ