โควิดฉะเชิงเทราวันนี้ ทุบสถิติ 671 ราย ซึ่งมาจากคลัสเตอร์เรือนจำ 660 ราย วอนรัฐบาลปลดล็อกให้ทางจังหวัดซื้อวัคซีน-ยาต้านไวรัสได้เอง
(31 พ.ค.64) เวลา 10.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ตามข้อมูลจากรายงานของศูนย์ข้อมูลข่าวสารโควิด-19 จ.ฉะเชิงเทรา ว่า ในวันนี้มีผู้ติดเชื้อในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา มากถึง 671 ราย ซึ่งถือเป็นตัวเลขการติดเชื้อสูงสุดหรือทำนิวไฮใหม่อีกครั้ง โดยเป็นผู้ติดเชื้อจากภายในเรือนจำมากถึง 660 ราย และมีผู้ติดเชื้อภายนอกเรือนจำนวน 11 ราย
จึงทำให้ในขณะนี้ภายในเรือนจำกลางฉะเชิงเทรา มีผู้ป่วยสะสมมากถึง 1,281 ราย จากจำนวนผู้ต้องขัง 2,692 คน คิดเป็นร้อยละ 47.58 ของจำนวนผู้ต้องขังทั้งหมด หรือเกือบครึ่งหนึ่งที่กลายเป็นผู้ติดเชื้อโควิด-19 ไปแล้ว โดยมีผู้ต้องขังที่ยังไม่ติดเชื้อเหลืออยู่เพียง 1,411 คน
สำหรับสถานการณ์โควิด-19 ใน จ.ฉะเชิงเทรา มีผู้ติดเชื้อทั้งสิ้นจำนวน 2,216 ราย มีผู้เสียชีวิต 11 ราย จากการระบาดในครั้งแรก 21 ราย เสียชีวิต 1 ราย การระบาดครั้งที่ 2 จำนวน 28 ราย และการระบาดครั้งที่ 3 จำนวน 2,167 ราย เสียชีวิต 10 ราย โดยยังอยู่ระหว่างทำการรักษาจำนวน 1,620 คน
ขณะเดียวกันเมื่อเวลา 11.30 น. ที่สำนักงาน อบจ.ฉะเชิงเทรา นายกิตติ เป้าเปี่ยมทรัพย์ พร้อมคณะผู้บริหาร อบจ.ฉะเชิงเทรา และกำนันผู้ใหญ่บ้าน ได้ออกมารวมตัวกันเพื่อแถลงต่อสื่อมวลชนถึงความต้องการที่จะเรียกร้องให้ทางรัฐบาลและกระทรวงมหาดไทย ปลดล็อคให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั้ง อบจ. เทศบาล และ อบต. สามารถจัดซื้อยาต้านไวรัส “ฟาวิพิราเวียร์” และวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ได้เอง
โดยต้องการที่จะติดต่อซื้อวัคซีนชิโนฟาร์มจากทางราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ อย่างน้อย 2-3 แสนโดส เพื่อนำมาเสริมเป็นวัคซีนทางเลือกให้แก่ประชาชนชาว จ.ฉะเชิงเทรา ได้ฉีดนอกเหนือไปจากวัคซีนภายในสถานพยาบาล และวัคซีนในระบบของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด โดยเฉพาะเด็กนักเรียนในโรงเรียนสังกัด อบจ.ฉะเชิงเทรา ทั้ง 2 แห่ง ซึ่งมีจำนวนนักเรียนนับพันคนได้ฉีดวัคซีนก่อน เพื่อให้สามารถเปิดทำการเรียนการสอนได้ตามปกติ
จึงอยากเรียกร้องให้ อปท. ได้มีโอกาสดูแลทุกข์สุขของประชาชนอย่างแท้จริง ในการช่วยป้องกันโรคโควิด-19 ที่กำลังมีการระบาดอย่างรุนแรงในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา อยู่ในขณะนี้ และขอวิงวอนผ่านทางสื่อให้ไปถึงยังกระทรวงมหาดไทยได้รับทราบด้วย โดยขอให้ช่วยปลดล็อกให้ อปท. สามารถจัดซื้อวัคซีน และยาต้านไวรัสได้เองโดยถูกต้องตามระเบียบและกฎหมายที่เกี่ยวข้องด้วย
โดยทาง อปท. ยินดีที่จะดูแลในเรื่องนี้ให้ดีที่สุด ตามนโยบายของรัฐบาล ซึ่งในส่วนของเงินงบประมาณนั้น ทาง อบจ.ฉะเชิงเทรา ยังพอมีเงินสะสมเหลืออยู่ ที่สามารถจะนำมาจัดซื้อได้อย่างน้อย 2-3 แสนโดส ซึ่งเป็นเงินที่สามารถนำมาใช้ได้ในยามที่ประชาชนกำลังได้รับความเดือดร้อน
ที่ผ่านมาได้มีการประสานงานกันกับ นายสมศักดิ์ กิตติธรกุล นายก อบจ.กระบี่ ซึ่งเป็นนายกสมาคมองค์การบริหารส่วนจังหวัดแห่งประเทศไทย ที่จะร่วมกันขับเคลื่อนเพื่อเรียกร้องขอให้ทางรัฐบาลยกเลิกข้อกำหนดเงื่อนไขต่างๆ ที่จะให้องค์การบริหารส่วนท้องถิ่นนั้น สามารถสนับสนุนจัดซื้อวัคซีนและยาต้านไวรัสโควิด-19 ได้ และจะมีอีกในหลายๆ จังหวัด ที่จะออกมาร่วมกันขับเคลื่อนในลักษณะนี้ด้วย นายกิตติ กล่าว