ฉลองสงกรานต์หนัก พูดจาไม่เข้าหู ลูกคนโตคว้าอีโต้ ฟันคอพ่อเลี้ยง หนีตายมาล้มฟุบในร้านขายของชำ จ.บุรีรัมย์ ด้าน น้องชาย เล่าคาดเมาหนัก

วันที่ 15 เม.ย.2566 พ.ต.ท.เฉลียว พยัฆกุล สารวัตร(สอบสวน) สภ.ลำปลายมาศ เปิดเผยว่า เมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา ได้รับแจ้งเหตุลูกใช้มีดฟันพ่อเลี้ยงบาดเจ็บสาหัส วิ่งหนีมาล้มฟุบในร้านค้าแห่งหนึ่ง ต.หนองโดน อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมหน่วยกู้ภัยศรัทธาโคกกลาง

ฉลองสงกรานต์หนัก พูดจาไม่เข้าหู ลูกคนโตคว้าอีโต้ ฟันคอพ่อเลี้ยง หนีตายมาล้มฟุบในร้านขายของชำ

ที่เกิดเหตุพบผู้บาดเจ็บชื่อ นายโชคชัย (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 37 ปี พ่อเลี้ยง สภาพถูกของมีคมฟันที่บริเวณคอด้านหลังเป็นแผลฉกรรจ์ เจ้าหน้าที่เร่งให้การช่วยเหลือนำส่งดรงพยาบาลลำปลายมาศ แต่เนื่องจากอาการสาหัสจึงถูกส่งไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลบุรีรัมย์ ส่วนผู้ก่อเหตุคือ นายนัฐพงษ์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 32 ปี ลูกคนโต

จากการสอบถาม นายนัฐติกานต์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 20 ปี ลูกเลี้ยงคนเล็ก กล่าวว่า เมื่อวันที่ 14 เม.ย.ที่ผ่านมา ตนนั่งอยู่ในบ้านซึ่งอยู่เยื้องกันกับร้านค้าที่เกิดเหตุ ตอนนั้นได้ยินเสียงคนตะโกนให้ช่วยก็ไม่รู้ว่ามีเหตุอะไร พอเข้าไปดูถึงรู้ว่าพ่อเลี้ยงถูกนายนัฐพงษ์ใช้มีดอีโต้ฟันที่ต้นคอพ่อเลี้ยง ส่วนชนวนเหตุไม่รู้ว่าเขาทั้งคู่มีปัญหาอะไรกัน

นายนัฐติกานต์ กล่าวต่อว่า แต่ก่อนจะเกิดเหตุทั้งพ่อเลี้ยงและพี่ชายคนโต ต่างก็ดื่มเหล้าฉลองสงกรานต์และต่างคนต่างเมากันทั้งคู่ จึงคิดว่าน่าจะเกิดจากความเมา พอพูดจาไม่เข้าหูกัน จึงได้ก่อเหตุดังกล่าว ประกอบกับพี่ชายเป็นคนใจร้อน และที่ผ่านมาพี่ชายตนก็มีปากเสียงทะเลาะกับพ่อเลี้ยงบ่อยครั้งด้วย

ด้าน นางน้อย (ขอสงวนนามสกุล) เจ้าของร้านค้า กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุนายโชคชัยซึ่งเป็นพ่อเลี้ยง ได้เข้ามาซื้อของที่ร้าน แล้วเดินออกไปตามปกติ จากนั้นไม่นานก็เห็นนายโชคชัยวิ่งเลือดอาบเข้ามาขอความช่วยเหลือและล้มฟุบอยู่ภายในร้าน ตนและชาวบ้านต่างก็ตกใจแต่ยังเคราะห์ดีที่ลูกเลี้ยงซึ่งเป็นคนก่อเหตุไม่ได้ตามมาฟันซ้ำอีก จึงได้พากันแจ้งตำรวจมาตรวจสอบ และประสานหน่วยกู้ภัยมาช่วยนำคนเจ็บส่งโรงพยาบาล ส่วนสาเหตุตนก็ไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น

หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ตามไปควบคุมตัวนายณัฐพงษ์ซึ่งนั่งอยู่ที่บ้าน และยังอยู่ในอาการมึนเมา ไปสอบปากคำและดำเนินคดีตามกฎหมาย เบื้องต้นได้แจ้งข้อหา “พยายามฆ่าผู้อื่น” โดยคัดค้านการประกันตัวและเตรียมนำตัวส่งฝากขังศาลจังหวัดบุรีรัมย์ต่อไป