ตำรวจ จ่อเรียก น้องแหม่ม สาวคนสนิท เสี่ยก้อง สอบปากคำปม ตกรถดับ ด้าน คนถอดการ์ดกล้อง แฉ คลิปเต็มยาว 5 นาที จี้ นำคลิปทั้งหมดมาเปิดดู

จากกรณีญาติของ นายอภิชาติ (ขอสงวนนามสกุล) หรือ เสี่ยก้อง อายุ 39 ปี เจ้าของธุรกิจร้านเกาลัดชื่อดังในจ.กาญจนบุรี เสียชีวิตอย่างเป็นปริศนา หลังตกจากรถกระบะป้ายแดง ซึ่งมี น้องแหม่ม สาวคนสนิทเป็นคนขับ โดยญาติของเสี่ยก้องเกิดความไม่พอใจน้องแหม่ม หลังเห็นคลิปกล้องหน้ารถที่เปิดเผยให้เห็นพฤติกรรม หลังจากเสี่ยก้องตกจากรถ แต่น้องแหม่มรวมถึงน้องชายและเพื่อนที่ขับรถตามหลังกลับไม่รีบเข้าไปช่วยเหลือ ปล่อยทิ้งเป็นเวลานานกว่า 20 นาที จึงโทรตามเจ้าหน้าที่มูลนิธิขุนรัตนาวุธ มานำตัวเสี่ยก้องส่งโรงพยาบาล ทำให้เสี่ยก้องบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิต ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น อ่านข่าว : เมียหลวง เสี่ยก้อง เผยปมก่อนตกรถดับ ถูกสาวบุกรังควานถึงคลินิกฝากครรภ์

ล่าสุดวันที่ 1 ก.พ.2565 น.ส.พภัสสรณ์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 37 ปี ภรรยาของเสี่ยก้อง เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.ศราวุธ ศรีสังวรณ์ ผกก.สภ.ท่าม่วง เพื่อพูดคุยถึงคดีที่เกิดขึ้น โดย ผกก.สภ.ท่าม่วง ยอมรับว่า คดีนี้ตั้งแต่หลังเกิดเหตุเมื่อวันที่ 22 ม.ค.ที่ผ่านมา ทางตำรวจไม่ได้รับแจ้งเหตุหรือแจ้งความใด ๆ มาได้รับแจ้งอีกครั้งคือเมื่อวันที่ 28 ม.ค.ที่ผ่านมา ซึ่ง น.ส.แหม่ม เข้ามาแจ้งความเพื่อขอเอกสารรับรองการเสียชีวิตของเสี่ยก้องไปยื่นกับบริษัทประกัน

ตำรวจ จ่อเรียก น้องแหม่ม สาวคนสนิท เสี่ยก้อง สอบปากคำปม ตกรถดับ ด้าน คนถอดการ์ดกล้อง แฉ คลิปเต็มยาว 5 นาที

พ.ต.อ.ศราวุธ กล่าวต่อว่า แต่เนื่องจากพนักงานสอบสวนซึ่งรับแจ้งความ ได้สอบถามไปยังครอบครัวของเสี่ยก้องจนทราบถึงความไม่ชอบมาพากล จึงได้ดำเนินการส่งศพของเสียก้องไปผ่าพิสูจน์ที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์แห่งชาติ ขณะนี้อยู่ระหว่างรอผลชันสูตรอย่างละเอียดจากทางสถาบัน พร้อมกันนี้ ได้เตรียมเรียกน.ส.แหม่ม และน้องชาย ให้ปากคำ เพื่อสอบสวนถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างละเอียด

พ.ต.อ.ศราวุธ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ตรวจสอบคลิปวีดีโอจากกล้องหน้ารถในวันเกิดเหตุ เพื่อดูว่าการกระทำของ น.ส.แหม่ม และน้องชาย เข้าข่ายความผิดในด้านใดหรือไม่ หากเข้าข่ายก็จะได้ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ขณะที่ ญาติของเสี่ยก้อง ได้พาตัว นายศุภพงษ์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 28 ปี และ นายบุรเศรษฐ์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 31 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของอู่และเป็นช่างที่ทำการถอดการ์ดจากกล้องหน้ารถของน้องชายน.ส.แหม่มมาให้ข้อมูลกับตำรวจด้วย โดยทั้งสองคนให้ข้อมูลว่า วันเกิดเหตุทั้งสองคนทราบข่าวว่าเสี่ยก้องประสบอุบัติเหตุตกรถ จึงได้เดินทางไปเยี่ยมดูอาการที่โรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนาฯ

นายบุรเศรษฐ์ กล่าวต่อว่า ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่นายเจฟ น้องชายของ น.ส.แหม่ม ขับรถยนต์ ยี่ห้อโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีขาว ซึ่งเป็นรถคันที่ติดกล้อง และบันทึกเหตุการณ์ขณะเกิดเหตุเอาไว้ได้มาที่โรงพยาบาล และได้ติดต่อให้ทั้งสองคนไปช่วยถอดการ์ดออกจากกล้องหน้ารถ โดยทั้งสองค ได้ดำเนินการถอดการ์ดออกและดึงภาพคลิปวีดีโอจากกล้องวงจรปิดออกมาให้กับนายเจฟ

“เป็นคลิปวีดีโอบันทึกเหตุการณ์ช่วงที่เสี่ยก้องตกจากรถ ความยาวทั้งหมด 5 นาที ก่อนจะคืนการ์ดของกล้องให้ไป ซึ่งทั้งสองคนก็ไม่ทราบถึงเหตุผล ว่าเหตุใดน.ศ.แหม่มและนายเจฟ จึงได้มอบคลิปวีดีโอความยาวเพียงแค่ 10 วินาทีให้กับครอบครัวของเสี่ยก้องและเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งหากน.ส.แหม่มและนายเจฟมีความบริสุทธิ์ใจ และมั่นใจว่าไม่ได้ทำความผิดหรือทำร้ายร่างกายของเสี่ยก้องจนเป็นเหตุให้เสียชีวิต ก็ขอให้ทั้งสองคนนำการ์ดของกล้องหน้ารถที่บันทึกเหตุการณ์ทั้งหมดมามอบให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อเปิดดูเหตุการณ์ทั้งหมด” นายบุรเศรษฐ์ กล่าว

นายศุภพงษ์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 28 ปี และ นายบุรเศรษฐ์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 31 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของอู่และเป็นช่างที่ทำการถอดการ์ดจากกล้องหน้ารถ

นายบุรเศรษฐ์ กล่าวอีกว่า ตั้งแต่ช่วงก่อนเกิดเหตุจนถึงช่วงที่รถของมูลนิธิขุนรัตนาวุธมารับตัวเสี่ยก้องไปโรงพยาบาล ว่ามีความผิดปกติใด ๆ เกิดขึ้นหรือไม่ ทั้งนี้ ก็เพื่อเป็นการแสดงความบริสุทธิ์ใจของทั้งน.ส.แหม่มและนายเจฟ รวมถึงยังช่วยคลายความข้องใจของครอบครัวเสี่ยก้องได้อีกด้วย