ปชป.จัดปราศรัยใหญ่นัดสุดท้าย จุรินทร์ ส่งสัญญาณ 6 ข้อ วอนคนไทย #SAVEประชาธิปัตย์ เพื่อ #SAVEประชาธิปไตยไม่โกง ขออย่าเลือกตามกระแส แต่ต้องเลือกอนาคตยั่งยืน
เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 12 พ.ค.2566 ที่ลานคนเมือง หน้าศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) จัดการปราศรัยใหญ่นัดสุดท้าย ภายใต้ชื่องาน “#SAVEประชาธิปัตย์ เพื่อ #SAVEประชาธิปไตยไม่โกง”
โดยมีแกนนำพรรค อาทิ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรค นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรค นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรค ดูแลกทม. น.ส.วทันยา บุนนาค ประธานคณะทำงานนวัตกรรมการเมือง และนายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ประธานคณะทำงานนโยบาย กทม. รวมถึงคณะผู้สมัครส.ส.กทม.ทั้ง 33 คน และผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่อ ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก
ต่อมาเวลา 17.30 น. นายจุรินทร์ กล่าวปราศรัยว่า ขอขอบคุณประชาชนคนไทยทั้งประเทศที่ไม่เคยทอดทิ้งพรรคประชาธิปัตย์ ไม่มีการเลือกตั้งครั้งไหนที่พรรคไม่มีที่นั่งในสภา วันนี้เป็นวันสุดท้ายการปราศรัยใหญ่ การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นการแข่งขันที่รุนแรงครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ แข่งขันกันทั้งคน ทั้งนโยบาย แข่งขันทั้งพรรค และทั้งการสร้างกระแสทางการเมือง เพื่อทำให้ประชาชนเข้าใจว่าเสียงของตัวเองเป็นเลิศ สามารถแลนด์สไลด์ได้
ที่สำคัญ ตนเป็นห่วงว่าแม้ฝุ่น pm 2.5 หมดไปแล้วด้วยฝนหลวงที่ลงมาชะล้าง แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วง คือpm 500 กับpm 1,500 จึงอยากบอกกับทุกคนว่าการเลือกตั้งเที่ยวนี้ ประชาชนในกรุงเทพฯ และทั้งประเทศ อย่าลงคะแนนเลือกตั้งตามกระแส อย่าเลือกเพราะผลประโยชน์เฉพาะหน้า แต่ขอให้เลือกอนาคตที่ยั่งยืนให้ประเทศ ตนจึงขอให้พลังเงียบและพลังประชาธิปัตย์ช่วยกันตะลุยหาเสียงจนนาทีสุดท้าย เพื่อให้พรรค ได้รับเสียงสนับสนุนจากคนไทยทั่วประเทศถล่มทลาย เพื่อให้พรรคประชาธิปัตย์อยู่คู่ฟ้าไทยตลอดไป
นายจุรินทร์ กล่าวอีกว่า ขอเรียกร้องให้ช่วยกัน Saveประชาธิปัตย์ เพื่อเซฟประชาธิปไตยต่อไป เพราะนี่คือทางรอดทางเดียวของประเทศ และทำไมต้องเซฟประชาธิปัตย์ 1.ถ้ามีไม่มีพรรคประชาธิปัตย์ ก็จะไม่มีสถาบันการเมืองที่อยู่คู่กับประชาธิปไตย 2.พรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคที่มีอายุยืนยาวที่สุดในเอเชียอาคเนย์ คู่กับพรรคอัมโนของมาเลเซีย 3.พรรคประชาธิปัตย์ไม่ใช่พรรคของครอบครัวใด ไม่ใช่ของจอมพลคนใด ไม่ใช่ของนายพลคนใด ไม่ใช่นายทุนคนใด แต่เป็นพรรคของประชาชน โดยประชาชน และเพื่อประชาชน
4.พรรคประชาธิปัตย์ไม่ใช่พรรคของคนรุ่นใดรุ่นหนึ่ง แต่เป็นของคนทุกรุ่นและของคนไทยทั้งประเทศ 5.นโยบายของพรรค อาจไม่หวือหวา แต่ตกผลึก และมีความรับผิดชอบ รวมถึงทำได้จริง ที่สำคัญ ไม่พาประเทศไปสุ่มเสี่ยง แต่สามารถพาประเทศรอดได้จริงในอนาคต
ถ้ามีโอกาสตั้งรัฐบาล และนโยบายของพรรคประชาธิปัตย์จะไม่เป็นระเบิดเวลาของประเทศ เพราะไม่เปลี่ยนทุกอย่างที่ขวางหน้า เพราะถ้าสิ่งนั้นดีอยู่แล้ว แต่ไปเปลี่ยนก็จะพาประเทศไปไม่รอด โดยเฉพาะอย่างยิ่งสิ่งที่กระทบกับหัวใจคนทั้งประเทศ และ 6.พรรคประชาธิปัตย์ยึดมั่นในความซื่อสัตย์สุจริต ไม่มีหัวหน้าพรรคคนใดที่ทุจริตจนต้องหนีไปอยู่ต่างประเทศ
นายจุรินทร์ กล่าวว่า จาก 6 เหตุผลดังกล่าว ตนขอส่งสัญญาณไปยังคนกรุงเทพฯและคนไทยประเทศว่าทำไมพวกเราต้องประกาศวิงวอนขอให้ช่วยพรรคประชาธิปัตย์ ให้อยู่กับคนไทยต่อไป นอกจากนี้ เราต้องเซฟประชาธิปไตยไม่โกง ให้เป็นประชาธิปไตยเต็มใบเท่านั้น เพราะมีหลายยุคสมัยที่ประเทศไปต่อไม่ได้ ไม่ใช่แค่ประชาธิปไตย แต่โคตรโกง สุดท้ายคนที่เสียหายคือประชาชนและประเทศชาติ
ดังนั้นนอกจากจะเซฟประชาธิปัตย์ ต้องเซฟประชาธิปไตยไม่โกง เพราะเป็นทางรอดทางเดียวของประเทศไทยหลังการเลือกตั้ง
นายจุรินทร์ กล่าวว่า นี่คือสิ่งที่ตนอยากส่งสัญญาณให้ชัดเจน ว่า ถ้าประชาชนไว้ใจพรรคประชาธิปัตย์ ยืนยันว่าถ้าพรรคประชาธิปัตย์ตั้งรัฐบาลได้ จะพาประเทศรอดแน่นอนล้านเปอร์เซ็นต์ เพราะประวัติศาสตร์บอกไว้ว่าทุกครั้งที่ประเทศเกิดวิกฤต ประสบปัญหาเศรษฐกิจ พรรคประชาธิปัตย์กู้วิกฤตทุกครั้ง และถ้าเลือกพรรคประชาธิปัตย์ตั้งรัฐบาลได้ การปฏิวัติจะเป็นศูนย์ เพราะพรรคไม่โกง ไม่สร้างเงื่อนไข
“นี่คือสัญญาณทั้งหมดเพื่อให้พรรคประชาธิปัตย์เป็นเสาหลักในการเซฟประชาธิปไตยไม่โกง และเป็นทางรอดของประเทศต่อไป จึงขอส่งสัญญาณไปยังชาวกทม. และคนไทยทั้งประเทศ ทั้งพลังเงียบ พลังประชาธิปัตย์ ช่วยวิงวอนประชาชนทุกคนไปช่วยกันเลือกพรรคประชาธิปัตย์ 14 พ.ค.”นายจุรินทร์ กล่าว