‘จุรินทร์’ ยันชัด ‘พาณิชย์’ คุมราคาสินค้า ให้กระทบปชช.น้อยสุด แม้ ต้นทุน-ราคาน้ำมัน สูงขึ้น ฮึ่มฉวยโอกาสขึ้นราคา โทษหนัก คุก 7 ปี ปรับเป็นแสน
เมื่อเวลา 11.50 น. วันที่ 6 พ.ค.65 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ว่า กระทรวงพาณิชย์จะพยายามเข้าไปดูเรื่องราคาสินค้า ให้เป็นภาระน้อยที่สุดกับผู้บริโภค ถึงต้นทุนจะสูงขึ้นเพราะราคาน้ำมัน และพลังงานที่สูงขึ้นมาก หากมีความจำเป็นที่จะต้องปรับราคาขึ้น ก็จะทำเท่าที่จำเป็นที่จะต้องปรับราคาขึ้น และจะอนุญาตเท่าที่จำเป็น ตามต้นทุนที่สูงขึ้นจริงเท่านั้น
ขณะเดียวกันจะขอความร่วมมือจากผู้ประกอบการให้แค่พออยู่ได้ในช่วงสถานการณ์ที่วิกฤตอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งเป็นกันทั้งโลก ทั้งหมดเพื่อให้เกิดประโยชน์ร่วมกันทั้ง 3 ฝ่าย ทั้งต้นน้ำ ซึ่งหมายถึงเกษตรกรผู้ผลิตวัตถุดิบ เพื่อให้ราคาพืชผลการเกษตรยังดีอยู่เหมือนเดิม
ขณะเดียวกัน กลางน้ำ ซึ่งหมายถึงผู้ประกอบการ ผู้ส่งออก สามารถปรับลดผลกำไรลดลงมาบางส่วน เพียงเพื่อขอให้ธุรกิจเดินหน้าต่อไปได้ และไม่หยุดการผลิต ของจะได้ไม่ขาด ส่วนปลายน้ำ ซึ่งหมายถึงผู้บริโภคก็จะให้รับภาระที่เพิ่มขึ้นให้น้อยที่สุด ให้สอดคล้องกับข้อเท็จจริงให้ได้มากที่สุด โดยใช้ “วินวินโมเดล” สินค้ารายการไหน
อย่างไรจะดูเป็นรายกรณีไป ไม่ใช่จะอนุญาตขึ้นราคาทั้งหมดในลักษณะที่ไม่ดูเหตุดูผล ดูเป็นกรณี ดูเป็นรายการ ดูเป็นแต่ละส่วนไป โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ช่วงนี้เป็นช่วงที่กำลังจะเปิดเทอม ชุดนักเรียน อุปกรณ์การเรียน ก็จะตรึงราคาไว้ ซึ่งได้มีข้อสรุปเบื้องต้นแล้ว ส่วนไหนที่ปรับลดลงมาได้ก็ให้ไปปรับลดลงมา เพื่อเป็นโปรโมชั่นที่จะลดภาระค่าครองชีพ โดยในวันที่ 8 พฤษภาคมนี้ เวลา 14.00 น. ตนจะไปเปิดงาน ที่ศึกษาภัณฑ์พาณิชย์ ลาดพร้าว เพื่อช่วยลดภาระให้กับผู้ปกครองทั่วประเทศ
นายจุรินทร์ กล่าวว่า กรมการค้าภายในได้หารือกับผู้ประกอบการในแต่ละหมวดสินค้า แต่ละรายการอยู่ตลอดเวลา ตามที่ตนได้มีข้อสั่งการไป ให้ใช้วินวินโมเดล เพื่อให้ต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ ทั้ง 3 ฝ่าย ได้ร่วมมือกัน ส่วนกรณีที่มีผู้ประกอบการลักลอบขึ้นราคาสินค้า ก็ได้ให้พาณิชย์จังหวัด และผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ ในฐานะประธานคณะกรรมการป้องกันแก้ไขปัญหาการเอารัดเอาเปรียบผู้บริโภค เป็นผู้ดำเนินการ
ซึ่งกฎหมายกำหนดไว้แล้วว่า ถ้ามีการฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้า หรือค้ากำไรเกินควร ก็มีโทษสูงสุดคือ จำคุกไม่เกิน 7 ปี และปรับ 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ เพราะฉะนั้นโทษแรง ดังนั้นจึงของฝากผู้ที่คิดจะทำ ทางพาณิชย์จังหวัดมีทีมงานลงพื้นที่ดูอยู่ตลอดเวลา หากมีปัญหาก็ร้องมาได้ที่ สายด่วน 1569 หรือกรณีที่มีการลดปริมาณลงในแพ็คเกจเดิมก็ทำไม่ได้ เพราะเท่ากับขึ้นราคานั่นเอง ถือว่าทำผิด
โดยกรมการค้าภายในพิจารณาอย่างละเอียด เพราะดูลึกลงไปถึงต้นทุนที่แท้จริง ถ้าจะต้องนำเข้าก็ดูต้นทุนนำเข้า ดูเอกสารกำกับราคานำเข้า ให้ตรงตามรายละเอียด โดยมีเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญคอยตรวจสอบ