จุรินทร์ ขอบคุณโพลภาพจำปชป. รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ตอกย้ำจุดยืน ชี้โพลคือกระจกเงาสะท้อนทุกพรรค อวย ราเมศ ว่าที่ผู้สมัครส.ส.เขต2 พังงา มีความรู้-ความสามารถ

เมื่อวันที่ 14 พ.ย. 2565 ที่จ.พังงา นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ให้สัมภาษณ์ก่อนเดินทางไปเป็นประธานในพิธีมอบเช็คชำระหนี้และมอบโฉนดที่ดินของกองทุนฟื้นฟูช่วยเหลือเกษตรกร พร้อมติดตามโครงการประกันรายได้ และเป็นประธานในพิธีมอบใบรับรองการขึ้นทะเบียนองค์กรเกษตรกร

รวมถึงมอบใบรับรองการจัดการหนี้ให้กับเกษตรกรสมาชิกกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร พร้อมติดตามความคืบหน้าโครงการประกันรายได้เกษตรกรและตรวจเยี่ยมโครงการ “พาณิชย์…ลดราคา! ออนทัวร์ทั่วไทย” Lot 21 ที่วัดประชุมศึกษา (วัดทุ่งมะพร้าว) อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา

โดยนายจุรินทร์ ได้แนะนำ นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ และเลขานุการประธานรัฐสภา ซึ่งเป็นว่าที่ผู้สมัครส.ส.เขต 2 พังงา โดยระบุว่า ตนกับนายราเมศ เหมือนกันตรงที่เคยเป็นเลขาฯ นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา และประธานสภาผู้แทนราษฎร สมัยที่ตนเป็น ส.ส.สมัยแรก ปี 29 และสมัยที่ 2 ปี 31 นายชวน เลือกตนไปเป็นเลขานุการรัฐมนตรี ทำให้มีโอกาสเป็นเลขารัฐมนตรีครบทั้ง 3 กระทรวง ฉะนั้น นายราเมศ วันนี้เป็นเลขานุการประธานรัฐสภา ก็ถือว่าเหมือนกับที่ตนเคยทำมาตอนเริ่มต้นชีวิตทางการเมืองใหม่ๆ

“สิ่งหนึ่งที่ช่วยการันตี คือ ท่านชวนมีสายตายาวไกล การเลือกคนไปเป็นเลขาฯ แต่ละคน ก็จะเลือกคนดี มีความรู้ความสามารถ มีศักยภาพที่จะไปช่วยงานได้ ฉะนั้นการที่นายชวน เลือกนายราเมศ ก็เป็นหลักประกันอันหนึ่งว่า นายราเมศเป็นคนที่มีความรู้ความสามารถ มีศักยภาพ” นายจุรินทร์ กล่าว

จุรินทร์ ชี้โพลภาพจำปชป.รักชาติ-แก้ศก. ตอกย้ำจุดยืนพรรค ยันมุ่งเน้นปชต.ท้องอิ่ม

นายจุรินทร์ กล่าวถึงผลสำรวจซูเปอร์โพล ในหัวข้อภาพจำของแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ที่นายจุรินทร์ มีภาพจำในเรื่อง รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ว่า สะท้อนจุดยืนและสิ่งที่พรรคได้ทำในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมานั้น อยู่ในสายตาของประชาชน และมีเสียงตอบรับกับสิ่งที่เราได้แสดงออกไป เพราะจุดยืนของพรรคประชาธิปัตย์ชัดเจนตั้งแต่ต้นว่า เราสนับสนุนการแก้รัฐธรรมนูญให้ไปสู่ความเป็นประชาธิปไตยยิ่งขึ้น

นายจุรินทร์ กล่าวต่อว่า แต่ต้องไม่แตะหมวด 1 หมวด 2 ขณะเดียวกันก็ต้องไม่แก้มาตรา 112 เพราะทุกประเทศต้องมีกฎหมายที่คุ้มครองประมุขของรัฐ และประเทศไทยมีองค์พระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข ฉะนั้น ต้องมีบทคุ้มครองประมุขของประเทศ ซึ่งก็คือองค์พระมหากษัตริย์เช่นเดียวกัน ไม่มีข้อยกเว้น

นายจุรินทร์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ในเรื่องการแก้เศรษฐกิจปากท้อง ประชาธิปัตย์มุ่งเน้นการสร้างเงินให้ประชาชนและประเทศ ตั้งแต่นโยบายประกันรายได้ ช่วยให้พืชผลทางการเกษตรดีขึ้นเกือบทุกตัว ขณะเดียวกันถ้าราคาตกต่ำลงมาก็ยังมีการประกันรายได้ให้กับเกษตรกร รวมทั้งการเข้าไปดูแลเศรษฐกิจฐานรากในเรื่องอื่นๆ ด้วย

ในเรื่องการสร้างเงินให้ประเทศ ผลสัมฤทธิ์ที่ปรากฏชัดเจน แม้เราจะเผชิญกับภาวะวิกฤตโควิด-19 แต่ก็สามารถนำการส่งออกฝ่าวิกฤตไปได้ ทำให้การส่งออกของไทยเป็นบวกมาตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา และปีนี้คาดว่าจะสร้างเงินให้กับประเทศไม่ต่ำกว่า 9 ล้านล้านบาท และอาจจะโตไปถึงเลข 2 หลัก

ขณะที่เครื่องยนต์ตัวอื่นๆ ในทางเศรษฐกิจยังขับเคลื่อนไม่ได้ เพราะติดเงื่อนไขต่างๆ แต่การส่งออกกลายเป็นเครื่องยนต์ทางเศรษฐกิจตัวเดียวที่ทำให้จีดีพีของประเทศเป็นบวกขึ้นมา และขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไปได้

“ต้องถือว่าประชาชนได้รับรู้สิ่งที่ผมและพรรคประชาธิปัตย์ได้ทำมาในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา ต้องขอขอบคุณสำหรับการติดตามและรับทราบว่า สิ่งที่ผมกับประชาธิปัตย์ต้องการทำให้กับประชาชนและประเทศของเรานั้นเป็นอย่างไรบ้าง ช่วยให้มีกำลังใจขึ้นเยอะ” นายจุรินทร์ กล่าว

เมื่อถามว่าจุดแข็งเหล่านี้จะส่งผลต่อการเลือกตั้งอย่างไร นายจุรินทร์ กล่าวว่า เรื่องนั้นยังไม่สามารถที่จะตอบได้ แต่ทั้งหมดที่ทุ่มเททำมาเพื่อประชาชน เพื่อประเทศ เพื่อสร้างเงินให้คนไทยและประเทศไทย ผลการเลือกตั้งจะเป็นอย่างไรก็สุดแล้วแต่ประชาชน

นายจุรินทร์ กล่าวต่อว่า แต่ทิศทางที่ชัดเจน คือ ประชาธิปัตย์ให้ความสำคัญกับประชาธิปไตย แต่ต้องเป็นประชาธิปไตยท้องอิ่ม ต้องเป็นระบอบประชาธิปไตยที่จะสร้างเงินให้ประชาชนและประเทศได้ ทำให้ประชาชนอิ่มท้องได้ และทุกโพลก็เป็นกระจกเงาให้ทุกพรรคการเมืองในการที่จะนำไปประกอบการพิจารณา

“ประชาธิปัตย์ก็ทำโพลด้วย แต่สิ่งสำคัญที่สุดที่จะตอบคำถาม และแม่นที่สุดคือประชาชนตัวจริง ทุกพรรคมีทั้งขึ้นและลง และมีหลายโพล ทุกพรรคการเมืองมีทั้งโพลที่ดี และโพลที่ไม่ดี ไม่มีพรรคไหนที่โพลดีตลอดกาล เราต้องเชื่อมั่นในตัวของเรา และมั่นใจในประชาชน เพราะประชาชนเป็นคำตอบที่ตรงที่สุด” นายจุรินทร์ กล่าว