‘จุรินทร์’ ฝากคนพังงาบ้านเกิด เลือก “กันตวรรณ-ราเมศ” ฟุ้งเสียงตอบรับดีทุกภาค ผลงานเพียบ มั่นใจ ปชป.คัมแบ็กทั้งประเทศ

วันที่ 12 มี.ค. 2566 ที่ จ.พังงา นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) พร้อมนายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรคฯ และคณะ ลงพื้นที่ อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา พบปะประชาชน และสมาชิกพรรคฯ

นายจุรินทร์ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับการดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคปชป.ว่า การพูดถึงเรื่องนี้เพื่อสะท้อนให้เห็นถึงภารกิจการเป็นหัวหน้าพรรค ปชป. ที่เป็นสถาบันทางการเมืองที่ยั่งยืนที่สุดของประเทศนั้น ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะการเป็นรัฐมนตรีที่ตนเคยเป็นมาตั้งแต่อายุ 36 ปี เป็นผู้แทนราษฎรมา 11 สมัย จนถึงวันนี้เป็นรัฐมนตรีมาแล้ว 6-7 กระทรวง รวมถึงการเป็นรองนายกรัฐมนตรีด้วย แต่การดำรงตำแหน่งเป็นหัวหน้าพรรคนั้น เพิ่งจะได้เป็นนายจุรินทร์ กล่าวต่อว่า ตลอดประวัติศาสตร์ ปชป. 77 ปี มีหัวหน้าพรรคมาเพียง 8 คน และตนเป็นคนที่ 8 การเป็นหัวหน้าพรรคจึงยากที่สุด เพราะเป็นหัวหน้าพรรคที่เป็นสถาบันทางการเมือง และคนที่พรรคจะเลือกขึ้นมาเป็นหัวหน้าพรรค ต้องพร้อมที่จะทำหน้าที่ นอกจากการเป็นหัวหน้าพรรคแล้ว ต้องพร้อมทำหน้าที่นายกรัฐมนตรีของประเทศด้วย ไม่อย่างนั้นพรรคก็ไม่เลือก สิ่งนี้จึงบอกว่าเป็นเรื่องที่ยาก

นายจุรินทร์ กล่าวต่อว่า ด้วยเหตุที่ตนเป็น ส.ส.พังงามาก่อน ดังนั้น นายราเมศ รัตนะเชวง ผู้สมัคร ส.ส.พังงา เขต 2 เปรียบเป็นตัวแทนของตนที่จะมาลงสมัครรับเลือกตั้งแทน ขอฝากคนพังงาให้ช่วยลงคะแนนเลือกนายราเมศด้วยนายจุรินทร์ กล่าวอีกว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ จ.พังงา แบ่งเป็น 2 เขต เขต 1 ประชาธิปัตย์ ส่งนางกันตวรรณ ตันเถียร กุลจรรยาวิวัฒน์ ซึ่งตนได้ฝากคนพังงาไว้แล้ว นางกันตวรรณเป็นส.ส.มา 5 สมัย ถือว่ามีศักยภาพพอตัว คาดว่าจะได้รับเลือกตั้งด้วย ขณะที่เขต 2 คือนายราเมศ ถือเป็นน้องใหม่ แม้จะเป็นคนพังงา แต่จำเป็นที่จะต้องแนะนำตัวกับพี่น้องประชาชน

นายจุรินทร์ กล่าวต่อว่า มั่นใจว่า มาถึงวันนี้ได้รับเสียงตอบรับดีขึ้นมาก เพราะนายราเมศ เป็นคนเก่ง เป็นคนมีศักยภาพ ตนจึงขอฝากคนพังงาไว้ด้วย อย่างน้อยทั้ง 2 ท่าน ถือเสมือนเป็นตัวแทนของตน และเป็นตัวแทนหัวหน้าพรรคฯ เพราะหัวหน้าพรรคเป็นคนพังงาเมื่อถามว่า จ.พังงา ถือเป็นบ้านเกิดของหัวหน้าพรรคฯ และผู้สมัคร ขณะที่คู่แข่งต่างพรรคก็จ้องอยู่ ปชป.จะมียุทธวิธีเพื่อรักษาพื้นที่ไว้ได้อย่างไร นายจุรินทร์ กล่าวว่า สิ่งนั้นคืออุดมการณ์ประชาธิปัตย์ และคนพังงามีพัฒนาการทางการเมืองสูงมาก มีความยึดมั่นในอุดมการณ์สูง ตนมั่นใจในผลงานที่ทำในพื้นที่จำนวนมาก ยังไม่รวมถึงผลงานในระดับประเทศอีกหลายด้าน รวมทั้งศักยภาพของตัวผู้สมัครทั้ง 2 คน และยังมีนโยบายใหม่ของปชป.ที่จะเดินหน้าต่อไปหากเราได้เป็นแกนตั้งรัฐบาล มั่นใจว่าคนพังงาจะช่วยเหลือพรรคปชป.และสนับสนุนตนต่อไป

เมื่อถามถึงโพลล่าสุดที่พรรค ปชป.มีคะแนนนิยมดีขึ้นนั้น นายจุรินทร์ กล่าวว่า ตนมั่นใจจากการลงทำพื้นที่ด้วยตัวเองกับทีมงานทั้งหมด พบว่าเสียงตอบรับดีขึ้นในทุกภาค สอดคล้องกับโพลล่าสุดที่ออกมา แต่ไม่มีโพลอะไรที่จะบอกว่าใครยั่งยืนตลอดกาล เมื่อโพลดี เราก็รับฟังไว้ เป็นกำลังใจ โพลไม่ดี เราก็มาดูว่ามีอะไรที่เราต้องปรับปรุงแก้ไขบ้าง แต่จากการสัมผัสด้วยตัวเอง มั่นใจว่าประชาธิปัตย์มีเสียงตอบรับดีขึ้นในทุกภาค และภาคใต้ก็เป็นอีกภาคที่มีเสียงตอบรับดีขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ

“มั่นใจว่าการเลือกตั้งเที่ยวหน้า ประชาธิปัตย์ได้เยอะ ภาคใต้เยอะ คงไม่ต้องบอกตัวเลขหรอก เราคัมแบ็กทั้งประเทศสำหรับประชาธิปัตย์ในทุกภาค” นายจุรินทร์ กล่าว