ผู้กองบีซ ร.อ.หญิง จุฑาธิป ยังแรงไม่หยุด เร่งเครื่องสปรินต์หนีคู่แข่งเข้าเส้นชัยเป็นคนแรกคว้าแชมป์สเตจที่ 2 ในศึกจักรยานทางไกล “บีวาเซ คัพ 2023” ที่เวียดนามได้สำเร็จ
“เสธ.หมึก” พลเอกเดชา เหมกระศรี นายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้ไปส่งพร้อมให้โอวาทแก่นักกีฬาจักรยานทีมชาติไทย 2 ชุด ก่อนออกเดินทางไปแข่งขันที่ต่างประเทศ เมื่อวันที่ 9 มีนาคม ที่สนามบินสุวรรณภูมิ โดยนักกีฬาชุดแรก ได้แก่ นักกีฬาประเภทบีเอ็มเอ็กซ์ จะเดินทางไปแข่งขันบีเอ็มเอ็กซ์นานาชาติรายการ “2023 อินโดนีเซีย บีเอ็มเอ็มซ์ คัพ 1” วันที่ 12 มีนาคม ซึ่งทางประเทศอินโดนีเซีย ได้ลงทะเบียนกับสหพันธ์จักรยานนานาชาติ (ยูซีไอ) เป็นการแข่งขันในระดับ C1 นักกีฬาประกอบด้วย รุ่นประชาชนชาย ส.ต.โกเมธ สุขประเสริฐ, รุ่นประชาชนหญิง ส.ต.หญิง ชุติกาญจน์ กิจวานิชเสถียร และ น.ส.วรัญญา แซ่แต้ โยมี นายอัถร ไชยมาโย เป็นผู้ฝึกสอนและควบคุมทีม
ส่วนนักกีฬาชุดที่สอง เป็นนักกีฬาประเภทถนนชาย จะเดินทางไปแข่งขันรายการ “ทัวร์ เดอ ไต้หวัน” ระหว่างวันที่ 12-16 มีนาคม ที่ประเทศไต้หวัน นักกีฬาประกอบด้วย ส.ท.สราวุฒิ สิริรณชัย, พ.อ.อ.พีนะพล ชาวเชียงขวาง, ส.ต.ธนาคาร ไชยยาสมบัติ, นายวรุตม์ แปะกระโทก, นายรัชชานนท์ เยาวรัตน์ โดยมี “โค้ชตั้ม” นายวิสุทธิ์ กสิยะพัท เป้นหัวหน้าผู้ฝึกสอน, นายอเนก ศาสตร์ทรัพย์ เป็นช่างประจำทีม, จ.ส.ต.รัฐพงศ์ เรือนเมา เป็นนักกายภาพบำบัด
พลเอกเดชา เปิดเผยว่า สำหรับนักกีฬาทีมชาติไทยทั้ง 2 ชุด จะเดินทางไปแข่งขันที่ต่างประเทศเพื่อเก็บคะแนนสะสมคัดเลือกไปดอลิปิกเกมส์ 2024 ที่ประเทศฝรั่งเศส โดยประเภทบีเอ็มเอ็กซ์ เป็นการแข่งขันระดับ C1 นำทีมโดย “เอ้” ส.ต.โกเมธ สุขประเสริฐ ดีกรีแชมป์เอเชียเมื่อปีที่แล้ว หลังจากนี้หากมีการแข่งขันระดับ C1 ที่ประเทศอื่น ๆ สมาคมฯ ก็จะส่งนักกีฬาไปแข่งขันอีกเพราะแต้มนักกีฬาหญิงไทยอยู่ในอันดับต้น ๆ ส่วนโกเมธต้องเจอศึกหนักทั้งนักปั่นในเอเชียและยุโรป แต่คิดว่าการแข่งขันรายการ C1 ครั้งนี้นักปั่นไทยจะสร้างผลงานได้ดี และเมื่อกลับมาจากอินโดนีเซียแล้วก็ต้องเตรียมแข่งขันบีเอ็มเอ็กซ์นานาชาติ “ไทยแลนด์ บีเอ็มเอ็กซ์ คัพ 2023” ซึ่งเป็นระดับ C1 สนามที่ 2 ระหว่างวันที่ 18-19 มีนาคม ที่สนามสวนกีฬากมล ถนนสุวินทวงศ์ เขตหนองจอก กทม.
นายกสองล้อไทย กล่าวอีกว่า ส่วนนักกีฬาประเภทถนนชายที่ไปแข่งขันรายการ “ทัวร์ เดอ ไต้หวัน” จะเป็นการแข่งขันระดับ 2.1 มีการคะแนนสะสมคัดเลือกโอลิมปิกเกมส์ 2024 เช่นเดียวกัน ขณะที่นักกีฬาทีมชาติไทยประเภทถนนหญิงก็กำลังแข่งขันจักรยานทางไกล “บีวาเซ คัพ 2023” ที่ประเทศเวียดนาม เพื่อดูฟอร์มคู่ต่อสู้ก่อนแข่งกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 32 ที่ประเทศกัมพูชา หากเราฝึกซ้อมโดยไม่เคยเห็นฟอร์มคู่ต่อสู้ก็คงลำบากที่จะเอาชนะทีมต่าง ๆ ทั้งอินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ เวียดนาม สำหรับประเภทบีเอ็มเอ็กซ์ไม่มีการแข่งขันในกีฬาซีเกมส์ แต่จะมีอยู่ในกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 19 ที่นครหางโจว ประเทศจีน ในเดือนกันยายนนี้ ดังนั้นนักปั่นไทยก็จะได้ศึกษาฟอร์มคู่ต่อสู้จากประเทศต่าง ๆ ในเอเชีย ซึ่งก็จะทราบว่าชาติอื่นเขามีการพัฒนาอย่างไร และศักยภาพของเราเป็นอย่างไร จะต้องมีการปรับปรุงแก้ไขจุดบกพร่องหรือไม่ ต้องขอแรงใจจากพี่น้องประชาชนชาวไทยช่วยเชียร์นักกีฬาทีมชาติไทยทุกคนด้วย
ด้าน นายอัถร ไชยมาโย ผู้ฝึกสอนบีเอ็มเอ็กซ์ทีมชาติไทย เปิดเผยว่า การแข่งขันบีเอ็มเอ็กซ์รายการ “2023 อินโดนีเซีย บีเอ็มเอ็มซ์ คัพ 1” จะเป็นการเก็บคะแนนสะสมไปโอลิปิกเกมส์ 2024 นักปั่นไทยก็ฝึกซ้อมมาอย่างเต็มที่ คิดว่าน่าจะสร้างผลงานได้ดีตามเป้าหมาย ส่วนคู่แข่งที่สำคัญนอกจากเจ้าภาพแล้วก็มีนักปั่นจากฟิลิปปินส์, จีน, เกาหลีใต้ เข้าร่วมแข่งขันด้วย ถือเป็นโอกาสดีที่จะได้ดุปฟอร์มคู่แข่งเพื่อปรับแผนและเตรียมพร้อมในการแข่งขันเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ ในเดือนกันยายน ต่อไป
ขณะที่ “โค้ชตั้ม” วิสุทธิ์ กสิยะพัท ผู้ฝึกสอนจักรยานถนนทีมชาติไทย กล่าวว่า การแข่งขันจักรยานทางไกล “ทัวร์ เดอ ไต้หวัน” เป็นรายการระดับ 2.1 มีทีมใหญ่ ๆ ระดับโปรทัวร์ และระดับท็อปของเอเชียมาแข่งขัน จึงเป็นเกมที่ยากมาก ประกอบกับเส้นทางแข่งเป็นการปั่นขึ้นเขาทุกวัน อย่างไรก็ตามนักปั่นไทยมีความคุ้นเคยกับการแข่งขันรายการนี้ดีพอสมควร เพราะเคยเดินทางไปแข่งขันมา 3-4 ปีแล้ว ถือว่าเป็นการเตรียมความพร้อมก่อนการแข่งขันจักรยานทางไกล “ทัวร์ ออฟ ไทยแลนด์ 2023” รวมทั้งกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 32 และการแข่งขันจักรยานประเภทถนนชิงแชมป์เอเชีย 2023 ที่จังหวัดระยอง สภาพนักกีฬาไทยตอนนี้มีความฟิตสมบูรณ์เต็มร้อยทุกคน
สำหรับการแข่งขันจักรยานทางไกลรายการ “บีวาเซ คัพ 2023” ที่ประเทศเวียดนาม ที่นครโฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม เมื่อวันที่ 9 มีนาคม เป็นการแข่งขันสเตจที่ 2 ระยะทาง 138 กม. ปรากฏว่า “ผู้กองบีซ” ร.อ.หญิง จุฑาธิป มณีพันธุ์ นักปั่นประเภทถนนทีมชาติไทยชุดเตรียมซีเกมส์ ครั้งที่ 32 ยังโชว์ฟอร์มร้อนแรง เร่งเครื่องสปรินท์ช่วง 100 เมตรสุดท้าย หนีกลุ่มใหญ่เข้าเส้นชัยเป็นคนแรก ด้วยเวลา 3.45.06 ชั่วโมง เป็นการคว้าแชมป์ 2 สเตจติดต่อกัน และยังคงรักษาเสื้อเหลืองรั้งตำแหน่งผู้นำเวลารวมเอาไว้ได้ นอกจากนั้น จุฑาธิป ยังได้อันดับ 3 เจ้าความเร็วจุดที่ 2 หรือ IS2 ได้เสื้อเขียวตำแหน่งผู้นำคะแนนรวมเจ้าความเร็วอีกด้วย ส่วนโปรแกรมการแข่งสเตจที่ 3 วันที่ 10 มีนาคม จากเมืองบันดึงห์ไปเมืองเบ๋าลอค ระยะทาง 120 กม. เป็นเส้นทางปั่นขึ้นภูเขาประมาร 17 กม. ซึ่งจะสร้างปัญและความลำบากให้ จุฑาธิป อย่างแน่นอน