พ่อแม่สั่งเลิกแฟนจนๆ สาวจำใจพิมพ์เรียงความ 1 ชม. รวม 300 คำ ไปบอกเลิกแฟน อึ้งอีกฝ่ายตอบกลับมาแค่ 2 คำ อ่านแล้วจุกอก
ความรักเป็นหนึ่งในอารมณ์ที่สวยงามที่สุดในชีวิต อย่างไรก็ตาม อารมณ์นี้เต็มไปด้วย “ตัวแปร” ซึ่งผู้เชี่ยวชาญด้านอารมณ์ชี้ว่า ความรู้สึกของคนไม่คงที่ จะเปลี่ยนไปตามกาลเวลา และสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไป ค่านิยมที่ไม่สอดคล้องกัน ความแตกต่างทางบุคลิกภาพ ฯลฯ ระหว่างชายและหญิงเมื่อสถานการณ์เหล่านี้เกิดขึ้น เมื่อความรู้สึกของคนเปลี่ยนไป ในเวลานี้การ “เลิกรา” อาจเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด
ล่าสุดเว็บไซต์ Sohu แชร์เรื่องราวสุดปวดใจของหญิงสาวนามว่า “เสี่ยวซู” เธอคบหากับแฟนหนุ่มมานาน 4 ปี ไม่เคยมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้ง เรียกได้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองยังคงลึกซึ้งมาก ทั้งคู่มาจากคนละเมือง แต่ทำงานที่หนานจิงเหมือนกัน
โดยพื้นฐานแล้วครอบครัวของเธอมีฐานะค่อนข้างดี อีกทั้งยังเป็นลูกคนเดียว ในขณะที่สภาพครอบครัวของฝ่ายชายนั้นยากจนมาก ทำให้พ่อแม่ของเธอคัดค้านความสัมพันธ์มาโดยตลอด กระทั่งล่าสุดถึงวันที่เธอถูกยื่นคำขาดว่าต้องเลิกกับแฟนหนุ่มจริงๆ
เสี่ยวซูตัดสินใจบอกลาด้วยการส่งข้อความ หลังจากคิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า จึงข้อความความยาวเกือบ 300 คำ ส่งไปทาง WeChat โดยจินตนาการว่าแฟนหนุ่มจะพยายามยื้อความสัมพันธ์ไว้ด้วยความจริงใจ
อย่างไรก็ตาม เมื่ออีกฝ่ายอ่านสิ่งที่แทบเรียกได้ว่าเป็นเรียงความจบแล้ว กลับทำให้เธอประหลาดใจด้วยการตอบมาเพียงว่า “เห็นด้วย” เท่านั้น และไม่ว่าจะรออีกนานเท่าไหร่ ก็มีการตอบกลับอื่นใดอีก ทำให้เธอทรุดลงด้วยความปวดใจทันที
เสี่ยวซู พูดในคลิปวิดีโอที่เธอโพสต์ว่า “เรารักกันมา 4 ปีแล้ว และเรายังคงมีความรู้สึกต่อกันอยู่ ฉันใช้เวลามากกว่าหนึ่งชั่วโมงในการเขียนบทความยาวๆ เกี่ยวกับการเลิกราของเรา แต่เขาตอบกลับเพียงสองคำเท่านั้น จะไม่ทำให้เสียใจได้อย่างไร รู้สึกว่า ความสัมพันธ์ที่ฉันมีนี้มันไม่คุ้มเลย เขาใจร้ายเกินไป”
อย่างไรก็ดี ในเรื่องนี้ชาวเน็ตส่วนใหญ่แสดงความคิดเห็นไปในทิศทางเดียวกันว่า “คำตอบของแฟนตั้งสองคำ ถือว่ามากแล้ว เพราะถ้าเป็นฉัน ฉันคงไม่ตอบ ในเมื่ออยากจะเลิกกันทำไมยังตอบกลับอีก?”
“คุณบอกเลิกเขาแล้ว แต่ยังนั่งคิดว่าจำนวนคำในการตอบของเขาน้อยเกินไป และยังคิดว่าเขาไม่มีความรู้สึก นี่มันตรรกะอะไร?”
“ฝ่ายที่เริ่มต้นการเลิกรา เขาควรคนที่โดยตำหนิว่าไม่มีความรู้สึก และคุณไม่มีเหตุผลที่จะตำหนิอีกฝ่าย”