จดหมายน้อยในถังขยะหลังห้องเรียน นำมาสู่การคลี่คลายคดีโดยลายมือของ เด็กสาวมีอายุ 12 ปี เมื่อครูพบว่าลูกศิษย์วัย 12 ปี เขียนจดหมายตัดพ้อถึงพ่อและพี่ชายต่างมารดาว่า “หนูเกลียดพ่อ หนูเกลียดพี่” เมื่อเปิดใจพูดคุยกับลูกศิษย์จึงรู้ว่า เด็กถูกพ่อและพี่ชายคนละแม่ ลวนลาม จับอวัยวะเพศทุกวัน ตั้งแต่เธออายุ 8 ขวบ จนถึงปัจจุบันรวมเป็นเวลากว่า 4 ปี
ท้ายที่สุดครูรายนี้จึงพาเด็กหญิงเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ จนเรื่องถึงหู พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. จึงมีคำสั่งการให้ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ส่งชุดสืบสวนติดตามจับกุมตัวผู้ก่อเหตุทันที
โดยเมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2567 พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. สั่งการให้ สืบนครบาล ร่วมกันสืบสวนติดตามจับกุมตัว โดยสามารถจับกุมตัวได้ที่ บริเวณหน้าร้านลิลลี่ ช็อป เลขที่ 18/35 ซ.ประชาสงเคราะห์ 27 แขวงดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพฯพฤติการณ์กล่าวคือ จดหมายน้อยในถังขยะหลังห้องเรียนที่น่าเศร้า นำมาสู่การคลี่คลายคดี “หนูเกลียดพ่อ หนูเกลียดพี่”
จดหมายน้อยนำไปสู่การจับกุม
ข้อความในเศษกระดาษบรรยายความรู้สึกเกินรับไหวของ ด.ญ.เอ (นามสมมุติ) นักเรียนหญิงวัย 12 ปี ถูกขยำทิ้งลงในถังขยะหลังห้องเรียนพร้อมใบหน้าใบเปื้อนน้ำตา เหตุการณ์ช่วงสั้นๆ เล่าว่า ผู้เป็นพ่อและพี่ชายเต็มหน้ากระดาษ ครูสาวคว้าตัวเด็กหญิงเอมาเกลี้ยกล่อมจนเธอค่อยๆ ถ่ายทอดความทรงจำอันเลวร้ายที่เธอต้องอยู่ในสภาพ “ตกนรกทั้งเป็น”
- สลด ! พบโครงกระดูกอดีตครู เสียชีวิตตัวคนเดียวในบ้านนาน 1 ปี
- สมุน’บิ๊กโจ๊ก’ ย่องเบาเข้ามอบตัว 2 นาย หลังถูกหมายจับ พัวพันเว็บพนัน
- บิ๊กโจ๊ก ยืนยัน! บริสุทธิ์ทุกประเด็น พร้อมสู้ หากใครคิดแทงข้างหลัง
เริ่มตั้งแต่เมื่อปลายปี 2562 ตอนที่เธออายุได้เพียง 8 ขวบ เธอต้องอาศัยอยู่กับ “พ่อ” และ “พี่ชายต่างมารดา” โดยทุกวันเธอจะถูก “พ่อ” ใช้มือล้วงเข้าไปในเสื้อและกางเกง จับหน้าอกและอวัยวะเพศ บีบคลึง เป็นประจำ “ทุกวัน” โดยทุกการกระทำของเธอมักจะถูกคนในครอบครัวพูดว่า “ต้องเอาร่างกายมาแลก” และที่เลวร้ายกว่านั้นคือ “พี่ชาย” ก็ร่วมวงทำเลียนแบบเช่นเดียวกับที่พ่อทำกับเธอมาจนถึงปัจจุบัน เป็นเวลากว่า 4 ปี
เมื่อครูที่ได้ฟังคำบอกเล่าจากปากเธอ ได้ฟังแล้ว ได้ พาตัว ด.ญ.เอ ไปขอความช่วยเหลือมูลนิธิปวีณาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จนมาสู่การแจ้งความร้องทุกข์ ต่อพนักงานสอบสวน สน.ดินแดง ซึ่งหลังสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน ก็ขออนุมัติศาลออกหมายจับทั้ง 2 คน คือ นายพรชัย (สงวนนามสกุล) พ่อแท้ๆ และ นายปฏิภาณ (สงวนนามสกุล) พี่ชาย
ทราบชื่อผู้ก่อเหตุ คือ นายปฏิภาณ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 22 ปี อยู่ที่ อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 885/2567 ลงวันที่ 1 มี.ค. 67
ข้อหา “กระทำอนาจาร แก่เด็กอายุไม่เกินสิบสามปี โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม และเป็นการกระทำแก่บุพการี ผู้สืบสันดาน พี่น้องร่วมบิดามารดาหรือร่วมแต่บิดาหรือมารดา ญาติสืบสายโลหิต ศิษย์ซึ่งอยู่ในความดูแล ผู้อยู่ในความควบคุมตามหน้าที่ราชการ ผู้อยู่ในความปกครอง ในความพิทักษ์หรือความอนุบาล หรือผู้อยู่ภายใต้อำนาจด้วยประการอื่นใด”
ซึ่งหลังเจ้าตัวทราบว่า ถูกดำเนินคดีก็หอบข้าวของหนี ทาง พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ไล่ล่าติดตามจับกุมตัวทันที โดยสืบทราบว่าตัว นายพรชัยฯ และ นายปฏิภาณฯ ได้หลบหนีไปอยู่ละแวกภาคเหนือตามภูมิลำเนาเดิม (ชนเผ่าม้ง) ชุดสืบสวนจึงวางกำลังสะกดรอยติดตามกว่า 1 สัปดาห์
ล่าสุด ได้เบาะแสว่า นายปฏิภาณฯ ผู้เป็นพี่ชาย ของ ด.ญ.เอ (นามสมมติ) ผู้เสียหาย กลับเข้ากรุงเทพฯ ขับรถลงจากเมืองเหนือ มุ่งหน้ากลับบ้านพักซึ่งเปิดเป็นร้านขายทุกอย่าง 20 บาท ที่ย่านประชาสงเคราะห์ เขตดินแดง กรุงเทพฯ ชุดจับกุมจึงวางกำลังซุ่มโปร่งจนได้จังหวะยืนยันตัวคนร้ายกำลังจะหลบหนีออกทางด้านหลังร้าน พล.ต.ต.ธีรเดชฯ จึงนำกำลังที่ซุ่มโปร่งอยู่บุกเข้าไปจับกุมตัวได้ในที่สุด
ในส่วนของ ผู้เป็นพ่อ ที่ถูกออกหมายจับด้วยคือ นายพรชัย ขอสงวนนามสกุลอายุ 37 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 886/2567 ลงวันที่ 1 มี.ค. 67 ข้อหา “กระทำอนาจาร แก่เด็กอายุไม่เกินสิบสามปี โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม และเป็นการกระทำแก่บุพการี ผู้สืบสันดาน พี่น้องร่วมบิดามารดาหรือร่วมแต่บิดาหรือมารดา ญาติสืบสายโลหิต ศิษย์ซึ่งอยู่ในความดูแล ผู้อยู่ในความควบคุมตามหน้าที่ราชการ ผู้อยู่ในความปกครอง ในความพิทักษ์หรือความอนุบาล หรือผู้อยู่ภายใต้อำนาจด้วยประการอื่นใด” พบประวัติของนายพรชัย เคยถูกดำเนินคดีไปแล้ว 2 คดีด้วยกัน
1.ปี 2563 ถูกดำเนินคดีข้อหา “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน)ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย, สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด” พื้นที่ สภ.เทิง อ.เทิง จ.เชียงราย (ขบวนการค้ายาเสพติดของ ชาวเขากลุ่มม้ง ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจยึดยาเสพติดได้กว่า 6 ล้านเม็ด)
2.ปี 2564 ถูกดำเนินคดีข้อหา “ร่วมกันนำหรือพาคนต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย” พื้นที่ สภ.สบปราบ อ.สบปราบ จ.ลำปาง
ในนชั้นจับกุม นายปฏิภาณฯ พี่ชายต่างแม่ ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่า ยอมรับว่าเป็นพี่ชายต่างมารดาจริง และอาศัยอยู่บ้านเดียวกัน เติบโตด้วยกันมาตลอดตั้งแต่เด็ก เรื่องทั้งหมดเป็นเรื่องที่น้องสาวของตนมโนไปเอง สร้างเรื่องให้ตนกับพ่อถูกดำเนินคดี