จีน ยันนโยบาย “โควิดเป็นศูนย์” ผู้ชุมนุมกวางโจวยี้ล็อกดาวน์-ปะทะเดือด “คฝ.”
วันที่ 30 พ.ย. เอพี และ รอยเตอร์ รายงานความคืบหน้าการประท้วงต่อต้านรัฐบาลครั้งใหญ่ในหลายเมืองใหญ่ของประเทศ จีน เนื่องจากความเดือดดาลต่อมาตรการล็อกดาวน์ซ้ำซากเพื่อกวาดล้างโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาปี 2019 หรือโควิด-19 ว่า ล่าสุด เกิดเหตุปะทะกันระหว่างผู้ชุมนุมกับกองกำลังของหน่วยตำรวจควบคุมฝูงชนที่นครกวางโจว เมืองเอกมณฑลกวางตุ้ง ศูนย์กลางอุตสาหกรรมการผลิตจีน
การปะทะดังกล่าวเกิดขึ้นหลังพรรคคอมมิวนิสต์จีนเผยแพร่แถลงการณ์ว่าจะเดินหน้ายึดมั่นนโยบาย “ไดนามิก ซีโร่-โควิด” ตามดำริของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำค้ำฟ้าของจีนต่อไป พร้อมยืนยันว่าจะจัดการกับความพยายามแทรกแซงการชุมนุมจากต่างชาติที่มีเจตนามุ่งร้ายต่อจีน ท่ามกลางการประท้วงในหลายเมือง อาทิ กรุงปักกิ่ง นครเซี่ยงไฮ้ และนครกวางโจว เรียกร้องให้ทางการจีนยุติหรือผ่อนคลายมาตรการข้างต้น และบางส่วนเรียกร้องให้ประธานาธิบดีสีลาออกเพื่อแสดงความรับผิดชอบ
คลิปจากทวิตเตอร์เผยให้เห็นเจ้าหน้าที่ในชุดป้องกันเชื้อถือโล่และเดินเรียงแถวเข้าหาผู้ชุมนุมที่กำลังขว้างปาสิ่งของใส่แนวของตำรวจหลังผู้ชุมนุมบางส่วนแสดงความเดือดดาลด้วยการรื้อถอนแนวกำแพงแบ่งพื้นที่ล็อกดาวน์ของทางการ ขณะที่ผู้ถูกจับกุมในคลิปถูกใส่กุญแจมือและพาตัวไปสถานที่ที่ไม่ได้รับการเปิดเผย
อีกคลิปหนึ่งแสดงให้เห็นกลุ่มผู้ชุมนุมขว้างปาสิ่งของใส่แนวของตำรวจก่อนถูกเจ้าหน้าที่ขว้างระเบิดแก๊สน้ำตาเข้ามาเพื่อสลายการชุมนุม ส่วนกลุ่มไชน่า ดิสเซนต์ มอนิเตอร์ ผู้สังเกตการณ์อิสระจากฟรีด้อม เฮาส์ ซึ่งได้รับงบประมาณสนับสนุนจากรัฐบาลสหรัฐอเมริกา คาดว่า มีการประท้วงเกิดขึ้นแล้วอย่างน้อย 27 แห่งทั่วประเทศ ขณะที่กลุ่มเอเอสพีไอ ผู้สังเกตการณ์อิสระจากออสเตรเลีย คาดว่า มีการประท้วงเกิดขึ้นอย่างน้อย 43 ครั้งใน 22 เมืองใหญ่