จีนโต้ซุ่มเพิ่มหัวรบนิวเคลียร์ ยันมีไว้ป้องกันตัวเอง-จี้สหรัฐฯมองตัวเองก่อน
จีนโต้ซุ่มเพิ่มหัวรบนิวเคลียร์ – วันที่ 6 ธ.ค. รอยเตอร์รายงานว่า กระทรวงกลาโหมจีนปฏิเสธรายงานประเมินของทางการสหรัฐอเมริกาคาดว่าจีนอาจมีหัวรบนิวเคลียร์เพิ่มเป็นกว่า 1,500 หัวรบภายในปี 2578 ว่าเป็นเพียงการคาดเดาที่ไม่เป็นธรรม พร้อมเรียกร้องให้สหรัฐฯดูตัวเองก่อน
การตอบโต้ของทางการจีนเกิดขึ้นหลังกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ หรือเพนตากอน เปิดเผยรายงานประเมินแสนยานุภาพของกองทัพจีน ว่าอยู่ระหว่างการเร่งพัฒนาและเพิ่มจำนวนหัวรบนิวเคลียร์
ข้อมูลดังกล่าวสะท้อนถึงความกังวลของทางการสหรัฐฯ ต่อจุดประสงค์ของการขยายขนาดแสนยานุภาพนิวเคลียร์ของกองทัพจีน ส่งผลให้ทางการจีนออกมาปฏิเสธว่าเป็นการคาดเดาที่เกินจริงต่อการยกระดับกองทัพของจีนให้มีความทันสมัย
แถลงการณ์กระทรวงกลาโหมจีน ระบุว่า สหรัฐฯควรหันไปพิจารณานโยบายแสนยานุภาพนิวเคลียร์ของตัวเอง เนื่องจากเป็นชาติที่มีแสนยานุภาพนิวเคลียร์สูงที่สุดในโลก
ทางการจีนยังระบุอีกว่า สหรัฐฯกำลังเร่งพัฒนาและพยายามนำหัวรบนิวเคลียร์เชิงยุทธวิธีมาติดตั้งในแนวรบส่วนหน้า รวมถึงลดระดับเกณฑ์การนำอาวุธนิวเคลียร์มาใช้ลง ตลอดจนแพร่ขยายอาวุธชนิดนี้ผ่านความร่วมมือกับอังกฤษและออสเตรเลียด้วย
“จีนขอเน้นย้ำว่ามีนโยบายการใช้แสนยานุภาพนิวเคลียร์เพื่อการป้องกันตัวเองและยึดมั่นในหลักการไม่นำอาวุธดังกล่าวออกมาใช้ก่อนไม่ว่าเวลาหรือภายใต้เงื่อนไขใดๆ รวมถึงรักษาระดับความพร้อมของกองรบนิวเคลียร์ไว้ที่ระดับต่ำสุดตามข้อกำหนดด้านความมั่นคงแห่งชาติ”
ข้อมูลจากสถาบันวิจัยสันติภาพนานาชาติ กรุงสต็อกโฮล์ม (SIPRI) ประเทศสวีเดน ระบุว่า กองทัพสหรัฐฯ มีหัวรบนิวเคลียร์ทั้งหมดประมาณ 3,700 หัวรบ ในจำนวนนี้ พร้อมใช้งานทันที 1,740 หัวรบ
นอกจากนี้ กระทรวงกลาโหมจีน ยังกล่าวทางการสหรัฐฯ ว่าเป็นตัวการสร้างความวุ่นวายด้านความมั่นคงในโลกมากที่สุด
“สหรัฐฯมักโหมไฟความขัดแย้งเพื่อหาประโยชน์ให้ตัวเอง สร้างความแตกแยกและการเผชิญหน้าในโลก รวมถึงนำพาความโกลาหลและความวิบัติไปยังทุกแห่งที่สหรัฐฯไป” กลาโหมจีนระบุ