จีนแห่โพสต์เปิดใจ ถึงหมอผู้ล่วงลับเปิดโปงโควิดอู่ฮั่นหลังเลิกล็อกดาวน์

Home » จีนแห่โพสต์เปิดใจ ถึงหมอผู้ล่วงลับเปิดโปงโควิดอู่ฮั่นหลังเลิกล็อกดาวน์


จีนแห่โพสต์เปิดใจ ถึงหมอผู้ล่วงลับเปิดโปงโควิดอู่ฮั่นหลังเลิกล็อกดาวน์

จีนแห่โพสต์เปิดใจ ถึงหมอผู้ล่วงลับเปิดโปงโควิดอู่ฮั่นหลังเลิกล็อกดาวน์

จีนแห่โพสต์เปิดใจ – วันที่ 8 ธ.ค. บีบีซีรายงานว่า ชาวจีนจำนวนมากแห่โพสต์ข้อความในใจลงในบัญชีเว่ยโป๋ของนายแพทย์หลี่ เหวินเหลียง หนึ่งในแพทย์กลุ่มแรกที่เปิดโปงการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาปี 2019 หรือโควิด-19 ซึ่งถูกทางการลงโทษและเสียชีวิตไปแล้ว

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นหลังพื้นที่ส่วนใหญ่ของจีนกลับมาคึกคักเป็นวันแรกหลังการประกาศปรับเปลี่ยนนโยบายการกวาดล้างโรคโควิด-19 ครั้งใหญ่ เนื่องมาจากการประท้วงกดดันของชาวจีนทั่วประเทศที่รับไม่ไหวกับมาตรการล็อกดาวน์ซ้ำซากอีกต่อไป

จีนแห่โพสต์เปิดใจ

นพ.หลี่ เหวินเหลียง

โดยชาวจีนที่ได้กลับมาใช้ชีวิตในภาวะใกล้เคียงปกติอีกครั้งต่างพากันเข้าไปโพสต์ระบายความในใจทิ้งไว้ในบัญชีผู้ใช้งานของนพ.หลี่ ซึ่งเสียชีวิตไปแล้วด้วยโรคโควิด-19 ขณะปฏิบัติหน้าที่รักษาผู้ป่วยโรคดังกล่าว โดยชาวจีนบางคนถึงกับยอมรับว่าโพสต์ไปร้องไห้ไป เพราะทนทุกข์มานาน

คอมเมนต์หนึ่ง ระบุว่า “วันนี้ดิฉันนั่งอยู่บนรถไฟ จู่ๆก็นึกถึงคุณหมอ แล้วก็ร้องไห้ออกมาเฉยเลยคะ วันนี้ฟ้าเปิดแล้ว ขอบคุณนะคะคุณหมอหลี่” ส่วนอีกคอมเมนต์หนึ่ง ระบุว่า “ผมมาโพสต์บอกหมอครับ ว่าตอนนี้เราได้กลับมาเปิดเมืองแล้ว ฝุ่นจางแล้วครับ”

นพ.หลี่ เป็นจักษุแพทย์ เสียชีวิตด้วยวัยเพียง 33 ปี เป็นหนึ่งในหมอกลุ่มแรกที่ออกมาเตือนชาวีนและประชาคมโลก ว่ากำลังมีการระบาดของโรคติดเชื้อชนิดใหม่ในนครอู่ฮั่น ซึ่งเคสแรกนั้นตรวจพบเมื่อปลายปี 2562

ทว่า นพ.หลี่ กลับถูกหน่วยงานของจีนลงโทษในความผิดเผยแพร่ข้อมูลอันเป็นเท็จ ซึ่งต่อมานพ.หลี่ เสียชีวิตลงจากโรคโควิด-19 ระหว่างปฏิบัติหน้าที่ช่วยเหลือผู้ป่วยโรคเดียวกัน สร้างความเดือดดาลให้กับชาวจีนต่อหน่วยงานภาครัฐ

ทางการจีนเดินหน้าใช้นโยบายกวาดล้างโรคโควิด-19 ให้เหลือศูนย์ หรือซีโร่-โควิด จนทำให้จีนนั้นตรวจไม่พบผู้ติดเชื้อในช่วงแรกขณะที่ประชาคมโลกนั้นใช้มาตรการล็อกดาวน์ชะลอการระบาดใหญ่เพื่อรอการเร่งพัฒนาวัคซีนป้องกัน

ความอึดอัดของชาวจีนเกิดขึ้นหลังจีนเผชิญกับการระบาดที่ไม่หมดไปและยังใช้นโยบายเดิมตามดำริของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำค้ำฟ้าของจีน ไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ขณะที่ประชาคมโลกต่างยุติการใช้มาตรการล็อกดาวน์และระดมฉีดวัคซีนป้องกันเพื่อหันมาอยู่ร่วมกับไวรัสชนิดนี้

สถานการณ์ดังกล่าวนำไปสู่การลุกฮือประท้วงของชาวจีนทั่วประเทศ กลายเป็นการชุมนุมแสดงความไม่พอใจต่อรัฐบาลครั้งรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่เหตุนองเลือกจัตุรัสเทียนอันเหมินเมื่อปี 2532 จนล่าสุด ทางการจีนประกาศยอมปรับเปลี่ยนนโยบายแล้ว โดยผ่อนคลายความเข้มข้นลง

หลังการผ่อนคลายมาตรกานั้น บัญชีเว่ยโป๋ของนพ.หลี่ ถูกชาวจีนที่อัดอั้นใช้เป็นพื้นที่ระบายความในใจต่อความทุกข์ทรมานช่วงที่ผ่านมา แสดงความโล่งอกโล่งใจ ไปจนถึงตัดพ้อกับความสูญเสียของตัวเอง อาทิ

“ชีวิตหนุ่มสาวมหาลัยฯที่สวยงามของผมละลายหายไปกับการระบาดใหญ่หมด ช่วงนั้นผมจากที่เคยร่าเริงกลายเป็นซึมเศร้าแล้วก็หนักลงเป็นหมดอาลัยตายอยาก” คอมเมนต์หนึ่งระบุ

“ใครที่บอกว่าล็อกดาวน์ผ่านมา 3 ปี ไม่กระทบอะไรน่ะโกหก ใครที่บอกว่าไม่เป็นไรอ่ะโกหก ใครที่บอกว่าไม่มีใครแคร์อ่ะโกหก” อีกคอมเมนต์หนึ่งระบุ

นโยบาย ซีโร่-โควิด ที่ทางการจีนใช้ทำให้จีนมีประวัติผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 อยู่ที่ราว 5,200 ราย ขณะที่สหรัฐอเมริกานั้นมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 1 ล้านราย แต่ต้องแลกมากับความยากลำบากของผู้คนที่ต้องเผชิญการล็อกดาวน์ซ้ำซาก การพลัดพรากจากครอบครัว การสูญเสียโอกาสทางเศรษฐกิจ สูญเสียเสรีภาพในการเดินทาง และการถูกบีบบังคับให้ต้องกักตัวในสถานที่ของรัฐ

ชาวจีนหลายคนยังตั้งคำถามถึงความสูญเสียที่พวกตนต้องเผชิญช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ว่าเพื่อสิ่งใด รวมถึงรายงานบรรยากาศ เช่น “ผมได้มีโอกาสขึ้นรถไฟใต้ดินเมื่อเช้า และเป็นครั้งแรกที่ผมไม่ต้องแสดงข้อมูลการตรวจหาเชื้อ”

และ “บางคนบอกว่าต่อจากนี้แหละที่จะเป็นการระบาดในจีนหลังพวกเราล็อกดาวน์กันมา 3 ปี ยังงั้นก็แสดงว่าไม่มีความหมายอะไรเหรอ แล้วสิ่งที่เราต้องเสียไปล่ะ หรือคนที่ต้องตายไปล่ะ”

นอกจากนี้ ยังมีบางคนโพสต์เปรียบเทียบด้วยว่า “นี่ถ้าผมละเมิดมาตรการสัปดาห์ที่แล้วผมคงโดนจับยัดคุกไปแล้ว” และว่า “นี่ถ้าเป็นเดือนก่อนแล้วมีคนเสนอให้ทางการผ่อนคลายมาตรการลง คงถูกลงโทษไปแล้ว หมอหลี่ไม่ใช่คนแรกและคงไม่ใช่คนสุดท้าย”

คอมเมนต์ต่างๆ ยังบอกเล่าถึงการประท้วง เช่น “พวกเราตะโกน พวกเราต่อสู้ ยังดีที่มันจบลงเสียที” และบ้างแสดงความกังวลถึงกลุ่มผู้สูงอายุส่วนใหญ่ที่ยังไม่ได้รับวัคซีน

“หมอหลี่คะ การทดสอบที่แท้จริงเริ่มแล้วหลังเราล็อกดาวน์กันมา 3 ปี ถึงตอนนี้เชื้อจะไม่ร้ายแรงเท่าตอนสมัยคุณหมอแล้ว แต่พวกเราเหนื่อยมากเลยค่ะ” คอมเมนต์หนึ่งระบุ

“มาคุยกับหมอหลี่อีกแล้วครับ เมืองของเราไม่มีล็อกดาวน์แล้วตอนนี้ หลายคนดีใจพากันตะโกนว่าการระบาดจบลงแล้วหลังผ่านมา 3 ปี แต่ว่ามันจบแล้วจริงเหรอครับ” คอมเมนต์ถามทิ้งท้าย

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ