วันที่ 5 มี.ค.เอเอฟพีรายงานว่า จีนประกาศเพิ่มงบประมาณกลาโหมปี 2566 สู่ 1.55 ล้านล้านหยวนหรือราว 7.7 ล้านล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 7.2 เมื่อเทียบกับปีที่แล้วร้อยละ 7.1 เตือนถึงภัยคุกคามที่รุนแรงขึ้นจากต่างประเทศ และตั้งเป้าเศรษฐกิจเติบโตปี 2566 ร้อยละ 5 นับเป็นหนึ่งในเป้าที่ต่ำที่สุดในรอบหลายสิบปีของจีนในการประชุมสภาประชาชนแห่งชาติจีนหรือเอ็นพีซีประจำปี ซึ่งมีกำหนดวาระแต่งตั้งนายสี จิ้นผิง ดำรงประธานาธิบดีสมัยที่ 3 ด้วย
ที่อาคารมหาศาลาประชาชน กรุงปักกิ่ง นายหลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีจีนที่กำลังจะพ้นจากตำแหน่งกล่าวในที่ประชุมวันแรกต่อผู้แทนสภาประชาชนแห่งชาติจีนว่า ความพยายามจากภายนอกที่จะหยุดยั้งและสกัดกั้นจีนกำลังขยายมากขึ้น กองทัพควรฝึกฝนทหารและเตรียมการอย่างเข้มข้นขึ้น และเสริมว่า ทหารต้องอุทิศพลังมากขึ้นแก่การฝึกฝนภายใต้การสู้รบในหลายสภาพแวดล้อมและ…ทำให้งานการทหารแข็งแกร่งในทุกทิศทางและขอบเขต
งบกลาโหมทางการของจีนมากเป็นลำดับสองของโลกและยังคงน้อยกว่าสหรัฐ ซึ่งในปีนี้สหรัฐทุ่มงบกว่า 800,000 ล้านดอลล่าร์สหรัฐหรือราว 27 ล้านล้านบาท แต่นักวิเคราะห์ระบุว่า ปริมาณเงินที่ใช้ในการทหารมีจำนวนมากกว่างบประมาณทางการจีนที่ตั้งไว้อย่างมาก
เป้าการเติบโตทางเศรษฐกิจดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากปีที่แล้ว จีนเติบโตเพียงร้อยละ 3 พลาดจากเป้าที่ตั้งไว้ที่ราวร้อยละ 5.5 เนื่องจากเศรษฐกิจจีนตึงเครียดจากผลกระทบของนโยบายสกัดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างเข็มงวดและวิกฤตอสังหาริมทรัพย์
นายหลี่ระบุว่า ภายใต้การนำของคณะกรรมการกลางของพรรคคอมมิวนิสต์ จีนดำเนินการตอบสนองโรคโควิด-19 และทำให้การพัฒนาทางเศรษฐกิจและสังคมประสบผลสำเร็จในทางที่มีประสิทธิภาพและได้รับความร่วมมืออย่างดี
“การเอาชนะความยากลำบากและความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ จีนประสบความสำเร็จในการรักษาการเติบโตทางเศรษฐกิจให้มีเสถียรภาพในภาพรวม”นายหลี่กล่าว
นอกจากนี้วาระสำคัญสูงสุดอีกหนึ่งวาระในการประชุมในวันศุกร์ที่ 9 มี.ค.นี้ คือการแต่งตั้งประธานาธิบดีสีวัย 69 ปี เป็นผู้นำสมัยที่ 3 หลังจากได้รับการต่อวาระในตำแหน่งเลขาธิการใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีนอีก 5 ปีรวมถึงประธานกองทัพปลดแอกประชาชนแห่งชาติจีนในการประชุมสภาประชาชนแห่งชาติจีนเมื่อเดือนต.ค.ปีที่แล้ว นับตั้งแต่นั้น ความเป็นผู้นำของนายสีเผชิญความท้าทายและการตรวจสอบที่ไม่คาดคิด และรวมถึงแนวโน้มการแต่งตั้งนายหลี่ เฉียง อดีตเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์ประจำนครเซี่ยงไฮ้เป็นนายกรัฐมนตรีจีนคนใหม่ด้วย
นายสตีฟ ฉาง ผอ.สถาบันจีนศึกษาจากวิทยาลัยบูรพคดีศึกษาและการศึกษาแอฟริกา (โซแอส) มหาวิทยาลัยลอนดอนระบุว่า นายสีดำเนินการอย่างเด็ดขาดเมื่อเกิดการประท้วงเรียกร้องให้นายสีและพรรคคอมมิวนิสต์จีนลงจากตำแหน่ง นายสีปราบม็อบและขจัดสาเหตุแห่งความไม่สงบ ซึ่งนายสีสามารถนำเสนอตนเองในฐานะผู้นำจากแนวหน้ามากกว่า การเป็นผู้นำที่ถูกผลักดันให้ตอบสนอง
………..
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
•ปิดประชุมพรรค แน่ชัด “สี จิ้นผิง” นั่งผู้นำสมัย 3 อื้ออึง “หู จิ่นเทา” ถูกเชิญออก
•แต่งตั้งไม่ปกติ ‘หลี่เฉียง’ เด็กในโอวาท ‘สีจิ้นผิง’ ผงาดเบอร์ 2 ลุ้นว่าที่นายกฯจีน
•จีนเซ็นเซอร์ข้อมูล “ม็อบโควิด” บีบีซียัวะนักข่าวถูก “จับ-ตื้บ” ขณะตีแผ่การประท้วง