จีนวอนWHOเที่ยงธรรม ปมถูกซัดข้อมูลโควิดไม่สะท้อนความเป็นจริง
จีนวอนWHOเที่ยงธรรม – วันที่ 5 ม.ค. เอเอฟพีรายงานว่า จีนเรียกร้องให้องค์การอนามัยโลก (WHO) ดำรงจุดยืนที่ “เที่ยงธรรม” หลังถูกหน่วยงานของ WHO วิพากษ์วิจารณ์ถึงนิยามของ “ผู้เสียชีวิต” จากการระบาดของโรคโควิด-19 ว่าแคบเกินไปและไม่สะท้อนสถานการณ์จริง
การตอบโต้ของทางการจีนเกิดขึ้นในช่วงที่การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาปี 2019 หรือโควิด-19 กำลังลุกลามอย่างรวดเร็วในประเทศจีนหลังทางการจีนยุตินโยบายกวาดล้างแบบไดนามิก ซีโร่-โควิด สร้างความกังวลให้หลายประเทศทั่วโลกนำไปสู่มาตรการคัดกรองของนานาชาติ
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นหลังคณะกรรมการภาวะฉุกเฉินขององค์การอนามัยโลก (WHO) วิพากวิจารณ์การนิยาม “ผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19” ของทางการจีนว่าแคบเกินไป
นิยามที่แคบเกินไปส่งผลให้ข้อมูลที่ทางการจีนนำมาแสดงต่อประชาคมโลกนั้นเป็นข้อมูลที่ไม่สะท้อนความเป็นจริงของสถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นในประเทศ ท่ามกลางรายงานเกี่ยวกับภาวะผู้ป่วยล้นระบบสาธารณสุขและเตาเผาศพผู้เสียชีวิตที่ไม่เพียงพอ
นายไมเคิล ไรอัน ผู้อำนวยการคณะกรรมการภาวะฉุกเฉิน กล่าวว่า WHO ยังคงไม่มีข้อมูลที่ครบถ้วน โดยพวกตนเชื่อว่าข้อมูลที่มีอยู่นั้นไม่สะท้อนถึงภาวะความเป็นจริงที่กำลังเกิดขึ้นในแง่ของจำนวนผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษา ผู้ป่วยวิกฤตในห้องไอซียู และโดยเฉพาะจำนวนผู้เสียชีวิตที่แท้จริง
นางเหมา หนิง โฆษกหญิงกระทรวงการต่างประเทศจีน กล่าวว่า จีนมีความร่วมมือที่ใกล้ชิดกับ WHO มาโดยตลอด โดยได้แบ่งปันข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับประชาคมโลกด้วยทัศนคติที่เปิดกว้างและโปร่งใส
ทางการจีนจึงหวังว่าเลขาธิการใหญ่ของ WHO จะดำรงไว้ซึ่งหลักวิทยาศาสตร์ เหตุผล ความเที่ยงธรรม และเดินหน้ามีบทบาทที่สร้างสรรค์ต่อประชาคมโลกในการรับมือกับความท้าทายจากการระบาดใหญ่ของโรคโควิด-19 นอกจากนี้ นางหนิงยังย้ำว่า จีนกับ WHO นั้นเคยแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านโรคโควิด-19 กันมาแล้วมากกว่า 60 ครั้ง
ด้านความคืบหน้าการออกมาตรการของนานาชาติ ล่าสุด บรรดาชาติสมาชิกสหภาพยุโรปหรืออียูมีมติร่วมกันให้ออกมาตรการป้องกันต่อ “บุคคลทุกสัญชาติ” ที่เดินทางมาจากจีน แต่ยังอยู่ระหว่างการเจรจารายละเอียดมาตรการ
นายฟรองซัวส์ บรอน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขฝรั่งเศส กล่าวว่า การระบาดที่ลุกลามอย่างรวดเร็วในจีนนั้นน่ากังวล แม้ปริมาณผู้ป่วยหนักที่เข้ารับการรักษาในสถานพยาบาลในฝรั่งเศสจะเริ่มลดลงแล้วก็ตาม
ขณะที่คณะกรรมการรับมือวิกฤตของอียู แนะนำว่า บุคคลที่เดินทางมาจากจีนควรมีผลตรวจภาวะการติดเชื้อก่อโรคโควิด-19 ทางห้องปฏิบัติการเป็นลบมาแสดงขณะเข้าสู่อียู อย่างไรก็ดี สมาชิกอียูบางชาติมองว่าควรมารับการตรวจและได้ผลเป็นลบหลังเดินทางมาถึงสนามบินของชาติอียู
ทั้งนี้ ทางการจีนเปิดเผยว่า มีผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 เพียง 22 รายเท่านั้นนับตั้งแต่เดือนธ.ค. 2565 และเดินหน้าปรับเปลี่ยนนิยามของผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าข้อมูลจากทางการจีนนั้นไม่สะท้อนความเป็นจริง เช่นเดียวกันกับผู้เชี่ยวชาญตะวันตกบางชาติที่มองว่า ข้อมูลจากทางการจีนยังไม่เพียงพอไปจนถึงขาดความน่าเชื่อถือ
สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นนำไปสู่มาตรการคัดกรองของหลายชาติ อาทิ สหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป ออสเตรเลีย แคนาดา สหราชอาณาจักร อิสราเอล ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ กาน่า อินเดีย กาตาร์ และโมรอกโก รวมถึงเกาะไต้หวันด้วย
ส่งผลให้ทางการจีนแสดงความไม่พอใจและกล่าวหา ว่าเป็นการเลือกปฏิบัติเพราะการระบาดนั้นมีอยู่ทั่วโลกแต่กลับเลือกที่จะออกมาตรการคัดกรองเฉพาะกับจีน โดยจีนยืนยันว่าไม่เห็นด้วยกับการนำเรื่องที่เกิดขึ้นมาใช้เป็นเครื่องมือทางการเมืองระหว่างประเทศ