นายเกา ฝู ผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมโรคจีน กล่าวระหว่างงานประชุมงานหนึ่งในเมืองเฉิงตู เมื่อวันเสาร์ (10 เม.ย.) ว่าวัคซีนโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ของจีนมีประสิทธิภาพต่ำ และรัฐบาลกำลังพิจารณาว่าจะนำสูตรต่างๆ มาผสมกันเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ
วันซีนจีน “ไม่มีอัตราการป้องกันโรคสูงมากนัก” นายเกา ฝู กล่าว
ที่ผ่านมา รัฐบาลจีนนำวัคซีนหลายร้อยหล้านโดสส่งให้กับต่างประเทศ ขณะเดียวกันก็พยายามทำให้ทั่วโลกสงสัยว่าวัคซีนที่บริษัทยา ไฟเซอร์ และ ไบออนเทค ร่วมกันพัฒนามีประสิทธิภาพมากอย่างที่กล่าวอ้างหรือไม่ เพราะใช้เทคโนโลยี mRNA (เอ็มอาร์เอ็นเอ) ที่ค่อนข้างใหม่สำหรับการผลิตวัคซีน
นายเกา เผยอีกว่า ขณะนี้รัฐบาลกลางกำลังพิจารณาว่าจีนควรใช้วัคซีนที่แตกต่างออกไป ที่ผลิตจากเทคโนโลยีใหม่เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันต่อโรคโควิด-19
ด้านนายหวัง ฮวาชิง เจ้าหน้าที่จากศูนย์ควบคุมโรคของจีนคนหนึ่ง เผยว่า ขณะนี้จีนกำลังพัฒนาวัคซีนที่ใช้เทคโนโลยีเอ็มอาร์เอ็นเอด้วย ซึ่งขณะนี้กำลังเข้าสู่ขั้นตอนการทดลองทางคลินิก
ผู้เชี่ยวชาญหลายคนมองว่า การนำวัคซีนมาผสมกันอาจเพิ่มประสิทธิภาพได้จริง โดยจะเห็นได้จากการที่นักวิจัยในสหราชอาณาจักรกำลังศึกษาความเป็นไปได้ของการนำวัคซีนของไฟเซอร์และไบออนเทค กับวัคซีนที่บริษัทยา แอสตร้าเซนเนก้า และมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด พัฒนา มาใช้ร่วมกัน
การทดสอบวัคซีนที่ประเทศบราซิล พบว่าวัคซีนของซิโนแวคจากจีน มีประสิทธิภาพในการป้องกันโรคต่ำถึงเพียง 50.4% หรือเกือบจะไม่ผ่านเกณฑ์ที่ผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขกำหนดไว้ที่ 50% แล้ว ขณะที่ประสิทธิภาพของวัคซีนไฟเซอร์สูงถึง 97%