ทางการจีนเรียกร้องให้องค์การสหประชาชาติย้ำเตือนต่อสหรัฐฯ และบรรดาชาติภาคีของสนธิสัญญาว่าด้วยห้วงอวกาศภายนอก (The Outer Space Treaty) ให้เคารพกฎเกณฑ์ในข้อตกลงระหว่างประเทศอย่างเคร่งครัด หลังสถานีอวกาศเทียนกงที่กำลังก่อสร้างอยู่ ต้องเคลื่อนย้ายตำแหน่งเพื่อความปลอดภัยถึง 2 ครั้ง เมื่อวันที่ 1 ก.ค. และ 21 ต.ค. ของปีนี้ เพื่อหลบเลี่ยงไม่ให้ชนเข้ากับดาวเทียมสตาร์ลิงก์ของบริษัทสเปซเอ็กซ์
จีนแสดงความไม่พอใจและเรียกร้องดังข้างต้น ในรายงานที่ยื่นต่อคณะกรรมาธิการของสหประชาชาติว่าด้วยการใช้อวกาศอย่างสันติ (COPUOS) เมื่อช่วงต้นเดือน ธ.ค.ที่ผ่านมา โดยรายงานดังกล่าวมีใจความว่า “รัฐบาลจีนใคร่ขอให้เลขาธิการสหประชาชาติส่งต่อข้อมูลที่แจ้งมาให้ทราบนี้แก่ชาติภาคีทั้งหมด และขอย้ำว่าทุกประเทศจะต้องมีความรับผิดชอบต่อประชาคมนานาชาติ ในสิ่งที่องค์กรภาครัฐและภาคเอกชนของตนเองได้กระทำลงไปในห้วงอวกาศ”
- สหรัฐฯ ไม่พอใจรัสเซียยิงขีปนาวุธทำลายดาวเทียม
- ทำไมนาซาจึงให้สเปซเอ็กซ์รับเหมาช่วงเรื่องการขนส่งนอกโลก
ก่อนหน้านี้บริษัทสเปซเอ็กซ์ได้ปล่อยดาวเทียมเกือบ 1,900 ดวงขึ้นสู่วงโคจร โดยเป็นส่วนหนึ่งของการติดตั้งเครือข่ายดาวเทียมสตาร์ลิงก์เพื่อการใช้งานอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง โดยดาวเทียมในเครือข่ายจะมีอยู่ทั้งหมด 12,000 ดวง และโครงการนี้ได้รับอนุญาตจากทางการสหรัฐฯ เรียบร้อยแล้ว
ดร. โจนาธาน แม็กโดเวลล์ ผู้เชี่ยวชาญด้านวัตถุอวกาศที่มนุษย์สร้างขึ้น จากศูนย์ฟิสิกส์ดาราศาสตร์ ฮาร์วาร์ด-สมิธโซเนียน ของสหรัฐฯ แสดงความเห็นต่อหนังสือพิมพ์เดอะการ์เดียนว่า แม้การเฉี่ยวชนกันของดาวเทียมหรือสถานีอวกาศจะเป็นเรื่องปกติที่พบได้ค่อนข้างบ่อย แต่เหตุการณ์ในลักษณะนี้กลับเพิ่มขึ้นอย่างมากและรวดเร็วในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เนื่องจากมีดาวเทียมจำนวนมหาศาลถูกปล่อยขึ้นสู่ห้วงอวกาศ โดยส่วนใหญ่ก็เป็นดาวเทียมในเครือข่ายสตาร์ลิงก์นั่นเอง

“เหตุการณ์ครั้งนี้เตือนเราว่า โลกได้เข้าสู่ยุคใหม่แห่งห้วงอวกาศที่มุ่งการพาณิชย์เป็นหลักแล้ว มีการปล่อยดาวเทียมเพื่อใช้งานมากขึ้นและก็มีขยะอวกาศเพิ่มมากขึ้นเป็นเงาตามตัว สร้างความแออัดวุ่นวายและตึงเครียดให้กับสภาพแวดล้อมในอวกาศเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์” ดร. แม็กโดเวลล์กล่าว
อย่างไรก็ตาม ดร. แม็กโดเวลล์ได้ชี้ให้เห็นว่าจีนก็เป็นผู้ผลิตขยะอวกาศรายใหญ่เช่นเดียวกับสหรัฐฯ และตลอดสิบกว่าปีที่ผ่านมา สถานีอวกาศที่สหรัฐฯ ดูแลก็ต้องคอยปรับตำแหน่งหลบเลี่ยงขยะอวกาศเหล่านี้มานับครั้งไม่ถ้วน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเหตุการณ์ที่จีนทดสอบขีปนาวุธทำลายดาวเทียมเมื่อปี 2007 จนทำให้เกิดซากชิ้นส่วนกระจัดกระจายจำนวนมากและเป็นอันตรายยิ่งกว่าครั้งใด ๆ ที่เคยมีมา
ด้านผู้ใช้งานสื่อสังคมออนไลน์เว่ยปั๋ว (Weibo) ของจีน ต่างพากันวิพากษ์วิจารณ์สหรัฐฯ และนายอีลอน มัสก์ ประธานผู้บริหารบริษัทสเปซเอ็กซ์อย่างเผ็ดร้อน โดยผู้ใช้บางรายแสดงความเห็นว่า ดาวเทียมในเครือข่ายสตาร์ลิงก์นั้น “ก็แค่ขยะอวกาศกองหนึ่ง”
ผู้ใช้งานเว่ยปั๋วอีกรายบอกว่า “ดาวเทียมฝูงนี้เป็นอาวุธที่ใช้ทำสงครามอวกาศของพวกอเมริกัน นายอีลอน มัสก์ ก็คืออาวุธชิ้นใหม่ที่รัฐบาลและกองทัพสหรัฐฯ สร้างขึ้น” ชาวจีนบางคนมองว่า “อันตรายของโครงการสตาร์ลิงก์กำลังถูกเผยออกมาทีละน้อย และเป็นมวลมนุษยชาติที่จะต้องจ่ายให้กับการทำธุรกิจของพวกเขา”
ในปีนี้จีนประสบความสำเร็จในการขนส่งมนุษย์อวกาศและชิ้นส่วนของสถานีอวกาศ 5 ครั้ง โดยทั้งหมดเป็นส่วนหนึ่งของภารกิจก่อสร้างสถานีอวกาศเทียนกง ซึ่งคาดว่าจะเสร็จสมบูรณ์ภายในปี 2022 ที่จะถึงนี้
……………
ข่าว BBCไทย ที่เผยแพร่ในเว็บไซต์ ข่าวสด เป็นความร่วมมือของสององค์กรข่าว