จีนกลับลำ! ลุยพัฒนา “อาวุธนิวเคลียร์” แซะสหรัฐ-รัสเซียมี “หัวรบ” เยอะก็ลดก่อน
จีนกลับลำ! ลั่นเดินหน้าพัฒนา – วันที่ 4 ม.ค. เอเอฟพี รายงานว่า นายฟู่ กง อธิบดีกรมควบคุมอาวุธ กระทรวงการต่างประเทศจีน กล่าวว่าจะเดินหน้าพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ให้มีความทันสมัยต่อไป พร้อมเรียกร้องให้สหรัฐอเมริกาและรัสเซียลดคลังแสงอาวุธนิวเคลียร์
นับเป็นความเคลื่อนไหวที่สวนทางกัน หลังจากชาติมหาอำนาจ ประกอบด้วยสหรัฐ รัสเซีย สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส และจีนออกแถลงการณ์ร่วมให้คำมั่นว่าจะป้องกันการแพร่หลายอาวุธนิวเคลียร์และความขัดแย้งด้านนิวเคลียร์ เมื่อวันจันทร์ที่ 3 ม.ค.ที่ผ่านมา
แถลงการล่าสุดของจีนมีใจความปกป้องนโยบายอาวุธนิวเคลียร์ของประเทศ โดยนายฟู่กล่าวว่าปัจจุบันรัสเซียและสหรัฐมีอาวุธนิวเคลียร์มากที่สุดในโลกจึงสมควรเป็นฝ่ายปลดอาวุธนิวเคลียร์ก่อน เพราะครอบครองหัวรบนิวเคลียร์มากถึงร้อยละ 90 ของหัวรบที่มีทั่วโลก สหรัฐและรัสเซียต้องลดอาวุธนิวเคลียร์ลงอย่างถาวร รวมทั้งต้องมีผลผูกมัดทางกฎหมาย
พร้อมตอบโต้ข้อกล่าวหาของสหรัฐที่ว่าจีนเพิ่มศักยภาพทางนิวเคลียร์ขนานใหญ่ว่าไม่ใช่เรื่องจริง จีนทำเพียงรักษาศักยภาพทางอาวุธนิวเคลียร์ที่ระดับต่ำเพื่อป้องกันความมั่นคงแห่งชาติ นอกจากนี้นายฟู่ยังปฏิเสธกณีที่มีการคาดเดาถึงความเป็นไปได้ของการประจำการอาวุธนิวเคลียร์ใกล้ช่องแคบไต้หวันว่า อาวุธนิวเคลียร์เป็นการยับยั้งขั้นสุดท้าย ไม่ใช่เพื่อสงครามหรือการสู้รบ
ก่อนหน้านี้แถลงการณ์ร่วมของ 5 ประเทศมหาอำนาจครอบครองอาวุธนิวเคลียร์ซึ่งนับว่าหาได้ยากยิ่ง เกิดขึ้นท่ามกลางความตึงเครียดที่สูงขึ้นระหว่างชาติตะวันตกและตะวันออก ทั้งห้าประเทศยืนยันถึงเป้าหมายในการสร้างโลกที่ปราศจากอาวุธนิวเคลียร์ หลีกเลี่ยงความขัดแย้งทางนิวเคลียร์ระหว่างกัน และให้คำมั่นว่าจะปลดอาวุธนิวเคลียร์อย่างสิ้นเชิงในอนาคต
อย่างไรก็ตาม ประชาคมโลกมีความกังวลเพิ่มมากขึ้นเกี่ยวกับกิจกรรมทางการทหารของจีน ภายหลังกองทัพจีนประกาศเมื่อปีก่อนว่าพัฒนาขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิก สามารถเคลื่อนที่ด้วยความเร็วเหนือเสียงถึง 5 เท่า ขณะที่สหรัฐเคยระบุว่าจีนกำลังขยายอาวุธนิเวคลียร์โดยตั้งเป้าว่าจะมีหัวรบนิวเคลียร์ 700 หัวภายในปี 2570 และอาจมากถึง 1,000 หัวภายในปี 2573
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- คิมเผยทิศทางปี 2022 ลุยแก้ปัญหา “อดอยาก-เศรษฐกิจ” ไม่รีบหารือปลดนิวเคลียร์
- กองทัพสหรัฐขับ 3 ทหาร เซ่นเรือดำน้ำพลังนิวเคลียร์ชน “ภูเขาใต้ทะเล”