จิตวิทยากับการ "แอบแซ่บ" เหตุผลอะไร ที่ทำให้คนนอกใจแฟน "แอบกิน" กับคนใกล้ตัว

Home » จิตวิทยากับการ "แอบแซ่บ" เหตุผลอะไร ที่ทำให้คนนอกใจแฟน "แอบกิน" กับคนใกล้ตัว
จิตวิทยากับการ "แอบแซ่บ" เหตุผลอะไร ที่ทำให้คนนอกใจแฟน "แอบกิน" กับคนใกล้ตัว

ความสัมพันธ์แบบ ‘แอบแซ่บ’: สาเหตุอะไรที่ทำให้คนใกล้ตัว-เพื่อนร่วมงาน คนที่เจอกันทุกวัน พลั้งพลาด ถลำแอบมีสัมพันธ์เกินเลย

ความสัมพันธ์ลับๆ หรือที่เรียกว่า ‘แอบแซ่บ’ เป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นในสังคมมากขึ้นในปัจจุบัน ซึ่งมักเกิดขึ้นในสภาพแวดล้อมที่คนใกล้ตัว เช่น เพื่อนร่วมงาน หรือคนที่เจอกันเป็นประจำทุกวัน การมีความสัมพันธ์ทางกายกับบุคคลอื่นที่ไม่ใช่คู่ครองของตนเอง นับเป็นปัญหาที่ส่งผลต่อครอบครัว และสร้างความเจ็บปวดในระยะยาว โดยเฉพาะเมื่อความลับนี้ถูกเปิดเผย

ทำไมคนถึงเผลอมีสัมพันธ์ลับกับคนใกล้ชิด?

1. ความใกล้ชิดทางอารมณ์และกายภาพ (Emotional and Physical Proximity):
คนที่ทำงานด้วยกันหรือเจอกันบ่อยๆ มักเกิดความใกล้ชิดทั้งทางจิตใจและกายภาพ นักจิตวิทยาสังคมเช่น ดร. เอเลน แฮทฟิลด์ (Dr. Elaine Hatfield) ผู้เชี่ยวชาญด้านความสัมพันธ์ระบุว่า ความใกล้ชิดเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้คนเริ่มพัฒนาความรู้สึกเกินกว่าเพื่อนหรือเพื่อนร่วมงาน ความใกล้ชิดนี้อาจทำให้เกิดความรู้สึกเชื่อมโยงทางอารมณ์จนกลายเป็นการดึงดูดทางกาย

2. แรงกดดันและความเครียดจากชีวิตประจำวัน (Stress and Life Pressures):
การทำงานร่วมกันภายใต้แรงกดดันทางงานและภาระหน้าที่ อาจทำให้เกิดความรู้สึกเหนื่อยล้าและต้องการหาที่พึ่งทางอารมณ์ คนบางคนอาจเผลอพึ่งพิงคนใกล้ตัวที่เข้าใจในสภาวะจิตใจของตนเอง เช่น เพื่อนร่วมงาน ซึ่งอาจนำไปสู่การมีสัมพันธ์เกินเลย ดร. เอริค เบิร์กเลส (Dr. Eric Berne) กล่าวถึงการค้นหาความใกล้ชิดและความสะดวกใจในสถานการณ์ที่มีแรงกดดันเป็นปัจจัยหนึ่งในการกระตุ้นพฤติกรรมลับๆ เหล่านี้

3. ความห่างเหินในความสัมพันธ์หลัก (Dissatisfaction in Primary Relationship):
การที่ความสัมพันธ์ในครอบครัวขาดการสื่อสารหรือมีปัญหาทางอารมณ์ อาจทำให้คนบางคนมองหาความรักหรือการเติมเต็มจากคนอื่น การศึกษาทางจิตวิทยาพฤติกรรมพบว่า คู่รักที่ไม่มีการสื่อสารหรือการแสดงความรักซึ่งกันและกันอย่างสม่ำเสมอ มีโอกาสสูงที่จะหาความสุขทางอารมณ์จากบุคคลที่สาม

ผลกระทบและปัญหาที่ตามมา

ความสัมพันธ์แบบแอบแซ่บอาจนำไปสู่ปัญหามากมาย ทั้งทางด้านความรู้สึกและด้านกฎหมาย

1. การแตกหักในครอบครัว (Family Breakdown):
ความสัมพันธ์ลับๆ มักนำไปสู่การหย่าร้างเมื่อความจริงถูกเปิดเผย ส่งผลให้ครอบครัวมีปัญหาด้านอารมณ์ โดยเฉพาะลูกๆ ที่ต้องเผชิญกับการสูญเสียความอบอุ่นในครอบครัว นักจิตวิทยาครอบครัว ดร. จอห์น กอตต์แมน (Dr. John Gottman) แห่งสถาบันความสัมพันธ์คู่รัก (Gottman Institute) กล่าวว่าความไม่ซื่อสัตย์ถือเป็นหนึ่งในปัจจัยหลักที่ทำให้ความสัมพันธ์พังทลาย

2. การลดทอนความมั่นใจในตัวเองและความภักดี (Trust Issues and Self-Esteem):
คนที่มีความสัมพันธ์ลับๆ มักพบว่าความมั่นใจในตนเองลดลง และความสัมพันธ์ในระยะยาวกับคู่รักของตนไม่ยั่งยืน การสูญเสียความเชื่อมั่นในตัวเองและการหมดความภักดีต่อคู่รักอาจทำให้เกิดภาวะซึมเศร้าและความรู้สึกสูญเสียคุณค่า

3. ปัญหาการทำงานและความเป็นมืออาชีพ (Workplace Problems and Professionalism):
ความสัมพันธ์ลับในที่ทำงานอาจส่งผลต่อบรรยากาศการทำงาน ทำให้เกิดความไม่เป็นมืออาชีพและสร้างความตึงเครียดกับเพื่อนร่วมงานคนอื่นๆ นอกจากนี้ยังอาจเสี่ยงต่อการถูกฟ้องร้องหรือถูกลงโทษตามกฎหมายเกี่ยวกับการล่วงละเมิดในที่ทำงาน ซึ่งอาจทำลายภาพลักษณ์ขององค์กรได้

ความสัมพันธ์ลับๆ กับการพัฒนาในระยะยาว

ความสัมพันธ์แบบแอบแซ่บไม่ได้เป็นสิ่งที่นำไปสู่ความสุขในระยะยาว การศึกษาโดย ดร. ฟิลิป ราเซค (Dr. Phillip Rice) นักวิจัยด้านพฤติกรรมศาสตร์ พบว่าคนที่มีความสัมพันธ์ลับๆ มักมีปัญหาทางจิตใจ เช่น ความรู้สึกผิด ความเครียด และภาวะซึมเศร้าหลังจากถูกเปิดเผย ซึ่งส่งผลต่อคุณภาพชีวิตในอนาคตของพวกเขาเอง

ความสัมพันธ์แบบ ‘แอบแซ่บ’ อาจเริ่มต้นจากความใกล้ชิดในชีวิตประจำวัน แต่ผลกระทบที่เกิดขึ้นนั้นมีความรุนแรงทั้งต่อความสัมพันธ์ในครอบครัวและชีวิตส่วนตัวของผู้ที่มีส่วนร่วม การสื่อสารที่ดีและการเคารพซึ่งกันและกันในความสัมพันธ์หลักเป็นทางเลือกที่ดีกว่าในการป้องกันไม่ให้ปัญหานี้เกิดขึ้น.

อ้างอิง:

  • Gottman Institute. (2021). The Science of Trust: Emotional Attunement for Couples.
  • Hatfield, E. & Rapson, R. L. (1993). Love, Sex, and Intimacy: Their Psychology, Biology, and History.
  • Berne, E. (1964). Games People Play: The Psychology of Human Relationships.

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ