COVID 19 อาจคร่าชีวิตได้ หากไม่ฉีด วัคซีนกระตุ้น หมอธีระ เผย มีสิทธิ์ตายกว่าคนฉีด 42 เท่า ย้ำ หน้ากากอนามัยนั้นก็ยังจำเป็นอย่างมาก
วันที่ 3 ก.ค. 65 เพจ สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว ได้แชร์ข้อความของ รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ ที่หยิบยกงานวิจัย CDC สหรัฐฯ ชี้ให้เห็นถึงความจำเป็นที่ทุกคนควรได้รับ วัคซีนกระตุ้น ไม่ว่าจะเป็นเข็ม 3 หรือ 4 นั้น หากไม่ฉีดจะมีผลต่อชีวิตได้
‘หมอธีระ’ ยกงานวิจัย CDC สหรัฐฯ ชี้ความจำเป็นต้องรับวัคซีน ‘เข็มกระตุ้น’ ครับ
…กลุ่มคนไม่ได้ฉีดวัคซีน ถ้าติดโควิด จะมีความเสี่ยงที่จะเสียชีวิต มากกว่ากลุ่มคนที่ฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นครั้งที่ 2 (เข็มสี่) ถึง 42 เท่า
กลุ่มคนที่ได้วัคซีนจนถึง ‘เข็มสาม’ ถ้าติดโควิด จะมีความเสี่ยงเสียชีวิต สูงกว่ากลุ่มคนที่ได้วัคซีนเข็มสี่ ถึง 4 เท่า
เข็มกระตุ้นครั้งที่ 1 (เข็มสาม) ควรได้รับทุกคน ส่วนเข็มกระตุ้นครั้งที่ 2 (เข็มสี่) คนที่ควรไปรับ คือกลุ่ม 608 และ คนที่มีความเสี่ยงสูงในชีวิตประจำวัน เช่น มีอาชีพที่ต้องบริการ ดูแล พบปะคนจำนวนมาก
โอมิครอน ‘สายพันธุ์ย่อย BA.5’
มีการแพร่เร็วขึ้น ดื้อต่อภูมิคุ้มกันมากขึ้น ทั้งภูมิคุ้มกันที่เกิดจากวัคซีน จากการติดเชื้อมาก่อน และดื้อต่อยาแอนติบอดี้ที่ใช้รักษาหลายชนิด
คนติดเชื้อซ้ำ มีโอกาสป่วยรุนแรงมากขึ้น 3 เท่า และเสี่ยงที่จะเสียชีวิตมากขึ้น 2 เท่า
วานนี้ 2 กรกฎาคม 65 รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์อาจารย์คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊ก ‘Thira Woratanarat’ ระบุ
“ … สถานการณ์ระบาดของไทย
จากข้อมูล Worldometer เช้านี้พบว่า
จำนวนเสียชีวิตเมื่อวาน สูงเป็นอันดับ 13 ของโลก และอันดับ 2 ของเอเชีย แม้สธ.ไทยจะปรับระบบรายงานตั้งแต่ 1 พ.ค.จนทำให้จำนวนที่รายงานนั้นลดลงไปมากก็ตาม
…วันที่ 2 ของการเป็นดินแดนแห่งโรคชุกชุม
ชัดเจนว่าสถานการณ์จริงรอบตัวเรา พบเห็นชัดเจนว่าเกิดการระบาดเป็นกลุ่มก้อนมากมาย ทั้งก้อนเล็ก ก้อนใหญ่ ทั้งในสถานพยาบาล สถานศึกษา ที่ทำงานอื่นๆ รวมถึงครอบครัว และหมู่เพื่อนฝูง
การขาด”คันฉ่องส่องสถานการณ์” หรือมีแต่คันฉ่องฝุ่นจับและบิดเบี้ยว จนสะท้อนให้เห็นอะไรไม่ได้ ก็จะทำให้ยากที่จะทำให้คนในสังคมตระหนัก รับรู้ รู้เท่าทันสถานการณ์ และจะส่งผลต่อการประพฤติปฏิบัติตัวเพื่อป้องกันตนเองและคนใกล้ชิด
เรื่องนี้จึงเป็นเรื่องสำคัญที่ทางองค์การอนามัยโลกพยายามเน้นย้ำตลอดมา ให้ทุกประเทศมีการดำเนินระบบเฝ้าระวังที่เข้มข้น มีประสิทธิภาพ ตั้งแต่การติดตามสถานการณ์ ทำการตรวจคัดกรองอย่างต่อเนื่องและมากพอ รวมถึงการรายงานข้อมูล
- …อัพเดตวัคซีนเข็มกระตุ้นครั้งที่ 2 (เข็ม 4) ของคนอายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป
ข้อมูลล่าสุดจาก US CDC ที่ทำการประเมินผลตั้งแต่ 27 มีนาคม 2565 ถึง 30 เมษายน 2565 ชี้ให้เห็นว่า
- 1. กลุ่มคนที่ไม่ได้ฉีดวัคซีน หากติดเชื้อโรคโควิด-19 จะมีความเสี่ยงที่จะเสียชีวิตมากกว่ากลุ่มคนที่ฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นครั้งที่ 2 (เข็มสี่) ถึง 42 เท่า
- 2. กลุ่มคนที่ได้วัคซีนจนถึงเข็มสาม หากติดเชื้อโรคโควิด-19 จะมีความเสี่ยงในการเสียชีวิตสูงกว่ากลุ่มคนที่ได้วัคซีนเข็มสี่ ถึง 4 เท่า
ด้วยความรู้ทางการแพทย์ที่มีอยู่ในปัจจุบัน การฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นนั้นมีความจำเป็นสำหรับทุกคน เพราะการระบาดในปัจจุบันรุนแรงมากขึ้นในกว่าร้อยประเทศทั่วโลก และเป็นสายพันธุ์ย่อย BA.5 ที่มีการแพร่เร็วขึ้น ดื้อต่อภูมิคุ้มกันมากขึ้น ทั้งภูมิคุ้มกันที่เกิดจากวัคซีน จากการติดเชื้อมาก่อน และดื้อต่อยาแอนติบอดี้ที่ใช้รักษาหลายชนิด
เข็มกระตุ้นครั้งที่ 1 หรือเข็มสามนั้น ควรได้รับทุกคน ในขณะที่เข็มกระตุ้นครั้งที่ 2 หรือเข็มสี่นั้น คนที่ควรไปรับได้แก่ คนสูงอายุ คนที่มีโรคประจำตัวต่างๆ รวมถึงคนที่มีความเสี่ยงสูงในชีวิตประจำวัน เช่น มีอาชีพที่ต้องบริการ ดูแล พบปะคนจำนวนมาก
เหนืออื่นใด การฉีดวัคซีนนั้นเพื่อลดความเสี่ยงที่จะป่วยรุนแรงและเสียชีวิต แต่หากไม่ป้องกันตัวให้ดี ก็จะติดเชื้อได้ ป่วยได้ ตายได้ และเสี่ยงต่อการเป็น Long COVID ด้วย
ติดเชื้อซ้ำจะมีโอกาสป่วยรุนแรงมากขึ้น 3 เท่า และเสี่ยงที่จะเสียชีวิตมากขึ้น 2 เท่า
“การใส่หน้ากากเสมอ” ระหว่างที่ออกมาตะลอนนอกบ้าน ใช้ให้คุ้นชิน เป็นอวัยวะที่ 33 ของร่างกาย จะช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อแพร่เชื้อไปได้มาก ขอย้ำว่าสถานการณ์ในปัจจุบัน การใส่หน้ากาก เป็นเรื่องจำเป็นครับ”
อ่านข่าวที่น่าสนใจ
- หมอยง ชี้ โควิดBA.5 หลบภูมิต้านทานวัคซีนได้สูงขึ้น ฉีดแล้วก็มีโอกาสติด
- เริ่มเลย! อย. อนุมัติใช้ยาฉีด Evusheld ป้องกันโควิด-19 สำหรับผู้ไม่สามารถรับวัคซีนได้
- “หวยรัฐบาล” งวดนี้มีลุ้น เลขเด็ดคิววัคซีน ผู้ว่าฯชัชชาติ สามตัวตรงๆรีบซื้อก่อนอั้น
- แกร่งจริง! เปิดคลิป ชัชชาติ ฉีดวัคซีนเข็ม5 ก่อนโชว์ฟิตตื่นวิ่งตั้งแต่ตี 4
- CAAT ประกาศมาตรการเข้าประเทศ ยกเลิกthailand pass ฉีดวัคซีนครบไม่ต้องตรวจโควิด