เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 6 มิ.ย.2567 ศาลอาญากรุงเทพใต้ อ่านคำพิพากษาคดีหมายเลขดำ อ.95/2566 ที่ นายอนุรักษ์ ตั้งปณิธานนท์ เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง น.ส.อุบลรัตน์ เถาว์น้อย และ นายสถาพร เกื้อสกุล ผู้ประกาศข่าวรายการ TOP บ่ายสาม ช่องท็อปนิวส์ เป็นจำเลยที่ 1-2
ในความผิดฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 328 กรณีนำเสนอข่าว นายอนุรักษ์ ตั้งปณิธานนท์ อดีต สส.มุกดาหาร พรรคเพื่อไทย ตบทรัพย์ 5 ล้านบาทคลาดเคลื่อน ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นเกลียดชัง โดยวันนี้ จำเลยทั้งสองเดินทางมาฟังคำพิพากษา
ศาลพิเคราะห์แล้ว เห็นว่าจำเลยทั้งสองร่วมกันยืนยันข้อเท็จจริงในทางให้ร้ายโจทก์ ทำให้บุคคลทั่วไปเข้าใจว่าโจทก์ถูกอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำแอบบันทึกเสียงไว้เกี่ยวกับการเรียกรับเงิน เพื่อให้ผ่านงบประมาณ ทำให้เชื่อว่าโจทก์เป็นคนเรียกรับเงินจาก นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล และทำให้เข้าใจว่าโจทก์โทรศัพท์ไปหาอธิบดีเพื่อเรียกรับเงินหรือเรียกรับผลประโยชน์ในการจัดการงบประมาณและมีการพูดจาข่มขู่เพื่อเรียกเงินในอัตราร้อยละ 5 จากงบประมาณ 1,200 ล้านบาท
และมีการนัดหมายกับอธิบดีเพื่อต่อรองเรื่องผลประโยชน์ในการผ่านงบประมาณ โดยมีการบันทึกเสียงของโจทก์ขณะเรียกรับผลประโยชน์ไว้จากคำพิพากษา คดีหมายเลขดำ คมจ.1/2566 ที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติหรือ ป.ป.ช.ร้องต่อศาลฎีกา
การนำเสนอข่าวของจำเลยได้ย้อนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับเรื่องที่ศาลฎีกามีคำพิพากษานั้นแม้มีการรายงานข่าวปรากฏหลายข้อความที่เป็นการหมิ่นประมาทโจทก์ตามฟ้องก็ตาม แต่เนื้อหาที่จำเลยทั้งสองนำเสนอข่าวเป็นเรื่องเดียวกัน ดังนั้นการกระทำของจำเลยทั้งสองจึงเป็นความผิดกรรมเดียว
พิพากษาว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 328 ประกอบมาตรา 83 ฐานร่วมกันหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา จำคุกคนละ 2 ปี และปรับคนละ 100,000 บาท แต่ไม่ปรากฏว่าจำเลยทั้งสองเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 2 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 หากจำเลยทั้งสองไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 29,30