จาย อังค์สุธาสาวิทย์ นักปั่นน่องเหล็กทีมชาติไทย สร้างประวัติศาสตร์คว้าอันดับ 2 ในการแข่งขันจักรยานประเภทลู่ รายการ “ทิสซอต ยูซีไอ แทร็ก เนชั่นส์คัพ 2022” สนามที่ 3 ที่ประเทศโคลอมเบีย นับเป็นคนไทยคนแรกที่ขึ้นโพเดียมในรายการระดับโลก ได้คะแนนสะสม 720 คะแนน
“ทีเจ” จาย อังค์สุธาสาวิทย์ นักปั่นทีมชาติไทย ซึ่งเก็บตัวฝึกซ้อมมาอย่างต่อเนื่องอยู่ที่ศูนย์ฝึกจักรยานโลก ลงแข่งขันจักรยานประเภทลู่รายการ “ทิสซอต ยูซีไอ แทร็ก เนชั่นส์คัพ 2022” สนามที่ 3 ที่เมืองคาลี ประเทศโคลอมเบีย เมื่อ 10 กรกฎาคม และ สามารถสร้างประวัติศาสตร์เป็นนักปั่นสายเลือดไทยรายแรกที่ขึ้นโพเดียมในรายการระดับโลก
โดย จาย ซึ่งต้องลุ้นหนักในรอบแก้ตัว และ ฝ่าด่านเข้าเส้นผ่านเข้าชิงฯได้สำเร็จ ไม่ปล่อยโอกาสให้หลุดมือเมื่อ พอล นิโคลัส นักปั่นจากตรินิแดดและโตเบโก เพื่อนร่วมซ้อมของ จาย ในศูนย์ฝึกจักรยานโลก เร่งความเร็วทำเกมทันทีหลังจากที่รถนำออกจากลู่ จาย เกาะล้อติดไปตลอดจนกระทั่งเข้าเส้นชัยเป็นอันดับที่ 2 หลังจากครบ 6 รอบด้วยความเร็วสูงกว่า 75 กม. ต่อชั่วโมง ส่วนแชมป์ตกเป็นของ พอล นิโคลัส และอันดับ 3 แซม ดากิน จากนิวซีแลนด์ สร้างประวัติศาสตร์อีกหน้าของจักรยานลู่ไทย ด้วยการเป็นนักกีฬาไทยรายแรกที่ขึ้นสู่โพเดียมในรายการระดับโลก “ยูซีไอ แทร็ก เนชั่นส์คัพ” เก็บคะแนนสะสม 720 คะแนน เพิ่มโอกาสลุ้นโควต้าไปโอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส อีกหนึ่งก้าว
จาย กล่าวว่าเกมในแต่ละรอบกว่าจะผ่านได้ยากมาก เนื่องจากนักปั่นแต่ละคนมีพัฒนาการด้านความเร็วและความแข็งแกร่งขึ้นมาก ในแต่ละฮีตไม่สามารถผ่อนแรงลดความเร็ว และในบางฮีตความเร็วเข้าเส้นชัยสูง 80 กม. ต่อชั่วโมง และในรอบปี 2022 ที่เหลืออยู่ จะต้องเร่งเก็บคะแนนในรายการแข่งขันนานาชาติ ซึ่งคาดว่าน่าจะเดินทางไปแข่งขันที่ประเทศญี่ปุ่น และรายการ แทร็ก เอเชีย คัพ 2022 ที่ประเทศไทย รวมถึงบางรายการในยุโรปเพื่อรักษาโอกาสเข้าร่วมการแข่งขันรายการจักรยานประเภทลู่ ชิงแชมป์โลก 2022 ที่ประเทศฝรั่งเศส ในเดือนตุลาคม อีกทั้งยังจะต้องรักษาความฟิตสำหรับฤดูกาล 2023 ที่เป็นช่วงสำคัญสำหรับการลุ้นโควตา “ปารีสเกมส์” ไปจนถึงเดือนเมษายน 2024
ทางด้าน “เสธ.หมึก” พลเอกเดชา เหมกระศรี นายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวว่า ผลงานของ จาย ซึ่งได้รองแชมป์เนชั่นส์ คัพสนามที่ 3 ที่คาลี ประเทศโคลอมเบีย เป็นอีกหนึ่งเป้าหมายสำคัญของวงการจักรยานไทยในระดับโลก ซึ่งต้องยกย่อง จาย ที่ไม่ย่อท้อในการฝึกซ้อมและมุ่งมั่นกับแข่งขันอย่างเต็มที่ แม้ว่าจะต้องเผชิญหน้ากับคู่แข่งขันฝีเท้าระดับโลกตลอดเวลา จากความสำเร็จในครั้งนี้เชื่อมั่นว่า จายมีโอกาสจะเป็นนักปั่นเลือดไทยที่สร้างประวัติศาสตร์ควอลิฟายโอลิมปิกเกมส์ประเภทลู่เป็นคนแรกในโอลิมปิกเกมส์ 2024
“อย่างไรก็ตาม การควอลิฟายโอลิมปิกเกมส์ของกีฬาจักรยานนั้นต้องอาศัยคะแนนสะสมโลก ซึ่งนอกเหนือจากการลงทุนส่งนักปั่นทีมชาติไทยออกไปตระเวนแข่งขันในรายการนานาชาติประเภทต่าง ๆ ที่ใช้งบประมาณเป็นจำนวนมากในแต่ละปีแล้ว สมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทย ฯ ก็ยังจะจัดการแข่งขันระดับนานาชาติไม่ว่าจะเป็นประเภทถนน ประเภทลู่ ประเภทเสือภูเขา และประเภทบีเอ็มเอ็กซ์ เพื่อเพิ่มโอกาสของนักกีฬาทีมชาติไทยที่จะเก็บคะแนนสะสมในประเภทต่าง ๆ ลุ้นไปเป็นหนึ่งในนักกีฬาจักรยานโอลิมปิกเกมส์ 2024 ต่อไป” พลเอกเดชา กล่าว