จากอ้วน 170 โล หนุ่มลดน้ำหนัก 75 กก. ใน 1 ปี ไมใช่แค่ออกกำลังกาย แต่กิน 6 มื้อ

Home » จากอ้วน 170 โล หนุ่มลดน้ำหนัก 75 กก. ใน 1 ปี ไมใช่แค่ออกกำลังกาย แต่กิน 6 มื้อ
จากอ้วน 170 โล หนุ่มลดน้ำหนัก 75 กก. ใน 1 ปี ไมใช่แค่ออกกำลังกาย แต่กิน 6 มื้อ

จะหลับก็กลัวหยุดหายใจ! หนุ่มน้ำหนักพุ่งถึง 170 กก. เผชิญปัญหาสุขภาพรุมเร้า ตัดสินใจลดน้ำหนัก 75 กก. ใน 1 ปี

เว็บไซต์ SOHA รายงานว่า ในปี 2020 เหงียน เซิน ตุง หนุ่มวัย 37 ปี กลับเวียดนามหลังจากเรียนแพทย์แผนจีนที่จีนมาหลายปี แต่เมื่อโควิด-19 ระบาดหนัก แผนการทุกอย่างของเขาต้องหยุดชะงัก ช่วงล็อกดาวน์ที่ยาวนานทำให้เขาติดนิสัยกินของหวานมากขึ้น ประกอบกับการนอนดึกตื่นสาย ส่งผลให้สุขภาพทรุดหนักและน้ำหนักเพิ่มขึ้นจนควบคุมไม่ได้

แม้จะสูงถึง 1.83 เมตร แต่น้ำหนักตัวพุ่งไปถึง 170 กก. ทำให้เขาอ่อนเพลียง่าย เวียนศีรษะบ่อย เมื่อตรวจสุขภาพ แพทย์วินิจฉัยว่าเขาเป็นเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันพอกตับ ข้อเสื่อม และภาวะเมตาบอลิกซินโดรม

ด้วยโรคประจำตัวหลายอย่าง ภูมิคุ้มกันของเขายิ่งแย่ลง เจ็บป่วยบ่อย บางครั้งอาการหนักจนพ่อแม่ต้องคอยเฝ้าทั้งคืนเพราะกลัวเขาจะหยุดหายใจ น้ำหนักที่มากเกินไปทำให้สมองล้า ความจำแย่ลง ร่างกายแทบขยับไม่ไหว เพราะกระดูกสันหลังเสื่อม หน้าท้องขยาย และไขมันในช่องท้องสูงจนทำให้หลังแอ่น การเดินเหินก็ลำบากขึ้นทุกวัน “แค่หายใจก็ยังรู้สึกหนักอึ้ง” ตุงกล่าว

หลังจากเทศกาลตรุษจีนปี 2023 ชายหนุ่มเริ่มรู้สึกถึงสุขภาพที่ทรุดโทรมลงอย่างรุนแรง เมื่อเห็นพ่อแม่เริ่มแก่ชรา แต่ตัวเองไม่สามารถช่วยเหลือได้ เขาจึงตัดสินใจจริงจังในการลดน้ำหนักและดูแลสุขภาพ เขาตัดสินใจหยุดงานทั้งหมด แล้วเดินทางมาเข้าคอร์สลดน้ำหนัก ตลอด 24 ชั่วโมง 7 วันกับผู้เชี่ยวชาญ

ในช่วงเริ่มต้น ร่างกายเขาหนักอึ้ง ไม่สามารถว่ายน้ำได้ ต้องเริ่มจากการเดินในน้ำ หรือยึดขอบสระ ขี่จักรยานในน้ำ และทำท่าเบ่งท้องเพื่อให้ร่างกายได้เคลื่อนไหว ต่อมาเขาจึงเริ่มฝึกว่ายน้ำท่ากบและท่าผีเสื้อเพื่อเผาผลาญไขมันให้เร็วขึ้น

การออกกำลังกายในน้ำ เช่น การว่ายน้ำช่วยให้เขารู้สึกผ่อนคลายและสบายตัว นอกจากนี้ เขายังฝึกคาร์ดิโอ ฝึกแรงต้าน และยกน้ำหนักเพื่อเร่งการเผาผลาญไขมัน ทุกวันเขาฝึก 4-5 ชั่วโมง แบ่งเป็น 2 ช่วง เช้าและเย็น โดยมีเป้าหมายในการเผาผลาญ 1,400 กิโลแคลอรีต่อการฝึก 1 ครั้ง

เขามักจะรู้สึกอ่อนแรงจากน้ำหนักตัวที่มากเกินไป เหงื่อไหลออกมาจนเกิดการระคายเคืองที่เท้าและเกิดฝีใต้ผิวหนัง นอกจากนี้ เนื่องจากเขามีปัญหาเกี่ยวกับโรคหัวใจ ผู้เชี่ยวชาญจึงต้องคอยตรวจสอบการเต้นของหัวใจและการหายใจอย่างใกล้ชิด

เขากำหนดการทานอาหาร 6 มื้อต่อวัน และหลีกเลี่ยงน้ำตาลที่ผ่านการกลั่น โดยเลือกอาหารที่มีดัชนีน้ำตาล (GI) จากปานกลางถึงต่ำ เช่น สตรอว์เบอร์รี, มันเทศ, แครอท, ถั่วลิสง และโยเกิร์ต ซึ่งไม่ส่งผลกระทบต่อระดับน้ำตาลในเลือด

อาหารของเขาถูกแบ่งเป็น 6 มื้อเล็กๆ ตลอดวัน ซึ่งประกอบด้วยคาร์โบไฮเดรตที่ย่อยช้า ผัก และไม่ปรุงรสมากเกินไป การทำอาหารจะเน้นการนึ่ง, ต้ม, หรือซอสที่ไม่ใส่น้ำมัน เขาปฏิบัติตามกฎการทานอาหารช้าและเคี้ยวให้ละเอียดเสมอ

นอกจากนี้ เขายังดื่มกาแฟดำไม่ใส่น้ำตาลเพื่อกระตุ้นการเผาผลาญและช่วยในการใช้พลังงาน ในระหว่างการลดน้ำหนัก เขาหยุดสูบบุหรี่และศึกษาความรู้ทางการแพทย์, เศรษฐศาสตร์, การเงิน, การตลาด และการสร้างแบรนด์ส่วนตัว พร้อมกับแชร์ประสบการณ์การลดน้ำหนักนี้ผ่านโซเชียลมีเดีย

เมื่อเริ่มมีความแข็งแรง เขาจึงเริ่มเล่นกีฬาประเภทต่างๆ และค่อยๆ เพิ่มความยากขึ้นเพื่อลองท้าทายตัวเอง เมื่อเขาลดน้ำหนักลงเหลือ 105 กก. เขาได้สมัครเข้าร่วมการแข่งขันมาราธอนระยะ 21 กม. และวิ่งเส้นทางที่ท้าทายระยะทาง 35 กม. 

หลังจากที่ตั้งใจและพยายามอย่างต่อเนื่องมากกว่า 12 เดือน เหงียน เซิน ตุง สามารถลดน้ำหนักได้ 75 กก. จากน้ำหนัก 170 กก. ปัจจุบันเขายังคงรักษาน้ำหนักที่ 95 กก. สำหรับเขา การลดน้ำหนักคือการเดินทางของการรักตัวเองด้วยการฝึกฝนเพื่อสุขภาพที่ดี

หลังจากจบคอร์สลดน้ำหนัก เขาตัดสินใจที่จะเป็นแพทย์ที่ศูนย์ที่เคยช่วยเหลือเขาในเส้นทางนี้ โดยหวังที่จะช่วยเหลือผู้ที่ตกอยู่ในสถานการณ์คล้ายๆ กับเขาก่อนหน้านี้

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ