"จั๊กจั่น" พูดครั้งแรกหลังฟ้องอดีตผู้จัดการ ตอบคำถาม "นก อุษณีย์" ยังสนิทเหมือนเดิมไหม?

Home » "จั๊กจั่น" พูดครั้งแรกหลังฟ้องอดีตผู้จัดการ ตอบคำถาม "นก อุษณีย์" ยังสนิทเหมือนเดิมไหม?



"จั๊กจั่น" พูดครั้งแรกหลังฟ้องอดีตผู้จัดการ ตอบคำถาม "นก อุษณีย์" ยังสนิทเหมือนเดิมไหม?

จั๊กจั่น-อคัมย์สิริ สุวรรณศุข ว่าที่เจ้าสาวสุดสตรองเปิดใจครั้งแรก หลังยื่นฟ้องอดีตผู้จัดการส่วนตัว กุข่าวคดีโลกสองใบ แนวโน้มตอนนี้คดีเป็นอย่างไรบ้าง พร้อมอัปเดตใกล้งานวิวาห์แต่ยังเตรียมงานไม่ถึง 50 เปอร์เซ็นต์ แล้วอาการผ่าตัดหัวเข่า จะหายทันก่อนแต่งไหม ในรายการคุยแซ่บ SHOW ที่มี หนิง-ปณิตา ธรรมวัฒนะ, ธัญญ่า-ธัญญาเรศ เองตระกูล และ พีเค ปิยะวัฒน์ เข็มเพ็ชร์ เป็นพิธีกรดำเนินรายการ

เห็นว่าไปฟ้องร้องอดีตผู้จัดการเรียกเท่าไหร่

“ก็เรียกว่าต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย เริ่มที่เหมือนเราไปแจ้งความหมิ่นประมาทเอาไว้ก่อน ก็ตามข่าวเลยก็ประมาณ 10 ล้าน อันนี้เป็นขั้นต่ำ เพราะว่ามันมีผู้เสียหาย ก็มี เค จั่น แล้วมีพี่จ๋า ผู้จัดการ และก็มีน้องพี ที่โดนหมิ่นประมาท คือทั้ง 4 คน ฟ้องคนละคดี ถามว่าจะยอมความไหม อันนี้ก็ต้องดูก่อน เพราะว่าการที่เราจะยอมความเราต้องรู้ว่าเขารู้สึกผิดจริงหรือเปล่า หรือเสียใจในการกระทำหรือเปล่า”

กับ นก อุษณีย์ ตอนนี้ความเป็นเพื่อนยังเหมือนเดิมไหม

“ก็ยังเป็นเพื่อนกันอยู่ ล่าสุดก็คือได้คุยที่เขาขอโทษจั่น แต่ถามว่าเจอกันไหม ไม่ได้เจอกันเลย และจั่นก็ไม่ได้ฟ้องนกเพราะนกไม่ได้หมิ่นประมาทจั่น แฟนจั่นฟ้อง มันเหมือนเป็นการหมิ่นประมาททางการโฆษณา การที่เขาลงมันสื่อไปถึงธุรกิจอะไรด้วย ตอนที่นกมาจั่นก็ได้ดู ตอนจั่นดูจั่นก็รีบส่งหาพี่หนิงเลยว่าโอเคหรือเปล่า เพราะเราดูเราก็เข้าใจได้ว่าเขาขอโทษเรา แต่เราอยากให้เขาขอโทษแฟนเรา ครอบครัวเรา ครอบครัวแฟนเรา ถามว่าจั่นโกรธเขาไหม จั่นไม่ได้โกรธนะ แต่จั่นงง  ในเมื่อทุกอย่างคลี่คลายทำไมเพื่อนเรายังเชื่อว่าตาลยังมีตัวตนอยู่ ทั้งๆ ที่ทั่วประเทศรู้ว่ามันไม่ใช่เรื่องจริง ตาลไม่มีตัวตน แต่เหมือนเขายังเชื่ออยู่ วันนั้นที่เขาโทรมาเคลียรกับจั่น จั่นก็บอกว่าอะไรที่ทำให้เขาเชื่ออยู่  คนทั้งประเทศเขาเคลียร์หมดแล้ว เขาก็บอกว่าเขาขอโทษที่คิดไม่ตรงกันกับมึง จั่นก็ว่าไม่ได้ดูข่าวเหรอ เขาก็ยังบอกว่าขอโทษที่คิดไม่เหมือนมึง” 

“คือจั่นก็ไม่รู้จะพูดอะไรในเมื่อเขายังเชื่ออยู่อย่างนั้น เราก็ห้ามเขาไม่ได้ แต่พื้นฐานเขาจั่นเชื่อว่า มันมาจากการที่เขาเป็นห่วงเรา กลัวว่าเราจะเป็นโลกใบที่สอง คือจั่นไม่ค่อยอยากจะพูดเรื่องนี้ เพราะว่าโลกใบที่สองคือจั่นไปเป็นเมียน้อยเขาเหรอ แล้วทำไมอยู่ดีๆ จั่นถึงต้องโดนใส่ร้ายไปเป็นเมียน้อย  ทั้งที่เราไม่ได้ทำอะไรผิด ถามว่าจั่นต้องยอมความอะไรหรือเปล่า คือจั่นต้องยอมความกับคนที่ใสร้ายเราทั้งๆ ที่มันไม่ใช่เรื่องจริงเหรอแล้วคนทำไปไหน ขอโทษเราจากใจจริงหรือเปล่าเราก็ยังไม่รู้ 15 ปีที่ผ่านมาใครๆ ก็เห็นว่าเราทำงานแล้วก็ให้เกียรติเขาตลอด จั่นไม่เคยให้เบอร์ใครเลยนะมีอะไรก็บอกให้ติดต่อผุ้จัดการเราไม่เคยข้ามหน้าเลยนะ เพราะฉะนั้นถ้าจะถามเรื่องยอมความเราไม่ยอม”

จั่นไม่ได้โกรธนก แต่จั่นโกรธอาบี

“จั่นไม่รู้ว่าเขาไปพูดอะไรกับนกทำให้นกเชื่อเขาขนาดนี้ เวลาพูดแล้วเราปวดใจว่านี่คือสิ่งที่เราได้รับเหรอ และตั้งแต่เกิดเรื่องเราก็ไม่ได้คุยกันเลย พอข่าวออกมาจั่นดูก็รู้แล้วว่าข่าวออกมาจากใคร คนที่รักเราเหมือนแม่ ทำกับเราแบบนี้เหรอ”

ในฐานะเป็นผู้หญิง ตอนแรกที่ได้ยินข่าว สงสัยผู้ชายก่อนไหม

“ไม่สงสัยผู้ชาย คือจั่นพูดกับเพื่อนที่มาเตือนเลยนะว่า เราโตแล้ว อายุไม่น้อยแล้ว การที่เราจะคบกับใคร เราต้องเชื่อมั่นในตัวเขา ไม่งั้นเวลามีเรื่องอะไรมาเราต้องหูเบาเชื่อคนอื่นเหรอ เราก็ต้องเชื่อใจกันว่าแฟนเราเป็นอย่างไร ไม่ใช่แต่งงานแล้วมีคนบอกว่าเขามีคนอื่นแล้วเราต้องทะเลาะกัน เลิกกันเลยเหรอ คู่สามีภรรยาที่อยุ่ด้วยกัน เขาอาจจะมีกิ๊กมีอะไรก็ได้ แต่อยู่ที่เขาเคลียร์กันแล้วให้อภัยไหม จั่นบอกเลยว่ามันไม่ใช่เกิดเรือ่งแล้วเราต้องเลิก ต่อให้เป็นเรื่องจริง คุยแล้วเดินหน้าได้ไหม แต่กับเค เรามั่นใจว่าไม่ใช่อยู่แล้ว จั่นก็เลยงงว่า มันไม่น่าจะมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น ตอนแรกที่มีข่าวออกมาคือเรารู้แต่เราไม่กล้ายกเลิกเพราะกลัวเสียหน้า มันเป็นการดูถูกเรามากเลยนะ”

อยากให้จบแบบไหน

“ก็อยากให้จบที่คนผิดได้รับผลกับการกระทำ เขาไม่มีสิทธิ์ที่จะทำแบบนี้กับคนที่ไม่รู้เรื่อง ถามว่าจั่นอยากโทรเคลียร์ไหม จั่นไม่อยากเคลียร์เพราะมันมาถึงขนาดนี้แล้ว คนที่ไม่ดีก็ออกไปจากชีวิตจั่นซะ ไม่ต้องมา เพราะศีลเราไม่เสมอกันแล้ว เพราะเขาอาจจะคิดว่าศีลเขาสูงกว่าจั่นอย่างที่เขาชอบพูดบ่อยๆ ถ้ามาขนาดนี้ คุณไม่ใช่ก็คือไป”

พอเป็นข่าวขึ้นมา ก็มีหลายคนมาให้ข่าวว่าเกิดเรื่องราวมากมาย อะไรที่ทำให้ตอนนั้นทำให้จั่นไม่ได้รับรู้

“พูดตรงๆ ว่าหนูไม่รู้ เราก็คิดว่าเพราะเขางานยุ่ง เรางานยุ่งก็เลยห่างกันไป พี่เติ้ลไปเป็นผู้จัดแล้ว และทุกคนก็มีหน้าที่รับผิดชอบมากขึ้น ส่วนพี่แตก็มีน้อง โมก็เป็นข่าวผิดใจกัน เหมือนเขาจะบอกเราว่ามันไม่ปกติ มันชอบทะเลาะกับคนอื่น คือมันมีเรื่องที่ทำให้เราเชื่อไง เราก็เลยรู้สึกว่า เราก็ทำหน้าทำงานไป คนที่เข้าใจเรา เป็นเพื่อนเราเขาก็จะอยู่กับเราเอง”

รู้สึกเหมือนปล่อยว่างและพร้อมสำหรับงานแต่ง

“คือจั่นไม่สามารถย้อนกลับไปได้แล้ว เราก็ต้องเดินหน้าอย่างเดียว ก็ดูว่าตอนที่เราแย่ที่สุดใครพร้อมที่จะอยู่ข้างเรา สถานการณ์นี้ทำให้เรารู้ว่าคนที่ไม่ดีก็แยกไป ใครที่โอเคกับเรา ก็ไปด้วยกันต่อ คนรับผิดก็ต้องรับผิดชอบในสิ่งที่ทำ เพราะคำขอโทษมันไม่พอแล้ว เพราะคุณได้ทำลายความรู้สึกจั่นไปแล้ว และมันก็อยู่ในหน้าประวัติศาสตร์ชีวิตจั่นซึ่งอีก 10 ปี คีย์อินเตอร์เนตมาก็ยังมีเรื่องนี้อยู่”

แล้วถ้าเขามาขอโทษจั่นจริงๆ จั่นอยากบอกอะไรกับเขา

“ตอนนี้ยังตอบไม่ได้ เพราะจั่นคิดว่าไม่น่าจะมีวันนั้น หมายถึงวันที่เขารู้สึกผิดจริงๆ แต่ก็โอเค ขอโทษก็คือขอโทษ แต่เรื่องคดีความ คุณทำผิด ก็ต้องรับสิ่งที่ทำ คุณจะได้ไม่ทำแบบนี้อีก คือจั่นให้อภัย ให้อโหสิได้ แต่ว่าคุณก็ต้องรับผิดชอบสิ่งที่คุณทำ ถามว่าเครียดไหม จั่นไม่เครียด จั่นอยากให้ทุกคน เคลียร์ เพราะบางคนยังเข้าใจว่าจั่นฟ้องนกอยู่เลย แต่จั่นไม่ได้ฟ้องนก เพราะว่านกเขาไม่ได้หมิ่นประมาทอะไรจั่น”

เจอกันได้อย่างไร

“เจอกันได้เพราะเพื่อนเคกับเพื่อนจั่น เป็นเพื่อนกัน คือจั่นมีเพื่อนชื่อกุ้ง แล้วกุ้งก็เป็นเพื่อนเคด้วยตั้งแต่เรียนเซนต์คาเบรียล แล้วกุ้งเป็นเพื่อนมหาวิทยาลัยจั่น  พี่ชายน้องก้อย รัชวิน เขาเคยเจอเราแต่เราไม่รู้เจอที่งานรับปริญญา 10 กว่าปีได้แล้ว เหมือนเขาดูละครที่เราเล่น เรื่องฝันเฟื่อง เรื่องที่เขาแอบชอบเรา เราเพิ่งมารู้ช่วงหลัง ตอนเป็นแฟนแล้ว”

เขาจีบเรายังไง

“ก็พ่อสื่อนี่แหละมาถามว่าจั่นมีใครคุยอยู่หรือเปล่า ลองคุยๆ ดูไหม คนนี้น่าจะสเปกแก เป็นคนรัก ครอบครัว สิ่งที่ทำให้เราใจอ่อนเพราะเขาเป็นคนรักครอบครัว เข้ากับครอบครัวเราได้ เข้าใจงานเรา ที่สำคัญ ตอนแรกจะผ่านหรือเปล่าเพราะเขาไม่เลี้ยงหมาแมว แต่เขาก็พยายามปรับตัวไม่กลัวหมา กลัวแมว จั่นถามเลยว่าถ้ามีลูกต้องเลิกเลี้ยงสัตว์หรือเปล่า จั่นบอกว่าเลิกเลี้ยงสัตว์ไม่ได้นะ ให้ยกให้คนอื่นไม่เอา เขาก็โอเค ก็ไม่ต้องเลิกเลี้ยงก็ยังเลี้ยงได้ คือถ้าน้องออกมาก็แยกหน่อยเพราะเด็กยังไม่มีภูมิต้านทาน”

ตอนนี้ที่บ้านเลี้ยงกี่ตัว

“แมว 4 หมา 2 พอเดินเข้าไปเขาต้องทักแมวก่อน เพราะพี่เจ๋งคือเจ้าบ้าน แล้วก็ต้องทักหมาเพราะหมาเห่า ถ้าเรียกชื่อหมา หมาถึงจะหยุด ไม่อย่างนั้นไม่หยุด เขาต้องฝ่าด่านหมาแมว”

ตอนแรกคุยกันอย่างไร

“ทั้งไลน์ทั้งโทรเลย ก็ค่อยๆ เรียนรู้กันไป เขาเป็นผู้ชายตรงๆ ธรรมดา  อารมณ์มุ้งมิ้งก็มี ชื่อเรียกแทนกัน จั่นเรียกเบบี๋  เขาเรียกเราเป็นที่รัก เวลาเรียกเขาเราก็จะเสียงสองนิดหนึ่ง เขาเป็นคนไม่ค่อยพูด เป็นคนไม่หวาน แต่เขาเป็นคนรักครอบครัว และดูแลคนรอบข้าง วันนี้เขาไม่มาเพราะเขาทำงาน เขาขี้อายด้วย ถามว่าจั่นชอบเซอร์ไพรส์ไหม คือจั่นก็ไม่ได้มีแฟนมาหลายคนไงก็เลยไม่รู้ว่าชอบเซอร์ไพรส์ไหม แต่เวลาเพื่อนเซอร์ไพรส์เพื่อนก็ขอบให้เราโมโหก่อน ร้องไห้ก่อนมีความสุข จั่นก็เลยบอกกับเขาไปว่าเธอไม่ต้องมาเซอร์ไพรส์ฉันนะ”

ย้อนถามวันขอแต่งงาน

“คิดแล้วโมโหมาก เพราะเราคิดว่าเราควรจะต้องแต่งหน้าทำผมแน่น คือเขาบอกกับเราว่าไปกินข้าววันเกิดเขาแล้วก็ชวนเพื่อนๆ มาเหมือนทุกปี เราก็เลยไม่ได้แต่หน้าทำผม ก็แต่งปกติ เขาก็บอกว่าของขวัญได้ไหม เราก็บอกว่าได้ เพราะเราเตรียมเค้กมาให้แอบเซอร์ไพร์สไปจัดที่ร้านเพื่อนเขา แต่เขาบอกว่าไม่ ขอแต่งงานได้ไหม มันไม่เหมือนในละครนะ เราก็คิดว่าโมเม้นต์นี้มีด้วย แล้วเราก็ร้องไห้เลย ขายออกแล้ว ที่ผ่านมาก็เคยคุยว่าจะแต่งงาน เดี๋ยวจะสร้างบ้าน คือจั่นไม่คิดว่าเขาจะขอปีที่แล้ว คิดว่าเขาจะขอปีนี้  วันนั้นเราก็เซย์เยสเลยเพราะเหมือนเคยคุยกันแล้ว ที่เราร้องไห้เพราะเขาทำเซอร์ไพร์สคือเอาเพื่อนสนิท เพื่อนตั้งแต่สมัยเรียนและครอบครัวเรามาอยู่ด้วย ซึ่งเกินความคาดหมายมากเพราะเขาไม่เคยเซอร์ไพร์ส จั่นรู้ว่าเขาเตรียมเป็นเดือน ทำแหวนพร้อม”

อยากจะบอกอะไรเขา

“ก็ขอบคุณมากๆ ที่เข้าใจในความเป็นเรา เพราะเราก็ค่อนข้างเรื่องเยอะ เขาเข้าใจเรารับเราได้ เพราะเราจะค่อนข้างเป๊ะนิดหนึ่ง”

กับครอบครัวคุณเคก็เอ็นดูเมตตาเรา

“ต้องขอบคุณมากๆ พอมีเรื่องนี้เกรงใจมาก คือปะป๊าไม่ว่าอะไรสักคำ พอเราไปไหว้ขอโทษปะป๊าก็เข้าใจ บอกว่าไม่เป็นไร ทั้งๆ ที่ข่าวค่อนข้างใหญ่ เพราะคนทำธุรกิจถูกกฏหมาย โดนบอกว่าเกี่ยวกับการพนัน เกี่ยวกับอะไรแบบนี้ จั่นก็ค่อนข้างเกรงใจ จั่นต้องโกรธเพราะจั่นต้องแต่งงานไปอยู่กับเขา แล้วมีข่าวแบบนี้มันไม่ใช่เรื่อง ปะป๊าเขาก็ยิ้มๆ บอกว่าไม่เป็นไร”

จะแต่ง พ.ค. แต่ยังเตรียมงานแต่งไม่ถึงไหน

“เพิ่งไปลองชุด ตอนแรกเราไม่ได้ลองเพราะเราไม่รู้ว่าจะอ้วนขึ้นหรือเปล่าก็รอเข้าที่พอเข้าที่กลายเป็นว่ากลายมามีข่าวอีก ตอนนี้ชุดแต่งงานจะใส่กี่ชุดยังเพิ่งสรุปออกมาเองว่าจะใช้ 4ชุด ลิสต์รายชื่อแขกแล้ว เพราะติดโควิดเลยเชิญคนได้ไม่เยอะ ส่วนชุดคุณเคยังไม่ลงตัว ส่วนของจั่นชุดที่ 4 ก็ยังไม่ได้ออกแบบยังไม่ได้มีอะไรเลย และด้วยความที่เคทำงานจันทร์ถึงเสาร์การเตรียมงานแต่งก็เลยทำได้เฉพาะวันอาทิตย์ กับวันไหนที่ซีเรียสจริงๆ ก็จะขอว่าให้แวบมาหน่อย”

ที่เอ็กซ์คลูซีพคือผ้าไทยที่ทอมาใหม่ ชื่ออคัมย์สิริ

“ด้วยความที่อยากใด้ชุดตักบาตรที่เรียบร้อยหน่อย คือพอจั่นบอกว่าอยากได้อะไรที่พิเศษหน่อยกับงานแต่ง เขาก็บอกว่าจะทอผ้านี้ให้ใหม่   ผ้านี้ก็จะมีคิวอาร์โค้ดคือถ้าเราสแกนคิวอาร์โค้ตมันก็จะไปขึ้นกับกรมหม่อนไหม แล้วแสดงรายละเอียดว่าเป็นลายอคัมย์สิริ  ผืนนี้ราคาเท่าไหร่ไม่รู้เลย แต่คิดว่าราคาน่าจะเป็นแสนเพราะผืนนี้ทอเป็นเดือน จั่นชอบมากเพราะมันทำมาพิเศษเพื่อเรา”

ทุกอย่างดูตามฤกษ์ใช่ไหม

“ก็ไปดูมาแล้วเป็นวันที่ 28 พ.ค. สโคปงานก็จะเล็กลงเพราะแขกมาได้ไม่เกิน 300 คน ส่วนฤกษ์จั่นพระอาจารย์ ตุ๋ย ทิศอุดร เป็นคนดูฤกษ์ให้ กับเรื่องที่เกิดขึ้น ท่านบอกว่าเป็นวิบากกรรมที่ต้องเจอ แต่พอเจอปุ๊บก็จะรู้ว่าสิ่งที่ดีก็จะอยู่กับจั่น สิ่งที่ไม่ดีก็ให้ปล่อยไป เคก็เชื่อนะ เพราะอย่างป้ายทะเบียนรถ เบอร์โทรศัพท์ทุกคนก็ดู หรือวันที่ออกรถ จั่นก็ว่ามันก็สำคัญ”

แต่งแล้วจะมีลูกเลยไหม

“ยัง น่าจะสัก  1 ปีก่อน  คืออยากใช้โมเมนต์ 2 คนก่อน แต่พระอาจารย์ให้ฤกษ์มีลูกแล้วคือท่านบอกว่าอยากให้ท้องธันวาคม ปีหน้า ปี 2565 ถ้ามีน้องก็น่าจะเป็นปีเสือ เรือนหอก็ปลูกเรือนใหม่ที่เย็นอากาศ แต่ตอนนี้ก็อยู่ที่บ้านจั่นก่อน  คือปะป๊าเขาซื้อเป็นของขวัญให้เคอยู่แล้ว  จริงๆ ก็มีคอนโด แต่ถ้าเป็นคอนโดหมาแมวไปอยู่ด้วยไม่ได้”

ติดตามชมคำสัมภาษณ์แบบเต็มๆ ได้ในรายการคุยแซ่บ Show  ทุกวันจันทร์-วันศุกร์  เวลา 13.30-14.30 น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ