จับแล้ว 2 คนร้ายฆ่าโหด “ลุงประเสริฐ เมีย 9 ลูก 9” โยนศพทิ้งข้างถนนที่แท้ฝีมือเพื่อน ไม่เกี่ยวปัญหาครอบครัว
เมื่อเวลา 13.00 น. (2 มิ.ย.64 ) ที่ สภ.เสวียด อ.ท่าฉาง จ.สุราษฎร์ธานี เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ภ.จว.สุราษฎร์ธานี ร่วมกันนำตัว นายพรชัย หรือ ไข่ อายุ 60 ปี และนายจักรี อายุ 60 ปี สองผู้ต้องหาร่วมกันฆ่านายประเสริฐ อายุ 60 ปี ก่อนนำศพมาทิ้งบนถนนสายวิภาวดี-เสวียด หมู่ที่ 2 ต.ปากฉลุย อ.ท่าฉาง จ.สุราษฎร์ธานี โดยเหตุเกิดเมื่อช่วงดึกวันที่ 25 พ.ค.ที่ผ่านมาก่อนนำตัวมาทำแผนประกอบคำรับสารภาพจำนวนสองจุด
จุดแรกบริเวณห้องแถวไม่มีเลขที่ หมู่ที่ 5 ต.ท่าเคย อ.ท่าฉาง จ.สุราษฎร์ธานี ที่ทั้งสามคนนั่งดื่มเหล้าอยู่ด้วยกัน ซึ่งนายพรชัย อ้างว่า ขณะที่นั่งดื่มเหล้าอยู่ด้วยกันนายประเสริฐผู้ตายเกิดพูดจาไม่เข้าหูจนเกิดโต้เถียงกัน ก่อนที่นายประเสริฐจะลุกขึ้นไปหยิบขวานที่หน้าตระกร้ารถจักยานยนต์ของนายประเสริฐ และตรงเข้ามาทำร้ายตนเองจนได้รับบาดเจ็บที่บริเวณแขนซ้าย ก่อนที่จะเกิดการชุลมุน ตนจึงได้ล็อกคอผู้ตายไว้ได้ ก่อนที่จะแย่งขวานจากผู้ตายมาได้ จึงได้ใช้ขวานกระหน่ำสับไปที่ศีรษะฃองผู้ตายหลายครั้งจนผู้ตายล้มลง และด้วยความตกใจจึงได้ให้นายจักรีที่อยู่ในเหตุการณ์ช่วยกันนำขึ้นท้ายรถกระบะ ด้วยความสับสนว่าจะพาผู้ตายไปส่ง รพ. แต่เมื่อดูว่าพบว่านายประเสริฐได้เสียชีวิตแล้วจึงนำศพ จึงได้ตัดสินใจนำศพขับรถจากจุดแรกกว่า 20 กิโลเมตร มาที่บริเวณจุดที่สองบริเวณสายวิภาวดี-เสวียด หมู่ที่ 2 ต.ปากฉลุย อ.ท่าฉาง จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นจุดที่ทั้งคู่ได้ช่วยกันนำร่างของผู้ตายและหลบหนีจนถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตัวได้
ด้าน พล.ต.ต.สาธิต พลวินิจ ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี กล่าวว่า จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ ทราบว่าผู้ตายมีภรรยามากถึง 9 คน ลูกอีก 9 คน และมีที่อยู่ไม่เป็นหลักแหล่ง แต่ก็ไม่พบว่าจะนำไปสู่ชนวนการสังหาร แต่พบว่าผู้ตายเป็นคนชอบกินเหล้า ซึ่งแนวทางการสอบสวน ทราบว่าผู้ตายเป็นคนไม่ยอมใคร จึงได้แกะรอยจากกล้องวงจรปิดและลงพื้นที่หาข่าว จนสืบทราบว่า ผู้ต้องหาทั้งสองรายร่วมกันก่อเหตุจนสามารถจับกุมตัวได้ จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งคู่ให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุจริง จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เสวียด ดำเนินคดีในข้อหา ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ซ่อนเร้น ย้ายศพ เพื่อปิดบังการเกิด การตาย หรือเหตุแห่งการตาย
ด้านพ.ต.อ.ปิยวัฒน์ บัวขาว ผกก.สภ.เสวียด เปิดเผยว่าจากคำให้การของผู้ต้องหาและการสืบสวน ชนวนเหตุเกิดจากการทะเลาะในวงเหล้า ก่อนนำไปสู่ความขัดแย้งที่รุนแรง เบื้องต้นผู้ต้องหาสารภาพว่าไม่ได้ต้องการอำพรางศพแต่ด้วยความเมา ทำอะไรไม่ถูกจึงนำศพไปทิ้งให้ไกลบ้านมากที่สุด