จับแล้ว! โจรบุกเดี่ยวควงปืนจี้บูธแลกเงินต่างประเทศ กว่าไปกว่า 2 แสนบาท

Home » จับแล้ว! โจรบุกเดี่ยวควงปืนจี้บูธแลกเงินต่างประเทศ กว่าไปกว่า 2 แสนบาท


จับแล้ว! โจรบุกเดี่ยวควงปืนจี้บูธแลกเงินต่างประเทศ กว่าไปกว่า 2 แสนบาท

จับแล้ว! โจรบุกเดี่ยวควงปืนจี้บูธแลกเงินต่างประเทศ กว่าไปกว่า 2 แสนบาท

เมื่อเวลา 19.30 น. วันที่ 17 ก.พ.65 พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผช.ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผบช.ภ.8 แถลงจับกุม นายเสกสรรค์ วงษ์วิราช อายุ 20 ปี คนร้ายก่อเหตุใช้อาวุธปืนจี้ชิงทรัพย์ร้านรับแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ของบริษัท เยส เอ็กซ์เชนจ์ จำกัด ตั้งอยู่บริเวณตรงข้ามห้างบิ๊กซี ถนนผังเมืองสายกอ ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต เมื่อวันที่ 13 ก.พ. เวลาประมาณ 22.30 น. ได้เงินสกุลไทยและต่างประเทศไปกว่า 2 แสนบาท

หลังก่อเหตุตำรวจได้ลงพื้นที่หาข่าว กระทั่งทราบว่า นายเสกสรรค์ คือคนร้าย ก่อนจับกุมได้ที่ห้องเช่าเลขที่ 6 ซอยนาใน อยู่ห่างจากบริเวณที่เกิดเหตุประมาณ 300 เมตร พร้อมของกลาง เงินสด สกุลต่างชาติ คิดเป็นเงินไทยประมาณ 226,918 บาท เงินสด สกุลไทย ประมาณ 3,418 บาท รวมเงินสดที่คนร้ายชิงทรัพย์เอาไปและความเสียหายอื่นๆ ประมาณ 235,336 บาท

จากการสอบสวนผู้ต้องหาสารภาพว่า หลังจากก่อเหตุแล้วเมื่อวันที่ 14 ก.พ. เวลาประมาณ 06.00 น. ได้ว่าจ้างรถแท็กซี่จาก ต.ป่าตอง มุ่งหน้าไป จ.กระบี่ ในราคา 4,000 บาท โดยจ่ายเป็นเงินต่างประเทศ จำนวน 150 ยูโร เมื่อเดินทางถึงบริเวณ ต.อ่าวนาง จ.กระบี่ แล้ว นายเสกสรรค์ ได้แลกเงินสกุลยูโร จำนวน 500 ยูโร ที่ตู้รับแลกเปลี่ยนเงินในพื้นที่ ต.อ่าวนาง จ.กระบี่ และได้เหมาเรือหางยาว เดินทางลงไปที่เกาะพีพี

เมื่อ นายเสกสรรค์ เดินทางถึงเกาะพีพีได้แล้ว ได้เข้าพักโรงแรมภายในเกาะพีพี และแลกเงินอีก 500 ยูโร กระทั่งในวันที่ 15 ก.พ. เวลาประมาณ 11.00น. นายเสกสรรค์ จึงเดินทางกลับมายัง จ.ภูเก็ต โดยได้นั่งเรือโดยสารสปีดโบ๊ท และเมื่อเวลาประมาณ 12.00 น. นายเสกสรรค์ เดินทางมาถึงท่าเทียบเรือ ต.รัษฎา อ.เมืองภูเก็ต จ.ภูเก็ต ได้ว่าจ้างรถแท็กซี่มาส่งที่ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล สาขาภูเก็ต และนำเงินสดที่ได้จากการแลกเปลี่ยนมาซื้อทองที่ห้างทองหวังโต๊ะกัง และซื้อของอื่นๆ อีกหลายรายการ กระทั่งถูกจับกุมตัวได้

ด้าน พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ เปิดเผยว่า ในจังหวัดท่องเที่ยวทางเจ้าหน้าที่ให้ความสำคัญกับการก่อคดีของคนร้ายเนื่องด้วยนโยบายของ สตช.ต้องสร้างความปลอดภัยต่อประชาชนและนักท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ต้องเร่งรัดการจับกุมดำเนิคดีกับผู้ก่อเหตุ เพื่อเป็นการป้องปรามว่าการก่อเหตุในพื้นที่นั้นไม่สามารถหนีพ้นการกระทำผิดได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในจังหวัดท่องเที่ยวมีการติดตั้งกล้องวงจรปิดทุกสถานที่ที่เป็นจุดสำคัญ ฉะนั้นคนร้ายไม่สามารถหนีพ้นเจ้าหน้าที่ได้อย่างแน่นอน อย่างกรณีชาวแคนาดาที่ถูกฆาตกรรมใน จ.ภูเก็ต ทาง ผบ.ตร.ได้ประสานหมายจับกับตำรวจสากลและทางแคนาดาซึ่งได้รับความร่วมือเป็นอย่างดี

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ