ติดตามความคืบหน้า จากกรณี รถบรรทุก 2 คันที่มีการขับรถปาดหน้ากันไปมา ที่วังน้อย จนกลายเป็นเรื่องราวที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ในโซเชียล หลังจากที่ Drama-addict นำคลิปวีดีโอมาเผยแพร่ พร้อมกับระบุว่า “ลูกเพจฝากมาครับ อันนี้น่ากลัวจนขนหัวลุก อยากฝากให้รถบรรทุกรถพ่วงขับรถใจเย็นๆ กันได้ไหมคะจ่า ไม่รู้ว่าเค้ามีเรื่องอะไรกับกะบะกันมาก่อน แต่ใจคอจะเอาให้ลงข้างทางกันเลยหรอคะ รถตู้พลอยซวยไปด้วยเลย อันตรายมากๆ ค่ะ เช้านี้เลย ตอน 6 โมงเช้าค่ะ น่ากลัวมาก เกิดแถวๆ เส้นไปวังน้อย สระบุรี”
ล่าสุด วันที่ 28 มีนาคม 2567 พล.ต.ต.คงกฤช เลิศสิทธิกุล ผบก.ทล. ผบก.ทล. หลังจากที่รับทราบเรื่องดังกล่าว ได้มีการสี่ง สั่งการให้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ร่วมกับ พ.ต.อ.สมเจตน์ แม้นบุตร ผกก.สภ.วังน้อย ร่วมกันสืบสวนติดตาม ผู้ขับขี่รถบรรทุกพ่วง ทั้ง 2 คัน ที่ปรากฏตามคลิป จนทราบว่าเป็นรถบรรทุก ของผู้ประกอบการรายหนึ่งในพื้นที่ จ.สระบุรี จึงประสานให้ผู้ขับขี่ มาพบพนักงานสอบสวน สภ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา
ต่อมา ทราบชื่อคนขับรถบรรทุก ที่ขับปาดหน้ากัน คือ นายธนู (สงวนนามสกุล) อายุ 40 ปี และ นางสุนทรี (สงวนนามสกุล) อายุ 37 ปี สองสามีภรรยา เป็นชาวจังหวัดสระบุรี พร้อมกับ แจ้งข้อกล่าวหา “ขับรถไม่คำนึงถึงความปลอดภัย ในชีวิตหรือร่างกายของผู้อื่น” ต้องระหว่างโทษจำคุก 1ปี หรือปรับตั้งแต่ 5000 บาทถึง 20,000 หรือทั้งจำและปรับ
- พี่กะเทย สุขุมวิท11 ใช้มีดไล่แทง บาดเจ็บสาหัส
- สลดกลางตลาด! คนร้ายแฝงตัว ประกบยิงพรานทหารหญิงดับคาที่
- ผิดแค่ไหน! พ่อค้าร้านขาหมูประกาศหยุดขาย หลังถูกร้องเรียนเสียงดัง
ก่อนปรากฎคลิปขับรถปาดหน้า
ด้าน นายธนู เล่าว่า ตนและภรรยาขับรถบรรทุกพ่วงคนละคัน ที่ปรากฏตามคลิป วันเกิดเหตุ เดินทางกลับจากไปส่งสินค้า ช่วงที่ออกมาจากถนนมอเตอร์เวย์ เข้าถนนพหลโยธิน มุ่งหน้าไปจ.สระบุรี รถกระบะบีบแตรใส่ และเปิดไฟกระพริบที และขับไล่จี้ ซึ่งรถกระบะคันดังกล่าวพยายามเบรกให้ชนท้าย ทำให้ตนเกิดความโมโห จึงโทรบอกกับภรรยาว่ามีปัญหา กับรถกระบะ
ภรรยาจึงพยายามขับไล่บี้รถกระบะคันดังกล่าวเพื่อจะเรียกจอดถาม กระทั่งมาถึงจุดเกิดเหตุ ภรรยาขับประกบท้ายรถกระบะแต่ไม่ได้ตั้งใจจะตบให้ตกถนน
ส่วนตนพยายาม ขับไปประกบด้านหน้าเพื่อ ให้รถกระบะคันดังกล่าวจอด จังหวะนั้นรถของตนเองไปเฉี่ยวกับรถตู้ที่วิ่งอยู่บนถนน จนเสียหาย ขณะนั้นตนเองกำลังอารมณ์ร้อนอยู่จึงไม่ได้จอดทันที ยังพยามขับรถตามไปให้รถกระบะ รถตู้คันที่เสียหายก็ขับตามไปจนกระทั่งตนจอดริมทางและเคลมประกันกับรถตู้
หลังจากมีการเผยแพร่คลิปออกไป ตนเองถูกเจ้านายตำหนิและถูกกระแสสังคมโจมตี ไปต่างๆนาๆ หาว่าเมาเกิดยาบ้าแล้วขับขี่หรือไม่ ซึ่งตนขอชี้แจงว่าไม่ได้เมาหรือเสพยาบ้า แต่เกิดจากที่ตนเองหัวร้อน ขอยอมรับผิดสิ่งที่ทำลงไปด้วยความโมโหหัวร้อน ควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ จะจำเหตุการณ์ครั้งนี้ไว้เป็นบทเรียนเนื่องจากตนเองก็ยังมีลูกเล็ก หากเกิดอะไรขึ้นอีกก็จะถูกไล่ออกออกจากงาน
ชมคลิป