เมื่อเวลา 01.11 น. วันที่ 25 มิ.ย. ร.ต.อ.ทัศนา ทองเปี้ย รองสวป.สน.แสมดำ รับแจ้งจากห้องวิทยุสน.แสมดำ ว่า ได้รับแจ้งเหตุผ่าน 191 ได้โอนเหตุมาจาก สน.ท่าข้าม ว่า มีเหตุปล้นทรัพย์ ผู้แจ้งยืนรอเจ้าหน้าที่อยู่บริเวณปากทางถนนสะแกงาม แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กทม. จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ
เมื่อไปถึงพบผู้แจ้งทราบชื่อต่อมาว่า นายสุทธิวงษ์ อายุ 21 ปี ให้ข้อมูลว่า เมื่อเวลาประมาณ 21.00 น.วันที่ 24 มิ.ย.ที่ผ่านมา ผู้แจ้งพร้อมกับเพื่อนจำนวน 1 คน ได้มานั่งดื่มสุราที่ร้านอาหารเหมียวหัวโค้ง ถนนสะแกงาม กระทั่งเวลา 23.00 น. ผู้แจ้งได้เดินออกมาโทรศัพท์พูดคุยกับมารดา ห่างจากร้านดังกล่าวประมาณ 200 เมตร ได้มีคนร้ายเป็นชาย 6 คน ใช้อาวุธปืนบังคับเอาทรัพย์สินไปประกอบด้วยโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง และเงินสด 4,500 บาท แล้วหลบหนีมุ่งหน้าปากทางถนนสะแกงาม หลังเกิดเหตุผู้แจ้งได้เดินมาตามถนนสะแกงามไปถึงบริเวณปากทางถนนสะแกงาม เมื่อพบกับเจ้าหน้าที่ อปพร. 1 นาย จอดรถอยู่บริเวณดังกล่าว ก่อนเข้าไปขอความช่วยเหลือโดยให้เจ้าหน้าที่ อปพร.โทรแจ้งเหตุผ่านระบบ 191 จากนั้นมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางมายังที่เกิดเหตุ
จากการซักถามผู้แจ้งพร้อมกับนำตัวผู้แจ้งนำชี้จุดสถานที่เกิดเหตุ และซักถามรายละเอียดเพิ่มเติม เพื่อให้ทราบถึงเหตุการณ์และข้อเท็จจริง เจ้าหน้าที่สังเกตพบว่า ผู้แจ้งให้การวกวน มีพิรุธถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จึงได้นำตัวมายังสน.แสมดำ เพื่อทำการซักถาม กระทั่งผู้แจ้งได้ยอมรับกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าไม่มีเหตุการณ์ปล้นทรัพย์เกิดขึ้นแต่อย่างใด เหตุการณ์ทั้งหมดผู้แจ้งได้โกหกเรื่องขึ้น พร้อมกับเล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่าตามวันเวลาดังกล่าว ผู้แจ้งได้ไปนั่งดื่มกินกับเพื่อนที่ร้านอาหารดังกล่าวจริง จนเวลาประมาณ 23.00 น.พนักงานภายในร้านได้นำบิลค่าอาหารมาเรียกเก็บจำนวน 1,480 บาท แต่ตนเองไม่มีเงินชำระ จึงได้นำโทรศัพท์มือถือของตนเองมอบให้กับทางร้านเพื่อประกันว่าจะนำเงินมาชำระค่าอาหารในภายหลัง
ส่วนเพื่อนที่มาพร้อมกันไม่ทราบว่าได้ออกจากร้านไปในช่วงเวลาไหน จากนั้นตนเองจึงได้เดินมาตามถนนสะแกงาม จนมาพบกับเจ้าหน้าที่ อปพร.จึงได้โกหกเรื่องที่เกิดขึ้น พร้อมกับให้เจ้าหน้าที่คนดังกล่าว โทรแจ้งเหตุว่ามีเหตุปล้นทรัพย์ โดยแรงจูงใจในการโกหกกรณีดังกล่าว เนื่องจากมีอาการมึนเมาสุรา และประสงค์ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ พาตัวไปส่งยังห้องพัก
จากการสอบถามข้อมูลจากทางร้านอาหารดังกล่าว ได้ให้ข้อมูลว่า ผู้แจ้งได้มาพร้อมกับเพื่อน 1 คนได้มาทานอาหารที่ร้านดังกล่าวจริง แต่ไม่มีเงินชำระค่าอาหาร ผู้แจ้งจึงได้นำโทรศัพท์มอบให้กับทางร้าน โดยแจ้งว่าจะนำเงินมาชำระให้ภายหลัง
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุม นายสุทธิวงศ์ ดำเนินคดีในข้อหา แจ้งข้อความอันเป็นเท็จแก่เจ้าพนักงานซึ่งอาจทำให้ผู้อื่นหรือประชาชนเสียหาย นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.แสมดำ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย