ปคม.รวบหญิงวัย 51 ปี นายหน้าค้ามนุษย์โรฮิงยา เครือข่ายพล.ท.มนัส คงแป้น เผยเป็นหนึ่งในผู้ต้องหาที่ต้องการตัวมากที่สุด หนีคดีมากบดานที่เมืองกาญจน์

เมื่อวันที่ 1 พ.ย.65 พล.ต.ต.ศารุติ แขวงโสภา ผบก.ปคม.สั่งการ พ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.3 บก.ปคม.พ.ต.ต.เชษฐ์ศุภากร พิริยะพงษ์พันธ์ สว.กก.3 บก.ปคม.นำกำลังจับกุม น.ส.ศศิธร (สงวนนามสกุล) อายุ 51 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดนาทวี ที่ 397/2558 ลงวันที่ 11 ส.ค.2558

ข้อหา “สมคบและร่วมกันตั้งแต่สามคนขึ้นไปค้ามนุษย์บุคคลอายุไม่เกิน 15 ปี, ร่วมกันช่วยเหลือบุคคลต่างด้าวที่เข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่นโดยทำให้ปราศจากเสรีภาพและเรียกค่าไถ่”

และ หมายจับศาลจังหวัดนาทวี ที่ 420/2558 ลงวันที่ 11 ส.ค.2558 ข้อหา “สมคบกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน” ได้บริเวณริมถนนพื้นที่ ม.3 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี

ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อปี 2558 มีการพบศพถูกฝังไว้เป็นจำนวนมาก บนเทือกเขาแก้ว ม.8 ต.ปาดังเบซาร์ อ.สะเดา จ.สงขลา ซึ่งใกล้กับค่ายสำหรับพักและกักขังชาวโรฮิงยาจากเมียนมาและบังกลาเทศ ที่หลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย เพื่อส่งผ่านไปยังประเทศมาเลเซีย

ภายหลังสอบสวนขยายผลไปสู่ขบวนการค้ามนุษย์ พบการเชื่อมโยงบุคคลทั้งข้าราชการระดับสูง นักการเมืองท้องถิ่น และนายหน้าจากเมียนมา จนกระทั่งจับกุม พล.ท.มนัส คงแป้น อดีตผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก พร้อมกับพวก หลังพบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการดังกล่าว

ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมสืบทราบว่า น.ส.ศศิธร ผู้ต้องหารายนี้เป็นกลุ่มนายหน้าจัดหาแรงงานชาวโรฮิงยา รวมถึงรับโอนเงินผลประโยชน์จากเครือข่ายค้ามนุษย์จำนวนหลายครั้ง และเป็นหนึ่งในผู้ต้องหาที่ต้องการตัวมากที่สุดรายหนึ่ง ที่หนีมาซ่อนตัวอยู่ที่ จ.กาญจนบุรี จึงตามจับกุมตัวได้ดังกล่าว

สอบสวน น.ส.ศศิธร ให้การปฏิเสธ จึงนำตัวส่งคณะพนักงานสอบสวนคดีโรฮิงยา ตามที่อัยการสูงสุดแต่งตั้งขึ้น ซึ่งเรื่องนี้มีการโอนคดีจากศาลจังหวัดนาทวี มายังศาลอาญา เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไปอีกด้วย