บรรยากาศที่อาคารภูมิพลราชานุสรณ์ 88 พรรษา รพ.ตำรวจสถานที่พักรักษาอาการ ป่วยของ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หลังราชทัณฑ์ส่งตัวจาก เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เข้ามารักษาอาการป่วยที่โรงพยาบาลตำรวจ ตั้งแต่วันที่ 23 ส.ค.ซึ่งเป็นวันเดียวกับที่ นายทักษิณ เดินทางกลับมามอบตัวที่ประเทศไทย และใกล้จะครบ 120 วัน ที่รักษาตัวนอกเรือนจำในวันเสาร์(16ธ.ค.)ซึ่งเป็นวันหยุดปรากฎว่าบรรยากาศเป็นไปอย่างเงียบเหงา มีเพียงเจ้าหน้าที่ตำรวจ 1 นาย ประจำการอยู่เวรประจำบริเวณทางเข้า และมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยหรือ รปภ.ของโรงพยาบาลคอยดูแลความเรียบร้อยตามปกติ
สำหรับ นายทักษิณ ชินวัตร เป็นผู้ต้องขังชั้นเด็ดขาดที่ได้รับการอภัยลดโทษเหลือจำคุกเพียง 1 ปี และถูกจับตาว่าจะได้รับการพักโทษหรือไม่ เนื่องจากผู้ต้องขังที่จะได้รับการพักโทษจะต้องโทษจำคุกไม่ต่ำกว่า 2 ใน 3 ของโทษจำคุกที่ได้รับ และแบบพิเศษ มีเกณฑ์แยกย่อย 3 ข้อ คือ จะต้องเป็นนักโทษที่มีอายุ 70 ปีขึ้นไป, มีภาวะป่วยชราภาพ และต้องโทษไม่น้อยกว่า 1 ใน 3 ของโทษจำคุก
หรือต้องโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไป ซึ่งนายทักษิณ ใกล้ครบรับโทษ 1 ใน 3 หรือ 4 เดือน (120วัน)ในวันที่ 22 ธ.ค.นี้ ประกอบกับ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ได้ส่งหนังสือเวียนแจ้งผู้ว่าราชการจังหวัด เรื่อง ระเบียบกรมราชทัณฑ์ว่าด้วยการดำเนินการสำหรับการคุมขังในสถานที่คุมขัง พ.ศ. 2566 คือ การกำหนดสถานที่คุมขังอื่นที่มิใช่เรือนจำ
โดยเปิดทางให้คุมขังผู้ต้องขังใน “สถานที่สำหรับอยู่อาศัย” หรือ “สถานพยาบาล” ได้ โดยถือเป็นระยะเวลาจำคุก ระเบียบฉบับนี้ มีผลบังคับใช้เมื่อ 7 ธ.ค. ที่ผ่านมาจึงมีการตั้งข้อสังเกตระเบียบดังกล่าวประกาศใช้เป็นการเอื้อประโยชน์ให้นายทักษิณ หรือไม่ โดยเรื่องดังกล่าวทางกลุ่ม คปท.ได้ทำกิจกรรมคัดค้านเพราะมองว่า กรณีนายทักษิณ เป็นการเลือกปฎิบัติและทำลายกระบวนการยุติธรรม