หลังศาลรัฐธรรมนูญ มีมติ 8 ต่อ 1 ชี้ขาด “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” ไม่มีความผิด ไม่ขาดคุณสมบัติสส. จากการถือครองหุ้น ไอทีวี เพราะไอทีวีไม่ใช่สื่อแล้ว บรรดา สส.ของพรรค และเหล่าด้อมส้มต่างดีใจกันยกใหญ่ ผ่านโซเชียลมีเดียจนติดเทรนต์อันดับ 1 อยู่หลายวัน ประหนึ่ง “พิธา” จะได้กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีได้อีกครั้งก็ไม่ปาน
ทั้งที่ในความเป็นจริง ก็แค่ได้กลับมาทำหน้าที่ สส.ในสภา และเจ้าตัวก็รู้สึกเฉยๆ กับมันเป็นอย่างมาก ในการตอบคำถามกับสื่อหลังรู้ผลคำวินิจฉัย เพราะทุกอย่างมันผ่านเลยไปหมดแล้ว เหมือนสายน้ำไม่มีวันไหลกลับ เสียโอกาสให้กับ เพื่อไทย และ“เศรษฐา ทวีสิน” ไปแล้ว ส่วนหลังจากนี้ “พิธา” จะทำหน้าที่ สส.นำก้าวไกล แม้จะไม่ดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรค ไม่มีตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้าน ได้โดดเด่น ไฉไลกว่าเดิมแค่ไหน อาจเป็นคำถาม ที่รอเวลาเป็นเครื่องพิสูจน์
เพราะบอกได้เลย ก้าวไกล ทั้งในสภา และนอกสภา ตอน “พิธา”ถูกแขวน มันจืดชืด ไร้สีสัน ไม่มีชีวิตชีวา เอาเสียเลย แถมยังถูกมองเป็นฝ่ายค้านที่ไม่จริงใจ ไม่จริงจัง เพราะยังฝังใจกับรักครั้งเก่า ไมตรีจิตครั้งก่อนอยู่ แบบแกล้งลืมไปว่า “หมอชลน่าน” เคยประกาศแล้ว ไม่มีวันจับมือก้าวไกลหากไม่มีรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ในวันที่เสนอชื่อโหวต “เศรษฐา” เป็นนายกรัฐมนตรี
น่าสนใจว่า บทบาทของ “พิธา” เมื่อกลับมาแล้ว และประกาศโรดแม็ป ชู 6 วาระสำคัญแล้ว จะสามารถนำพาก้าวไกลกลับไปเป็นฝ่ายค้านที่เข้มข้น ดุดัน ไม่เกรงใจใครเหมือนเมื่อครั้งเผชิญหน้า กับรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ ได้หรือไม่ เพราะตลอดระยะเวลา 5 เดือนที่ผ่านมา มีเพียง “ศิริกัญญา ตันสกุล” เพียงคนเดียวเท่านั้น ที่ตรวจสอบ และโต้แย้งนโยบายรัฐบาล ด้านเศรษฐกิจอย่างจริงจัง เป็นเนื้อเป็นหนังมากที่สุด แต่ประเด็นสังคมประเด็นความเท่าเที่ยม ความเสมอภาค การบังคับใช้กฏหมายและกระบวนการยุติธรรม ที่ก้าวไกลเรียกร้องมากตลอด กลับอ่อนแอลง ไม่โดดเด่นเลย
ตัวตึงหลายคนเงียบไปหมด ในเรื่อง “ชั้น 14 ทักษิณ ชินวัตร” ไม่รู้เป็นเพราะอะไร “รังสิมันต์ โรม” พูดคนแรก พาดพิงนิดหน่อยโดนทัวร์ลงแล้วหายเลย “ชัยธวัช ตุลาธน” ในฐานะผู้นำฝ่ายค้าย พยายามอยู่ 2 ครั้งตั้งกระทู้ถามในสภา กับ วันอภิปรายงบประมาณ แต่ก็ไม่ได้เข้มข้นเท่าที่ควร และไม่ได้คาดคั้นเพื่อจะเอาคำตอบ เอาความจริงมาให้เห็น ว่า “ชั้น14” เป็นอภิสิทธิ์ชนเหนือคนอื่น ตรงข้ามกับแนวทางของก้าวไกล ที่ต่อสู้มาตลอดอย่างไร
ส่วน “พิธา” เคยพูดอยู่ครั้ง หรือ 2 ครั้ง ก็ไม่ชัดเช่นกันหลังจากกลับมาเป็น สส.แล้ว ถ้าจะให้ดีต้องกอบกู้จุดยืนของพรรคในเรื่องนี้เป็นประเด็นแรก จะเป็นเรื่องที่ดีมาก แต่หากยังทำแบบลูบหน้าปะจมูกแบบที่ทำกันในช่วงก่อนหน้านี้ การกลับมาของ ”พิธา” ก็คงช่วยอะไรก้าวไกลได้ไม่มาก และจะเป็นเพื่อไทย กับ ”เศรษฐา” ที่จะโกยคะแนนนิยมกลับคืนไปในที่สุด เมื่อ “พิธา” กลับมาแล้ว ต้องออกหมัดหนักๆ ได้แล้วในหลายๆ เรื่อง เพื่อก้าวไกลในวันข้างหน้า เพราะหากไม่ทำอะไรเลย ก็คงเป็นได้แค่”นายกฯทิพย์” เท่านั้นเอง