เสรีพิศุทธ์ ชี้ท่าทีพรรคเศรษฐกิจไทย ส่งผลเสถียรภาพรัฐบาลในศึกซักฟอก เชื่ออาจต้องซื้อเสียงฝ่ายค้าน ให้อยู่รอด มองพรรคเล็กตั้งกลุ่ม 16 หวังเรียกรับผลประโยชน์
เมื่อวันที่ 10 ก.พ.2565 ที่รัฐสภา พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย กล่าวถึงการโหวตร่างกฎหมายของส.ส.พรรคเศรษฐกิจไทย ที่เห็นด้วยกับพรรคร่วมฝ่ายค้าน เมื่อวันที่ 9 ก.พ.ที่ผ่านมาว่า เรื่องพรรคเศรษฐกิจไทย ประเมินแล้วเห็นว่าไม่ใช่เรื่องผลประโยชน์ทางการเมือง และไม่มีเหตุจำเป็นต้องมาโหวตให้พรรคฝ่ายค้าน
ส่วนที่พรรคเศรษฐกิจไทยต่อรองเก้าอี้รัฐมนตรีนั้น มีเพียงกระแสข่าว แม้จะมีความเป็นไปได้ แต่สถานการณ์ขณะนี้ที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) แตกออก เชื่อว่าไม่มีการต่อรองเก้าอี้รัฐมนตรีแล้ว แม้จะยกเก้าอี้รัฐมนตรีว่าการให้ 2-3 ตำแหน่ง ก็คงไม่เอาแล้ว
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวต่อว่า หากพรรคเศรษฐกิจไทยไม่ได้เข้าร่วมพรรครัฐบาล เมื่อถึงเวลาลงมติ หากไม่เห็นด้วยกับรัฐบาล คือไม่เอา และไม่จำเป็นต้องบอกว่าอยู่กับพรรคฝ่ายค้าน สามารถอยู่กลางได้ แน่นอนว่าท่าทีและจุดยืนของพรรคเศรษฐกิจไทย จะส่งผลต่อเสถียรภาพของรัฐบาลในการอภิปรายไม่ไว้วางใจตามรัฐธรรมนูญมาตรา 151 ในสมัยประชุมสภาหน้า เพราะเสียงฝั่งรัฐบาลจะลดลง แต่อาจจะมากกว่าฝ่ายค้านเล็กน้อย
ดังนั้น รัฐบาลอาจต้องไปซื้อคะแนนจากฝ่ายค้าน เพื่อหวังรักษาเสถียรภาพของรัฐบาลให้อยู่รอดต่อไปได้ ซึ่งกลุ่มที่อาจได้เป็น ส.ส.แค่เพียงสมัยนี้ ก็อาจเลือกรับประโยชน์ แลกกับการโหวตสนับสนุน
ส่วนที่พรรคเล็ก ตั้งกลุ่ม 16 โดยมีนายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยศรีวิไลย์ เป็นผู้ประสานงานนั้น พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า เป็นการรวมตัวส่งสัญญาณเพื่อต่อรองทางการเมือง หรือเรียกรับผลประโยชน์ทางการเมือง เนื่องจากในการเลือกตั้งครั้งต่อไป ระบบเลือกตั้งบัตร 2 ใบ พรรคเล็กจะเสียเปรียบ อาจไม่ได้กลับมาอีก พรรคเสรีรวมไทยก็เสียเปรียบเช่นกัน