จับคาไลฟ์ "แพรรี่ ดาวยั่ว" หลอกพ่อบ้านขี้เหงา ขอดูไซซ์หนอนน้อย ก่อนใช้ภาพลับรีดเงิน

Home » จับคาไลฟ์ "แพรรี่ ดาวยั่ว" หลอกพ่อบ้านขี้เหงา ขอดูไซซ์หนอนน้อย ก่อนใช้ภาพลับรีดเงิน
จับคาไลฟ์ "แพรรี่ ดาวยั่ว" หลอกพ่อบ้านขี้เหงา ขอดูไซซ์หนอนน้อย ก่อนใช้ภาพลับรีดเงิน

จับคาไลฟ์ “แพรรี่ ดาวยั่ว” หลอกพ่อบ้านขี้เหงา ขอดูไซซ์หนอนน้อย ก่อนใช้ภาพลับขู่แบล็กเมล์รีดเงิน

(23 มิ.ย.66) พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) สั่งการให้ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. และหัวหน้า PCT ชุดที่ 5 ร่วมกับเจ้าหน้าที่ ศปอส.ตร. (PCT) ชุดที่ 5 และ ชุดสืบนครบาล (บก.สส.บช.น.) นำกำลังสืบสวนติดตามจับกุม นายเอกพล หรือ แพรรี่ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 29 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนครปฐมที่ จ.212/2566 ลงวันที่ 4 เม.ย.2566 ข้อหา “ร่วมกันรีดเอาทรัพย์” จับกุมตัวได้ที่ ห้องพักย่านบางกอกใหญ่ กทม.

 สืบเนื่องจากช่วงปี พ.ศ.2564 มีขบวนการสาวข้ามเพศแสบรายหนึ่ง ต่อมาทราบชื่อคือ นายเอกพล หรือ แพรรี่ หนึ่งในผู้ก่อเหตุ ออกอาละวาดหลอกลวงในโลกโซเชียล โดยแผนประทุษกรรมของขบวนการนี้ จะแฝงตัวอยู่ในทวิตเตอร์ โพสต์รูปภาพส่วนตัวลักษณะวาบหวิวผ่านทวิตเตอร์ และหาเหยื่อที่เป็นชายขี้เหงาเพื่อจะ “นัดเจอ”

เมื่อมีผู้ชายตกเป็นเหยื่อแล้ว ก็จะทำทีแชตสนทนา ใช้มารยาต่าง ๆ นานา ขอให้ผู้เสียหายส่งรูปภาพ ขนาดอวัยวะเพศมาให้ดูก่อน เพื่อประกอบการตัดสินใจ เมื่อเหยื่อหลงเชื่อส่งรูปให้ ผู้ต้องหากลับข่มขู่ว่าหากไม่อยากถูกนำรูปภาพดังกล่าวไปโพสต์ประจานในโซเชียล หรือส่งให้ “ภรรยา” ต้องโอนเงินให้ ตอนแรก ๆ ผู้เสียหายกลัวจึงยอมโอนเงินให้ครั้งละ 500-1,000 บาท แต่ผู้ต้องหาก็ยังข่มขู่เรื่อยมา บางครั้งให้โอนเงิน 4-5 ครั้งต่อวัน โดยทั้งหมดโอนไปกว่า 40,000 บาท จึงทนไม่ไหวเข้าแจ้งความดำเนินคดี พ่อบ้านผู้เสียหายบางรายถึงขั้น “อยากฆ่าตัวตาย”

ต่อมาเจ้าหน้าที่สืบสวนทราบว่า ขบวนการนี้มี นายเอกพล ซึ่งต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ออกหมายจับผู้ต้องหา โดย พล.ต.ต.ธีรเดช ได้สั่งการเจ้าหน้าที่ตำรวจชุด PCT5 และสืบนครบาล ติดตามจับกุม จนกระทั่งจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ที่ห้องพักดังกล่าว ขณะที่กำลังไลฟ์สดอยู่ในห้องพักจนติดตามจับกุมตัวได้ดังกล่าว

 

จากการสอบสวน นายเอกพล ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่า ตนจบการศึกษาชั้น ปวช. เป็นสาวประเภทสอง แต่ยังไม่ได้ผ่าตัดแปลงเพศ ปัจจุบันหาเลี้ยงชีพด้วยการไลฟ์สด 18+ ผ่านแอปพลิเคชัน M Live โดยทั่วไปจะมีคนดูประมาณ 10,000 คน และช่องของตนมีผู้ติดตามกว่า 300,000 คน

นายเอกพล ให้การต่อว่า ส่วนเรื่องทางคดีนั้นเกิดนานแล้ว ยืนยันว่า ตนไม่เกี่ยวข้อง ความผิดทั้งหมดเกิดจาก นายปิยฉัตร (ขอสงวนนามสกุล) ที่ถูกจับกุมไปนานแล้ว หลังจากจับกุมตัว เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้นำตัว ส่งที่ สภ.เมืองนครปฐม เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ด้าน พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเชื่อว่ายังมีกลุ่มมิจฉาชีพอีกหลายรายที่มีพฤติการณ์ในลักษณะเดียวกันกำลังหาเหยื่อในกลุ่มพ่อบ้านหรือหนุ่มอารมณ์เปลี่ยวตกหลุมพราง และกลายเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพเหล่านี้ นอกจากจะสูญเงินเป็นจำนวนมากแล้ว ยังจำต้องแลกมาด้วยชื่อเสียงอีกด้วย และที่สำคัญคือ บาดแผลทางจิตใจที่ยากต่อการเยียวยา จนบางรายไม่กล้าจะเข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ และบางรายถึงขั้นคิดจะจบชีวิตตัวเองเพื่อหนีกับอดีตที่ผิดพลาด

พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวต่อว่า ด้วยจุดอ่อนเหล่านี้กลุ่มมิจฉาชีพจึงใช้เป็นช่องทางรีดเอาทรัพย์ โดยไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย จึงขอฝากเตือนทุกท่านที่ต้องการหาเพื่อนหรือพูดคุยกับบุคคลอื่นๆ ให้พึงระลึกไว้ก่อนว่า “รู้หน้า ไม่รู้ใจ” และขอแจ้งประชาสัมพันธ์ไปยังเหล่าพ่อบ้านหรือบุคคลใด ที่เคยตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ สามารถติดต่อให้เบาะแสทาง เฟซบุ๊กเพจ “สืบนครบาล IDMB”

พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวอีกว่า เรามีเจ้าหน้าที่พร้อมให้คำแนะนำ “แม้ไม่ใช่คดีอุกฉกรรจ์แต่หากเป็นเรื่องความเดือดร้อนของประชาชน ถ้าเราทำได้ เราทำทันที” ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ และ พล.ต.ท.ธิติ

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ