วันที่ 28 มี.ค.2567 สืบเนื่องจากช่วงเช้า เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.ป. ได้คุมตัว นายจักรภพ เพ็ญแข อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในสมัยรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช ผู้ต้องหาคดี ร่วมกันมีอาวุธ เครื่องกระสุนปืนและวัตถุระเบิด ที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย และเป็นอั้งยี่ เดินทางมายังกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) เพื่อสอบปากคำตามขั้นตอนกฎหมาย หลังเข้าจับกุมตัวได้ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา โดยมี พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รองผบก.ป. มาสอบสวนด้วยตนเอง

ล่าสุด นายจักรภพ เพ็ญแข อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้รับการประกันตัวแล้ว โดยก่อนหน้านี้ นายโชคชัย อ่างแก้ว ทนายความส่วนตัว จะขอประกันตัวโดยวางหลักทรัพย์ 2-3 แสนบาท ต่อคดีความ ซึ่งคดีดังกล่าวมีอายุความ 20 ปี

หลังจากที่ นายจักรภพ เพ็ญแข เดินทางออกมานั้นได้ให้สัมภาษณ์ ถึงเรื่องนี้ว่า วันนี้ผมกลับมามอบตัวเพื่อสู้คดี เกี่ยวกับคดีอาวุธ 2 คดี ที่ศาลพระนครศรีอยุธยา 1 คดี และที่ศาลอาญากรุงเทพ 1 คดี

ผมได้ประสานกับทนายความโชคชัย ติดต่อกับเจ้าหน้าที่ทำให้การทำงานวันนี้ราบรื่น ส่วนผลจะเป็นยังไงก็ขึ้นอยู่กับกระบวนการยุติธรรม ผมออกจากประเทศไทยไปตั้งแต่ปี 2552 แล้วกลับมาก็ 15 ปีเต็ม รู้สึกว่าเสียดายเวลาที่จะได้รับใช้ประเทศชาติไปเยอะ จากนนี้ตั้งใจว่า อะไรที่ทำได้ก็จะทำ การเมืองเป็นอะไรที่วิถีทางหนึ่ง การทำงานด้านการต่างประเทศและบทบาทต่างๆ ผมก็จะรับทำต่อไปเรื่อยๆ เมื่อพ้นจากเรื่องคดีแล้วก็จะทำตัวให้มีประโยชน์

เรื่องการประกันตัว ทนายโชคชัย ได้กล่าวเสริมว่า ได้รับการประกันตัวแล้วเรียบร้อย โดยไม่มีเงื่อนไขอะไร และยื่นประกันตัวคดีละ 2 แสนบาท

• ‘ไอ้ด้วน’ ลิงหัวโจกยังลอยนวล เจ้าหน้ายุติการจับ หลังมีกรงไม่พอ

• ‘บิ๊กเต่า’ โต้ทันควัน! ไม่เคยเลียตูดนาย หลังถูกกล่าวหาว่าเป็นเด็ก ‘บิ๊กต่อ’

• ‘จักรภพ เพ็ญแข’ ปล่อยคลิป เปิดใจครั้งแรก หลังลี้ภัยนับสิบปี

ถ้าไม่มั่นใจในกระชวนการยุติธรรมก็จะไม่กลับมา ผมพูดเอาไว้เมื่อตอนยึดอำนาจเมื่อปี 2549 ตอนนั้นไม่มั่นใจจริง แต่ 10 กว่าปีนี้คิดอะไรได้เยอะ และประเทศไทยก็เปลี่ยนแปลงไปเยอะมาก ผมสังเกตได้เยอะว่า การเมืองในภาพใหญ่เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น

หลังจากมีกระแสว่าเหตุผลที่กลับมามีเรื่องเดียวนั้น นายจักรภพ กล่าวว่า มองว่าเรื่องเดียวมันก็แปลก แต่ทุกอย่างที่มาถึงขนาดนี้ ไม่มีอะไรที่เกิดขึ้นโดยไม่มีการพูด แต่การพูดกันไม่ใช่การแลกกัน กลับมาแล้วแลกอันนี้กัน แล้วมันถึงเวลาแล้วที่จะหาจุดร่วม แทนที่จะหาจุดต่างแล้วมาทะเลาะกัน

เมื่อถามว่า 15 ปี ที่รอคอย อยากจะบอกอะไรที่มาเยือน นายจักรภพ กล่าวว่า มันนานเพราะมันคิดถึงเมืองไทยทั้งวัน พ่อกับแม่ก็เสียไปทั้งคู่ ส่วนตัวเองกี่ปีก็รอได้ แต่ถ้าเราคิดถึงโอกาสที่เสียไป มันก็เสียดาย ก็เลยพยายามทำใจไม่ให้คิดแบบนี้

เมื่อถามว่าหากรัฐบาลทาบทามให้มาช่วยงาน นายจักรภพ กล่าวว่า ยินดีรับใช้ชาติ หากรัฐบาลทาบทาม แต่จะไม่ไปในกรณีที่ทำให้เกิดความขัดแย้งในภาพรวมและพรรคการเมือง หากมีปัญหาจะอยู่เบื้องหลัง

เมื่อถามว่าติดต่อนายทักษิณ ชินวัตร ก่อนเดินทางกลับมาหรือไม่ นายจักรภพ กล่าวว่า ได้โทรศัพท์คุยกัน 1 ครั้ง ท่านพูดคำสำคัญคำหนึ่งว่า “หลายอย่างเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น” เราพูดได้เท่านี้ แต่ไม่ได้พูดคุยเรื่องคดี เพราะเป็นคดีที่คนละแบบกัน แต่ละคนก็ต้องทำการบ้านของตัวเอง

สุดท้ายนี้ นายจักรภพ กล่าวว่า จากนี้จะเข้ามารายงานตัวและสอบปากคำในวันที่ 22-23 เม.ย. และจากนี้จะไปไหว้อัฐิพ่อแม่ หลังจากที่ลี้ภัยไปนานกว่า 15 ปี