สืบเนื่องจากกรณี พลตำรวจโทจิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ได้ลงนามในคำสั่งให้ พล.ต.ต.พฤทธิพงศ์ นุชนารถ ผู้บังคับการตำรวจน้ำ (ผบก.รน.) ไปปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เป็นการชั่วคราว เพื่อให้การสืบสวนสอบสวนเกิดความเป็นธรรม และที่สำคัญที่สุดเพื่อให้มีความโปร่งใสจึงจำเป็นต้องโยกย้าย ตามที่ได้มีการนำเสนอไปนั้น

พล.ต.ต.พฤทธิพงศ์ นุชนารถ ผู้บังคับการตำรวจน้ำ ยอมรับว่า รับทราบคำสั่งที่ถูกให้ไปปฏิบัติราชการ ที่ศูนย์ปฏิบัติการกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เป็นการชั่วคราวแล้ว ส่วนรายละเอียดหรือเหตุผล ขอให้สอบถามผู้บังคับบัญชา

โดยยืนยันว่า ส่วนตัวเป็นผู้เสนอให้ผู้บังคับบัญชาพิจารณาโยกย้ายเอง เพื่อเปิดทางให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีเรือบรรทุกน้ำมันเถื่อน 330,000 ลิตร 3 ลำ หายไปจากการควบคุมของสถานีตำรวจน้ำสัตหีบ แม้จะติดตามเรือทั้ง 3 ลำ กลับมาได้ แต่น้ำมันเถื่อนของกลางสูญหายไป เพื่อให้การสอบสวนเป็นไปอย่างโปร่งใส ก็พร้อมให้มีการตรวจสอบ โดยได้มีการเสนอขอย้ายตัวเอง ตั้งแต่ตามเรือคืนมาได้แล้ว

แต่ขณะนั้น ผู้บังคับบัญชา ขอให้ผลการสอบวินัยออกมาก่อน ซึ่งต่อมา พบความผิดตำรวจน้ำชั้นประทวน 3 นาย และถูกตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรง ทำให้ผู้บังคับบัญชามีคำสั่งนี้ออกมา

• อุกอาจ! คนร้ายบุกเดี่ยว ชิงทองคำ 60 บาท กลางห้างชื่อดังเชียงใหม่

• ยังไงกันแน่! สาเหตุแท้จริง ไฟไหม้เยาวราช เป็นอุบัติเหตุหรือใครตั้งใจ?

• เปิดความสำคัญ อุทยานแห่งชาติทับลาน กับการเพิกถอน ที่ได้ไม่คุ้มเสีย!?

ผู้บังคับการตำรวจน้ำ กล่าวด้วยว่า ไม่มีผู้ใดต้องการให้เกิดปัญหาในหน่วยงานของตัวเอง แต่เมื่อเกิดปัญหาแล้ว หัวหน้าหน่วยก็ต้องรับผิดชอบ ฐานบกพร่อง ซึ่งขณะติดตามเรือเพื่อบรรเทาความเสียหาย ไม่กลัวมีเรื่องตามหลังมา เพราะไม่เคยรู้จักเสี่ยโจ้มาก่อน และส่วนตัวไม่โทษลูกน้อง ยอมรับเกิดความบกพร่องจริง

สำหรับกรณีนี้ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ลงนามคำสั่งให้ พล.ต.ต.พฤทธิพงศ์ นุชนารถ ผู้บังคับการตำรวจน้ำ ไปปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เป็นการชั่วคราว โดยให้ปฏิบัติหน้าที่ตามที่ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลางมอบหมาย พร้อมมีคำสั่งให้ พันตำรวจเอกพรศักดิ์ เลารุจิราลัย รองผู้บังคับการปราบปราม ไปรักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจน้ำอีกตำแหน่งหนึ่งด้วย