จบแบบชื่นมื่น! ครูกล้อนผมนักเรียนจนแหว่ง ผู้บริการโรงเรียนเรียกพูดคุย พร้อมขอโทษ ผู้ปกครองไม่ติดใจเอาเรื่อง แต่ห้ามมีเหตุการณ์เกิดขึ้นอีก

จากกรณีเพจ “อยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทริน์ part 3” ได้โพสต์คลิปเด็กนักเรียนชายชั้น ม.2 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน ต.หนองกระทุ่ม อ.เมือง จ.นครราชสีมา ถูกครูฝ่ายปกครองกล้อมผมนับ 10 คน จนแหว่ง หลังคลิปถูกแชร์ต่อกันไป ก็มีการแสดงความคิดเห็นและวิพากษ์วิจารณ์ ส่วนใหญ่ระบุเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสมและเป็นการละเมิดสิทธิของเด็กนักเรียน

ล่าสุดเมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 23 พ.ค.65 นายทวีศักดิ์ สมนอก รอง ผอ.สพม.นม. พร้อม นายพิษณุ คุณชื่น ผู้อำนวยการดังกล่าว ได้เชิญผู้ปกครองและนักเรียนชั้น ม.2 ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ทั้งทางตรงและทางอ้อมจำนวน 29 คน มาพูดคุยและทำความเข้าใจกับระเบียบของกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) บรรยากาศเป็นไปอย่างชื่นมื่น ครูที่เป็นคู่กรณีได้กล่าวขอโทษผู้ปกครองและนักเรียน ซึ่งเข้าใจกับบริบทที่เกิดขึ้น และยืนยันไม่ติดใจต่อการกระทำเพียง แต่กำชับอย่าให้มีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีก จากนั้นได้มีทำบันทึกลายลักษณ์อักษร เพื่อสร้างความสบายใจให้ทั้งสองฝ่าย

นายพิษณุ เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุได้เรียกครูที่ปรากฏอยู่ในคลิปและเด็กนักเรียนที่ถูกกล้อนผมมาสอบถามข้อเท็จจริง ซึ่งครูยอมรับผิดและกล่าวขอโทษเด็กนักเรียนทุกคน จากนั้นได้ทำบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษรว่ากล่าวตักเตือน โดยครูคนดังกล่าวรับปากจะไม่กระทำการเช่นนี้อีกรวมทั้งได้รายงานเรื่องราวให้ สพม.นม.รับทราบแล้ว ครูมีความตั้งใจอยากให้เด็กนักเรียนเรียบร้อยและอยู่ในกฎ ระเบียบวินัยเลยกระทำการลงไป

ด้าน นายทวีศักดิ์ กล่าวว่า ได้เน้นย้ำการลงโทษนักเรียน มีเพียง 4 สถานเท่านั้น คือ ว่ากล่าวตักเตือน, ทำทัณฑ์บน, ตัดคะแนนความประพฤติ และทำกิจกรรม เพื่อให้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม อีกทั้งการลงโทษตามระเบียบมีเจตนาเพียงเพื่อให้ครูใช้แก้นิสัย และความประพฤติไม่ดีของนักเรียน ให้รู้สำนึกในความผิดและกลับมาประพฤติตนในทางที่ดี มิใช่การลงโทษด้วยวิธีรุนแรงหรือแบบกลั่นแกล้ง หรือลงโทษด้วยความโกรธหรือด้วยความพยาบาท

ได้สั่งการให้ครูและบุคลากรของโรงเรียนมัธยมศึกษา 50 แห่ง ในสังกัด สพม.นม. เข้าใจตรงกัน การลงโทษนักเรียนด้วยการตัดผม รวมถึงการใช้ความรุนแรงอื่น เช่น การใช้ไม้เรียว การหยิก ตบ ตีร่างกายหรือการประจานให้อับอาย ฯลฯ ถือเป็นการละเมิดสิทธิทั้งทางร่างกายและจิตใจของนักเรียนและไม่สามารถกระทำการลงโทษได้ เพราะขัดต่อระเบียบของ ศธ.และผิดกฎหมาย