จบหวานเจี๊ยบ! ทหารหอบกระเช้า ขอโทษกู้ภัย หลังแจกของลับ-ตำหนิ การช่วยเหลือคนเจ็บ ลั่นแค่ความเข้าใจผิด เผยอยากให้คนเจ็บได้รับความปลอดภัยสูงสุด
จากกรณีเมื่อช่วงเย็นวันที่ 16 พ.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยกำลังเข้าช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ จากอุบัติเหตุรถยนต์เชี่ยวชนรถจยย. ตรงข้างหมู่บ้านนภาภัณฑ์แลนด์ ต.พลูตาหลวง อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ระหว่างนั้นได้มีทหารเรือเข้ามาแสดงท่าทีและใช้วาจาไม่สุภาพ ต่อว่าการทำงานของเจ้าหน้าที่กู้ภัย รวมทั้งให้ของลับด้วย
ล่าสุดวันที่ 18 พ.ค.66 ที่มูลนิธิสว่างโรจนธรรมสถานสัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ผู้บังคับบัญชาต้นสังกัดได้นำ นายทหารเรือดังกล่าว นำกระเช้ามาขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยมี นายณรงค์ บุญบรรเจิดศรี ประธานมูลนิธิสว่างโรจนธรรมสถานสัตหีบ พร้อมด้วย นายพิชิต เกียกกุทัณฑ์ หัวหน้าหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างโรจนธรรมสถานสัตหีบ และ นายมงคลชัย แสงศิลา อาสาสมัครกู้ภัยฯ คู่กรณีของทหารเรือคนดังกล่าว มาพูดคุย
โดยผู้บังคับบัญชาของนายทหารคนดังกล่าว ได้กล่าวขอโทษถึงพฤติกรรมของกำลังพลในสังกัด กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เนื่องจากช่วงเกิดเหตุ นายทหารคนดังกล่าว ได้ลงไปดูและสงสัยการทำงานของกู้ภัยว่าทำไมไม่รีบนำผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาล จึงได้มีปากเสียงกันขึ้น ซึ่งไม่ได้มีเจตนาที่จะไปหาเรื่องหรือดูหมิ่นกู้ภัยแต่อย่างใด เพียงแค่อยากให้นำผู้บาดเจ็บไปส่งโรงพยาบาลให้เร็วที่สุด หลังเกิดเหตุได้เรียกทหารคนดังกล่าวมาสอบถามและตักเตือนแล้ว ส่วนโทษทางวินัย จะได้สอบสวนตามระเบียบของทางราชการ
ด้าน นายณรงค์ ประธานมูลนิธิฯ กล่าวว่า ทางหน่วยกู้ภัยได้ออกช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ชาวสัตหีบมานานกว่า 30 ปีแล้ว โดยเจ้าหน้าที่ที่ออกไปช่วยเหลือคนเจ็บทุกคน ต้องได้รับการอบรมจากสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินจึงจะสามารถออกไปช่วยเหลือคนเจ็บได้ การช่วยเหลือคนเจ็บนั้นมีขั้นตอนอยู่แล้วว่าต้องทำอะไร ถ้าเกินขีดความสามารถก็ต้องประสานขอกำลังสนับสนุน หรือทีมแพทย์จากโรงพยาบาลเข้ามาช่วยเหลือ เพื่อให้การเคลื่อนย้ายผู้บาดเจ็บได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย เพื่อลดการสูญเสียของผู้บาดเจ็บ
ซึ่งในวันนี้ ทหารได้เข้ามาขอโทษเราก็พร้อมน้อมรับคำขอโทษ เพราะหน่วยกู้ภัยของเราก็ได้ปฎิบัติงานร่วมกับหน่วยทหารในพื้นที่สัตหีบอยู่แล้วในเหตุการณ์สำคัญต่างๆ ร่วมถึงการฝึกร่วมกู้ภัยในหลายๆ ครั้ง แต่ขอให้เข้าใจว่าการทำงานของกู้ภัยนั้น ต้องมีขั้นตอนในการช่วยเหลือคนเจ็บและผู้บาดเจ็บตามที่ได้รับการฝึกฝนมา ซึ่งเป็นเรื่องดีที่ได้มีการพูดคุยกัน เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเข้าใจดีว่านายทหารคนดังกล่าว มีเจตนาดีที่จะให้รีบช่วยเหลือนำคนเจ็บส่งโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน แต่กู้ภัยต้องการให้ผู้ได้รับบาดเจ็บได้รับการช่วยเหลือตามขั้นตอนและปลอดภัยสูงสุด จึงอาจจะไม่เข้าใจกันในเบื้องต้น จนเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นเท่านั้นเอง