เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 9 ก.ค. 67 ศาลจังหวัดกาญจนบุรี นัดสืบพยานโจทก์ ในคดีที่ ร.ต.ท.จรูญ วิมูล หรือ ลุงจรูญ เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายปรีชา ใคร่ครวญ หรือ ครูปรีชา นางรัตนาภรณ์ สุภาทิพย์ หรือ เจ๊บ้าบิ่น และนางพัชริดา พรมตา หรือ เจ๊พัช ในความผิดฐานร่วมกันเบิกความเท็จต่อศาล ซึ่งศาลได้นัดสืบพยานโจทก์สองวันคือวันที่ 9 ก.ค. และวันที่ 10 ก.ค. 67
โดยเมื่อถึงเวลานัด ปรากฏว่าทางฝั่งของโจทก์ที่เป็นฝ่ายยื่นฟ้อง มีเพียงนายษิทราเบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม ทนายความของ หมวดจรูญ เดินทางมาศาล พร้อมด้วยทีมทนายความ โดยไร้เงาของ หมวดจรูญ และภรรยา แต่สิ่งที่แปลกกว่าการขึ้นศาลทุกครั้งก็คือในครั้งนี้ฝั่งของจำเลย คือ เจ๊บ้าบิ่นกลับเดินเข้าประตูศาลมาพร้อมกับทีมงานของทนายตั้ม ก่อนจะแยกย้ายกันที่บริเวณประตูทางเข้า ด้านในห้องพิจารณาคดี
โดยทนายตั้มให้ข้อมูลกับสื่อมวลชนว่า ในวันนี้ศาลได้นัดสืบพยานโจทก์ในคดีที่ หมวดจรูญเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง ครูปรีชา เจ๊พัช และเจ๊บ้าบิ่น ในความผิดฐานร่วมกันเบิกความเท็จต่อศาล เมื่อครั้งการไต่สวนฉุกเฉินอายัดเงินรางวัลที่ได้จากการถูกสลากกินแบ่งรัฐบาล 30 ล้านบาทในบัญชีของหมวดจรูญ ซึ่งในส่วนของครูปรีชานั้น คดีนี้ถือเป็นคดีที่สองที่ถูกหมวดจรูญยื่นฟ้อง หลังจากถูกฟ้องคดีแรก ในคดีฟ้องเท็จ ส่วนเจ๊พัชและเจ๊บ้าบิ่นถูกฟ้อง คดีนี้เป็นคดีแรก
ซึ่งในวันนี้ที่หมวดจรูญไม่ได้เดินทางมาศาลด้วย เนื่องจากต้องไปเยี่ยมพ่อที่มีอาการป่วย ส่วนการสืบพยานโจทก์ในวันนี้ก็คงจะเป็นการสืบพยานในส่วนของทนายตั้มเองส่วนหมวดจรูญก็จะมาให้การสืบพยานในวันพรุ่งนี้ (10 ก.ค. 67) อีกครั้ง
ล่าสุดทนายตั้ม เปิดเผยอีกว่า “คดี 2185/2561 ศาลจังหวัดกาญจนบุรี คดีลุงจรูญ ฟ้องครูปรีชา ป้าบ้าบิ่น ป้าพัช ในความผิดฐานเบิกความเท็จ จำเลยทั้ง 3 รับสารภาพ ศาลนัดตัดสิน 28 ต.ค.67 ที่นัดนานเพราะให้เวลาจำเลยหาเงินมาเยียวยาโจทก์ครับ”
ทนายตั้มยังได้กล่าวติดตลกถึงการเดินทางมาขึ้นศาลในวันนี้ว่า ในช่วงที่เจ๊บ้าบิ่นเดินตามหลังตนเข้ามาภายในบริเวณศาล ได้ยินเสียงเจ๊บ้าบิ่นบ่นพึมพำมาตลอดทางด้วยคำว่า ขอให้กรรมตามทัน ขอให้กรรมตามทัน จึงเชื่อว่าเจ๊บ้าบิ่นน่าจะแค้นตนเองมาก ที่ทำให้เจ๊บ้าบิ่นต้องกลายเป็นจำเลยในคดีเบิกความเท็จในครั้งนี้
ทั้งนี้หลังให้สัมภาษณ์เสร็จ ทนายตั้มได้เผชิญหน้ากับครูปรีชาในจังหวะกำลังจะเดินเข้าไปยังห้องพิจารณาคดี โดยทั้งคู่ต่างส่งยิ้มให้กัน ก่อนจะมีการพูดคุยหยอกล้อกันเล็กน้อย