จตุพร-ทนายนกเขา นำมวลชนยื่นจม.ค้าน อนุสัญญาอินโดแปซิฟิก ที่สถานทูตสหรัฐ ชี้เปิดทางตั้งนาโต้-2 เหมือนเป็นการเลือกข้าง หวั่นกระทบสัมพันธ์กับมิตรประเทศอื่นๆ
เมื่อวันที่11 พ.ค. 2565 ที่ บริเวณด้านหน้าสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกา ถนนวิทยุ กรุงเทพฯ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) พร้อมด้วยนายนิติธร ล้ำเหลือ กลุ่มประชาชนคนไทย (ปท.) และเครือข่ายภาคประชาชน เดินทางไปยื่นหนังสือถึง โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา เพื่อเรียกร้องยกเลิกแถลงการณ์ร่วมไทย-สหรัฐฯและพันธกรณีจากแผนยุทธศาสตร์อินโด-แปซิฟิก และองค์การนาโต 2 โดยมีตำรวจนครบาลจัดเตรียมกำลัง 90 นายดูแลพื้นที่โดยรอบ
ใจความว่า กลุ่มรวมประชาชนมีข้อห่วงกังวลว่า จะเกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อนจากนานามิตรประเทศว่า ประเทศไทยไม่รักษาดุลยภาพของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ หากเกิดความขัดแย้งด้วยกำลังอาวุธขึ้นภายในภูมิภาคนี้ จึงขอเรียกร้องมายังรัฐบาลและประชาชนของสหรัฐอเมริกาดังนี้
1.ยกเลิกแถลงการณ์วิสัยทัศน์ร่วม ระหว่าง ไทย – สหรัฐอเมริกา ค.ศ.2020 ว่าด้วยการยกระดับความเป็นพันธมิตรและความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ด้านการป้องกันประเทศ เพื่อร่วมต่อต้านศัตรู เนื่องจากผู้แทนรัฐบาลไทยไปลงนาม โดยไม่ผ่านความเห็นชอบของรัฐสภา และประชาชนไม่ทราบในรายละเอียดและข้อเท็จจริง จนสร้างผลกระทบต่อความสัมพันธ์อันดีกับมิตรประเทศอื่นๆของไทย
2.ยกเลิกพันธกรณีที่มีผลสืบเนื่องมาจากยุทธศาสตร์ดังกล่าวและพันธกรณีที่มีผลสืบเนื่องไปสู่การจัดตั้งองค์กรนาโต-2 ขึ้นในอาเซียน
3.ขอให้สหรัฐอเมริกายุติการอ้างสนธิสัญญา ข้อตกลง แถลงการณ์ร่วม เพื่อนำไปสู่บทสรุปแต่เพียงฝ่ายเดียวว่า ประเทศไทยจะเป็นพันธมิตรร่วมรบหรือเลือกอยู่ข้างสหรัฐฯ ในการต่อต้าน “ศัตรู” ย่อมไม่ถือเป็นมารยาททางการทูตที่ดีต่อมิตรประเทศ เนื่องจากเป็นเป้าหมายยุทธศาสตร์ของสหรัฐฯแต่เพียงฝ่ายเดียว รวมทั้งจะก่อปัญหาให้เกิดกับประเทศไทย ดังนั้นสหรัฐฯ จึงไม่ควรกระทำการดังกล่าวซ้ำอีก
4.หากสหรัฐอเมริกาจะอาศัยข้ออ้างในการประชุมสุดยอดสหรัฐฯและผู้นำอาเซียน สมัยพิเศษเพื่อดำเนินการใดๆ ร่วมกับ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา จนก่อให้เกิดข้อสงสัยในความสัมพันธ์อันดีของประเทศไทยกับมิตรประเทศอื่นๆ อันเสมือนหนึ่งเป็นการเลือกข้างนั้น ย่อมถือเป็นการกระทำโดยไม่ได้รับฉันทานุมัติจากปวงชนชาวไทย และประซาชนชาวไทยจะร่วมคัดค้านอย่างถึงที่สุด
กลุ่มรวมประชาชน จึงเรียนมาเพื่อขอยืนยันว่า ประชาชนไทยยังคงความเป็นมิตรกับอเมริกา อันถือเป็นความสัมพันธ์ต่อเนื่องยาวนานกว่า 600 ปี บนพื้นฐานความร่วมมือในหลากหลายมิติ ที่ต้องเคารพยอมรับความมีอธิปไตยให้เกียรติซึ่งกันและกันอย่างเท่าเทียม และประเทศไทยยึดมั่นในนโยบายต่างประเทศที่เป็นอิสระ พร้อมเป็นพันธมิตรกับทุกประเทศ ยึดมั่นในเส้นทางของการพัฒนาอย่างสันติ ยืนหยัดต่อความถูกต้อง เพื่อความก้าวหน้าอย่างยั่งยืนของมวลมนุษยชาติ
ด้านนายนิติธร ย้ำว่า หากเป็นการทำเพื่อภาคการท่องเที่ยวหรือภาคเศรษฐกิจสามารถยอมรับได้แต่ถ้ากระทำเป็นการแทรกแซงทางการเมืองประเด็นนี้ยอมรับไม่ได้